ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะ - ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะ - คือ การปรับ ประยุกต์ การจัดการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีปัญหาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ แบ่งออกเป็นหลายด้าน ดังนี้:
ปัญหาทักษะพื้นฐานด้านภาษา:
ผู้เรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีปัญหาด้านการพูดภาษาอังกฤษ มักมีทักษะพื้นฐานด้านภาษาที่ไม่แข็งแรง เช่น ความเข้าใจในคำศัพท์ การสร้างประโยค และการออกเสียง ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการใช้ภาษาในการสื่อสาร โดยเฉพาะในการพูด การขาดพื้นฐานที่ดีทำให้ผู้เรียนไม่สามารถพัฒนาทักษะการพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความกังวลและความกลัวในการสื่อสาร:
นักเรียนหลายคนรู้สึกกังวลและกลัวการพูดภาษาอังกฤษเนื่องจากกลัวการทำผิดพลาด กลัวการถูกตำหนิหรือเยาะเย้ยจากเพื่อน ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียนเลือกที่จะไม่พูดหรือไม่กล้าพูด ส่งผลให้ทักษะการพูดภาษาอังกฤษไม่พัฒนา
ขาดสื่อและวิธีการสอนที่เหมาะสม:
การจัดการเรียนรู้ในบางโรงเรียนอาจยังขาดสื่อการสอนที่หลากหลายและวิธีการสอนที่สนับสนุนการพัฒนาทักษะการพูด เช่น การใช้บทสนทนาที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์จริง การฝึกการออกเสียงผ่านการฟังและพูด หรือการใช้กิจกรรมที่เน้นการพูดคุยแลกเปลี่ยน ทำให้ผู้เรียนขาดโอกาสในการฝึกฝนอย่างเพียงพอ
สภาพแวดล้อมที่ไม่ส่งเสริมการใช้ภาษา:
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ส่วนใหญ่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการฝึกฝนภาษาอังกฤษ เนื่องจากการใช้ภาษาหลักในชีวิตประจำวันเป็นภาษาไทย ไม่มีโอกาสในการใช้ภาษาอังกฤษนอกห้องเรียน ส่งผลให้ทักษะการพูดไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร
การประเมินผลที่ไม่สอดคล้องกับทักษะการพูด:
ในบางครั้ง การประเมินผลการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอาจเน้นไปที่ทักษะการเขียนหรือการทำข้อสอบ มากกว่าการวัดทักษะการพูด ทำให้ผู้เรียนไม่เห็นความสำคัญของการฝึกทักษะการพูดและขาดแรงจูงใจในการพัฒนาทักษะดังกล่าว
การสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการศึกษาของไทยดังที่เห็นได้จากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ที่ระบุว่าว่านักเรียนในทุกระดับและทุกช่วงชั้นต้องเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาภาษาอังกฤษต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น การเลือกทักษะภาษาสำหรับการสอน โดยทักษะทางภาษามี 4 ทักษะ คือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยการพูดเป็นหนึ่งในทักษะ 4 ทักษะที่สำคัญต่อการพัฒนาอาชีพในอนาคต (Wang & Rajprasit, 2015) ระบุว่าทุกคนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เมื่อได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสมและต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาภาษา เช่น ครู นักเรียน วิธีการสอน ระยะเวลา ความถี่ในการสอน และอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกอย่างไรก็ตาม การจัดการเรียนการสอนในรายวิชาภาษาอังกฤษในประเทศไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายมากมาย ครูหลายคนยังคงใช้วิธีการสอนแบบดั้งเดิม โดยไม่ได้เน้นที่การฝึกกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม การจัดกิจกรรมที่ฝึกทักษะพูดเฉพาะสำหรับผู้เรียน และการวิเคราะห์ผลลัพธ์การเรียนรู้ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ครูมักพบเมื่อสอนภาษาอังกฤษ(กระทรวงศึกษาธิการ,2008)เนื่องจากปัญหาเหล่านี้ครูผู้สอนจึงศึกษาวิธีการสอนที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาทักษะการพูดคือกระบวนการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน (TBL) ซึ่งจัดเป็นการเรียนรู้แบบ Active Learning ถูกนำมาใช้อย่างมีจุดประสงค์ในการศึกษาครั้งนี้ เพื่อดึงดูดให้นักเรียนมีส่วนร่วมในขั้นตอนการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงการส่งเสริมทักษะการพูดภาษาอังกฤษและทักษะการทำงานเป็นทีมเในการเรียนรู้ (Somchit et al., 2020) (Michaelsen, Sweet 2008) โดยจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้น Active Learning และการประเมินผลที่หลากหลายเพื่อสอดคล้องกับนโยบาย จุดเน้น และนโยบายเร่งด่วนของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานอีกทั้งกระบวนการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐานเป็นการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการจัดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี
การดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงาน PDCA
1. Plan : P (วางแผน)
1.1 ศึกษาหลักสูตรแกนกลาง มาตรฐาน ตัวชี้วัด คุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อกำหนดในแผนการจัดการเรียนรู้
1.2 ศึกษารูปแบบและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องการจัดการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน (Team-Based Learning)
1.3 ออกแบบกิจกรรม เครื่องมือ สื่อการเรียนการสอน เพื่อมุ่งเน้นเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาทักษะการพูด
1.4 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ขั้นตอนกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน (Team-Based Learning) Adapt from Michaelsen & Sweet, 2008
เรื่อง Daily Routine รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 (แผนการสอน 2 ชั่วโมง)
2. Do : D (ขั้นตอนการปฏิบัติ)
2.1 นำแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Daily Routine รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มาใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้จริงในชั้นเรียน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน (Team-Based Learning) ที่กำหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ Adapt from Michaelsen & Sweet, 2008
3. Check : C (ขั้นการตรวจสอบ)
3.1 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และวัตถุประสงค์การเรียนรู้โดยมีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย
3.2 ประเมินทักษะการพูดโดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนสำหรับการทดสอบการพูด ปรับปรุงจาก : Oral proficiency scoring categories (Brown, 2004,pp.406-407)
4. Action : A (ขั้นการปรับปรุงการดำเนินงาน)
4.1 ปรับปรุง ทบทวน แผนการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนการสอน และการวัดประเมินผลจากผลการบันทึกหลังแผนการจัดการเรียนรู้
ผลสําเร็จ (เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ)
เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผ่านเกณฑ์การประเมินทักษะการพูด โดยใช้กระบวนการจัดการ เรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน (Team-Based Learning) โดยวิเคราะห์ผลการทดสอบ ก่อนเรียนและหลังเรียน
เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลการพัฒนาทักษะการพูดเพิ่มขึ้นโดยสามารถบอกเล่าเรื่องราวกิจวัตรประจำของตนเองเป็นภาษาอังกฤษ โดยมีการใช้ คำศัพท์ ความถูกตามหลักไวยากรณ์ น้ำเสียง ความเข้าใจในเนื้อหาการพูดรวมถึงความคล่องแคล่วในการสื่อสารที่สมารถถ่ายทอดให้กับบุคคลอื่นได้เกิดความความเข้าใจ
นางสาว ศรันญา ตั้งนารี
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ