RANONG Patient Covid-19 (Weekly Report)
เอกสาร สถานกาณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดระนอง คลิกที่นี่
COVID-19
ส่งผลต่อผู้คนในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง และหายจากโรคได้เองโดยไม่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล
อาการทั่วไปมีดังนี้
มีไข้
ไอ
อ่อนเพลีย
สูญเสียความสามารถในการดมกลิ่นและรับรส
อาการที่พบไม่บ่อยนักมีดังนี้
เจ็บคอ
ปวดศีรษะ
ปวดเมื่อยเนื้อตัว
ท้องเสีย
มีผื่นบนผิวหนัง หรือนิ้วมือนิ้วเท้าเปลี่ยนสี
ตาแดงหรือระคายเคืองตา
วิธีป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากผู้อื่น (อย่างน้อย 1 เมตร) แม้ว่าผู้นั้นจะไม่ได้ป่วยก็ตาม
สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในพื้นที่ปิดหรือเว้นระยะห่างไม่ได้
หลีกเลี่ยงพื้นที่ปิด พยายามอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งและอากาศถ่ายเทสะดวก เปิดหน้าต่างเมื่ออยู่ในพื้นที่ปิด
ล้างมือบ่อยๆ โดยใช้สบู่และน้ำ หรือเจลล้างมือที่มีส่วนผสมหลักเป็นแอลกอฮอล์
รับวัคซีนเมื่อได้รับสิทธิ์ ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในพื้นที่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน
ปิดจมูกและปากด้วยข้อพับด้านในข้อศอกหรือกระดาษชำระเมื่อไอหรือจาม
เก็บตัวอยู่บ้านเมื่อรู้สึกไม่สบาย
หากมีไข้ ไอ และหายใจลำบาก โปรดไปพบแพทย์ โดยติดต่อล่วงหน้าเพื่อที่ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจะได้แนะนำให้คุณไปยังสถานพยาบาลที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณ รวมถึงป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสและการติดเชื้ออื่นๆ
หน้ากากอนามัย
หน้ากากอนามัยที่กระชับกับใบหน้าช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ที่สวมแพร่กระจายไวรัสไปยังผู้อื่น อย่างไรก็ตาม หน้ากากอนามัยเพียงอย่างเดียวป้องกันเชื้อโควิด-19 ไม่ได้ จึงควรรักษาระยะห่างและหมั่นทำความสะอาดมือร่วมด้วย รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขในท้องถิ่น
การดูแลตนเอง
หลังจากสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
โทรหาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพหรือสายด่วนโควิด-19 เพื่อหาสถานที่และเวลาเพื่อรับการตรวจ
ให้ความร่วมมือตามขั้นตอนการติดตามผู้สัมผัสเพื่อหยุดการแพร่กระจายของไวรัส
หากยังไม่ทราบผลตรวจ ให้อยู่บ้านและอยู่ห่างจากผู้อื่นเป็นเวลา 14 วัน
ขณะที่กักตัว อย่าออกไปที่ทำงาน โรงเรียน หรือสถานที่สาธารณะ ขอให้ผู้อื่นนำของอุปโภคบริโภคมาให้
รักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร แม้จะเป็นสมาชิกในครอบครัวก็ตาม
สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น รวมถึงในกรณีที่คุณต้องเข้ารับการรักษา
ล้างมือบ่อยๆ
กักตัวเองในห้องแยกจากสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ หากทำไม่ได้ ให้สวมหน้ากากอนามัย
จัดให้ห้องมีอากาศถ่ายเทสะดวก
หากใช้ห้องร่วมกับผู้อื่น ให้จัดเตียงห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร
สังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน
โทรหาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพทันทีหากพบสัญญาณอันตรายต่อไปนี้ ได้แก่ หายใจลำบาก สูญเสียความสามารถในการพูดและเคลื่อนไหว แน่นหน้าอกหรือมีภาวะสับสน
ติดต่อกับคนที่คุณรักด้วยโทรศัพท์หรือทางออนไลน์ รวมถึงออกกำลังกายที่บ้าน เพื่อให้คุณมีสภาพจิตใจที่ดีอยู่เสมอ
การรักษาทางการแพทย์
นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังค้นหาและพัฒนาแนวทางการรักษาโควิด-19
การรักษาแบบประคับประคองที่ดีที่สุด ได้แก่ การให้ออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง รวมถึงการดูแลระบบทางเดินหายใจขั้นสูงอื่นๆ เช่น การใช้เครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะวิกฤต
เดกซาเมทาโซนเป็นคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่ช่วยลดระยะเวลาใช้เครื่องช่วยหายใจ และช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรืออยู่ในภาวะวิกฤตได้
" หนาวนี้ ระวัง !! ป่วย "
ใส่ใจล้างมือ สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง-กินอาหารมีประโยชน์-หมั่นออกกำลังกาย-ดื่มน้ำ นอนหลับให้เพียงพอ-สวมเสื้อกันหนาวให้อบอุ่น และเสริมภูมิคุ้มกันฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอย่างน้อย 4 เข็ม
แพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หลายพื้นที่ของประเทศไทย เริ่มอยู่ในช่วงสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง จากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว ในภาคเหนือและภาคใต้ยังเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนเป็นพายุฝนก่อนที่อุณหภูมิจะลดลง หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ประกอบกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงอากาศเย็น จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง ดูแลสุขภาพของตนเอง และบุคคลในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ มีความเสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย จึงควรดูแลร่างกายของตนเองให้แข็งแรง