กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือกองทุนที่ลูกจ้างและนายจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
ส่งเสริมการออมระยะยาว เพื่อเป็นประโยชน์ในยามชราภาพของลูกจ้าง
เป็นหลักประกันของครอบครัวกรณีลูกจ้างออกจากงาน เกษียณอายุ ออกจากกองทุนหรือ เสียชีวิต
เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง เพิ่มแรงจูงใจให้ลูกจ้างอยู่กับนายจ้างนานขึ้น
องค์ประกอบของเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เงินสะสม ที่สมาชิกสะสมไว้ทุกๆ ครั้งที่ได้รับค่าจ้าง โดยคาดหวังว่าจะเก็บไว้ใช้เมื่อออกจากงาน หรือเมื่อตอนที่เกษียณอายุอัตราเงินสะสมเริ่มตั้งแต่ 2%-15% ของค่าจ้าง
เงินสมทบ ที่นายจ้างสมทบเข้าไปในกองทุนพร้อมๆกับเงินสะสม โดยถือได้ว่าเป็นสวัสดิการประเภทหนึ่งที่นายจ้างผู้มองการณ์ไกลมอบให้พนักงานที่เป็นสมาชิกกองทุน เพื่อให้พนักงานมี เงินก้อนไว้ใช้เมื่อไม่ได้ทำงานกับนายจ้างแล้ว อัตราเงินสมทบเริ่มตั้งแต่ 3%-15% ของค่าจ้าง
ผลประโยชน์ของเงินกองทุน เป็นส่วนสุดท้ายที่นับว่าเป็นส่วนที่สำคัญยิ่ง ซึ่งงอกเงยมาจากการบริหารกองทุนของบริษัทจัดการ
โครงสร้างการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ประโยชน์ในการจัดตั้งกองทุนสำรองเสี้ยงชีพ
สำหรับนายจ้าง
1. ทำให้ลูกจ้างมีความรู้สึกที่ดีและผูกพันต่อนายจ้าง ส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และขจัดปัญหาการพิพาทแรงงาน
2. ลดอัตราการลาออกจากงานของลูกจ้าง และสร้างแรงจูงใจให้ลูกจ้างทำงานกับนายจ้างนานๆ
3. สร้างภาพพจน์ที่ดีต่อนายจ้างว่าเป็นบริษัทที่มั่นคง และมีสวัสดิการที่ดีให้แก่ลูกจ้าง
4. ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากเงินสมทบที่นายจ้างจ่ายเข้ากองทุน โดยสามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 15 ของค่าจ้างของลูกจ้างแต่ละราย
สำหรับลูกจ้าง
1. เสมือนได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากเงินสมทบที่นายจ้างจ่ายให้ เป็นสวัสดิการเงินได้ที่เพิ่มขึ้นเมื่อออกจากงานหรือเกษียณอายุ
2. เป็นหลักประกันแก่ครอบครัว กรณีสมาชิกทุพพลภาพหรือเสียชีวิต
3. เป็นโอกาสออมเงินเพื่อตนเองและครอบครัวเพิ่มขึ้น
4. เงินออมอยู่ภายใต้การบริหารของมืออาชีพ
5. ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ