สถานีตำรวจภูธรสร้างค้อ

การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ 

           (Integrity and Transparency Assessment: ITA)  

02 อำนาจหน้าที่และพื้นที่ที่รับผิดชอบ นโยบายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

อำนาจหน้าที่

๑. รักษาความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์   และพระราชอาคันตุกะ

๒. ดูแล ควบคุม และกำกับการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

๓. ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาญา

๔. รักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของราชอาณาจักร

๕. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

๖. ช่วยเหลือการพัฒนาประเทศ

๗. ปฏิบัติการอื่นเพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


คำสั่ง 537.pdf

การมอบหมายอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติ

สถานีตำรวจภูธรสร้างค้อ


๑. การบริหารงานกำลังพล  ทำหน้าที่ศึกษานโยบายให้เข้าใจ ตรวจสอบกำลังพล สนับสนุนข้าราชการตำรวจที่มีความรู้ความสามารถ ดูแลด้านสวัสดิการของตำรวจในสังกัด และสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในรูปแบบต่างๆ ที่อาจจะมีความแตกต่างกัน แต่เป้าหมายเดียวกันคือ “รักสถาบันตำรวจ รักอาชีพตำรวจ รักหน้าที่การงาน ทำงานด้วยใจและเต็มใจ เป็นสุขเมื่อได้ทำงาน มิใช่ถูกบังคับ”

๒. การบริหารงานงบประมาณการเงิน ทำหน้าที่ดูแล ตรวจสอบ จัดทำหลักฐานการเบิกจ่ายด้านงบประมาณทุกอย่างที่ได้รับทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ งบสนับสนุนจากหน่วยงานอื่นๆ   งบเบี้ยเลี้ยง ค่าเดินทางไปราชการ ฯลฯ โดยเฉพาะค่าเบี้ยเลี้ยงไม่ควรใช้วิธีถัวเฉลี่ยเพราะผิดระเบียบ ต้องประเมินไปตามภารกิจเช่นทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย เป็นต้น 

๓. การบริหารอาคารสถานที่ เครื่องมือเครื่องใช้ และงานด้านเทคโนโลยี    ทำหน้าที่ตั้งศูนย์เทคโนโลยีเพื่อรอรับการเชื่อมโยงข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบยานพาหนะที่เสื่อมสภาพ ตั้งกรรมการเพื่อขอจำหน่าย ตรวจสอบอาวุธปืน กระสุนปืนและครุภัณฑ์ที่หมดอายุการใช้งาน ใช้งานไม่ได้ ล้าสมัย ตั้งกรรมการขออนุมัติจำหน่ายออกจากบัญชี อาคารบ้านพัก ที่ทำการ จัดเครื่องมือเครื่องใช้ จัดทำบัญชีคุมให้เรียบร้อยเครื่องอำนวยความสะดวก สื่อบันเทิงต่างๆ

๔. การบริหารงานทั่วไป    ทำหน้าที่บริหารงานแผนใหม่ ข้าราชการตำรวจทุกระดับ ต้องมีความรู้คอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน จัดอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมด้านงานเทคโนโลยี 

๕. การบริหารงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม   ทำหน้าที่ ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเร่งด่วนที่จะดำเนินการ  ๕  อันดับแรก โดยเฉพาะการป้องกันปราบปรามยาเสพติด เป็นปัญหาอันดับแรก และจัดอันดับความสำคัญของอาชญากรรมตามสถานการณ์ เพื่อวางแผนในการแก้ไข  ประกาศตักเตือน สถานบริการทุกประเภท เกี่ยวกับการจำหน่ายสุรา บุหรี่  การปล่อยให้เยาวชนเข้าไปมั่วสุม  ประสานท้องถิ่นในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม วางแผนระดมกวาดล้าง ตรวจค้น เป็นห้วงตามเวลาที่เหมาะสม

๖. การบริหารงานป้องกันปราบปรามยาเสพติด ทำหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดซึ่งถือเป็น “วาระแห่งชาติของรัฐบาล” 

๗. การบริหารงานด้านความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ    ทำหน้าที่ป้องกันปราบปราม

ความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการบุกรุกที่ดินของรัฐ  การตัดไม้ทำลายป่า การบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ต่างๆ ต้องสอบสวนขยายผลให้ได้ตัวผู้กระทำผิด และผู้มีอิทธิพลหรือนายทุนหนุนหลัง

๘. งานด้านจราจร  ทำหน้าที่กำหนดเส้นทางจราจร อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ช่วยกันคิดวิสัยทัศน์และประกาศเป็นสัญญาประชาคมโดยความเห็นของตำรวจจราจร ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นรูปธรรม คือ มีผลการจับกุม เช่นพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก เป็นต้น ตลอดจนดูแลสวัสดิการเงินรางวัลจับกุมต่างๆ 

๙. งานด้านการสืบสวนปราบปรามทั่วไป     ทำหน้าที่จัดลำดับความสำคัญของปัญหาอาชญากรรมที่รุนแรง สร้างรายงานการสืบสวน และสร้างจัดระบบการสืบสวน สำนวนการสืบสวนในคดีที่

สำคัญควรรายงาน ๕ อันดับ เป็นการเร่งด่วนให้เป็นผลรูปธรรม นำหมายจับคดีสำคัญดังกล่าวมาแล้วเก็บข้อมูลในระบบ CRIMES  ให้เสร็จภายใน  ๔๕  วัน  

๑๐. งานด้านสอบสวน    งานฝ่ายสอบสวนเป็นหัวใจการทำงาน   พนักงานสอบสวนรู้จักจรรยาบรรณ โดยนำมาใช้ให้ถี่ถ้วนรอบคอบ มีฐานข้อมูลควบคุมผู้ทำดีโดยต่อเนื่องเหมาะสม “ต้องรับคดีตามความเป็นจริง” คดียาเสพติดจะต้องทำการสืบสวนขยายผลหาผู้จำหน่ายให้ได้ใช้จิตวิทยา ใช้กฎหมายยาเสพติด มาตรา ๑๐๑/๒   หรือกฎหมายต่อรองมาใช้ให้ได้ผล    โดยเฉพาะการขอจับกุมหรือดำเนินคดีตามาตรา ๖, ๙ พระราชบัญญัติฟอกเงินฯ กฎหมายสรรพกร มาบังคับใช้อย่างจริงจัง  ตรวจสอบหมายจับคดีค้างเก่าเกี่ยวกับยาเสพติด ได้มีการแก้ปัญหา ครอบครองเพื่อจำหน่าย นำเข้า ส่งออก ตัวการสนับสนุนและกระทำผิดดังกล่าวเพื่อหามาตรการยึดทรัพย์ต่อไป 




พื้นที่รับผิดชอบ

ที่ตั้ง

เทศบาลตำบลสร้างค้อ ตั้งอยู่บนที่ราบสูงเทือกเขาภูพาน ระยะทางห่างจากที่ว่าการอำเภอภูพาน ประมาณ 15 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดสกลนครประมาณ 50 กิโลเมตร ตั้งอยู่เลขที่ 9 บ้านดอนแคน หมู่ที่ 11 ถนนสกลนคร – กาฬสินธุ์ อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร เนื้อที่ประมาณ 180 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 112,500 ไร่ แบ่งเป็น
- พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติภูพาน ประมาณ 37,000 ไร่
- เขตป่าสงวนแห่งชาติประมาณ 35,000 ไร่
- เขต สปก. ประมาณ 40,000 ไร่
- เขต นส. 3. ก. ประมาณ 500 ไร่
- ไม่มีพื้นที่เป็นโฉนด


ลักษณะภูมิประเทศ

อยู่บนที่ราบสูงเทือกเขาภูพาน สภาพพื้นที่ลาดเอียง และลาดชันไปตามพื้นที่ภูเขา เหมาะสำหรับปลูกพืชสวน พืชไร่และทำนา


ลักษณะภูมิอากาศ

มีสภาพภูมิอากาศแบ่งออกเป็น 3 ฤดู ฤดูหนาว ฤดูฝน และฤดูแล้ง ฤดูหนาวจะหนาวจัดเพราะอยู่บนที่สูง ฤดูร้อนจะไม่ร้อนมาก เพราะมีต้นไม้ธรรมชาติจำนวนมากคอยปกคลุมแสงแดดที่ทำให้อากาศร้อน ฤดูฝนจะตกเป็นปกติตามฤดูกาล แต่ดินไม่ค่อยอุ้มน้ำ น้ำใต้ดินจะมีน้อย เพราะใต้ดินเป็นชั้นหิน


ลักษณะของดิน

มีสภาพเป็นดินร่วนผสมทรายสลับหิน


ลักษณะของแหล่งน้ำ

ตำบลสร้างค้อมีแหล่งน้ำที่สำคัญทั้งที่เป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติ และแหล่งน้ำที่สร้างขึ้น ดังนี้ อ่างเก็บน้ำเขื่อนน้ำพุงใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ทำการเกษตร และอนุรักษ์สัตว์น้ำ

แหล่งน้ำธรรมชาติ ลำน้ำ ลำห้วย จำนวน 8 สาย ได้แก่ ห้วยแข้ ห้วยแสนกง ห้วยขี้หิน ห้วยดานวง ห้วยไม้แดง ห้วยนาบุงคำ ห้วยน้ำพุง ห้วยกกพง

แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น อ่างเก็บน้ำจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยขี้หิน อ่างเก็บน้ำห้วยแข้ อ่างเก็บน้ำบ้านสร้างแก้วน้อย อ่างเก็บน้ำบ้านใหม่พัฒนา 1 อ่างเก็บน้ำบ้านใหม่พัฒนา 2 และอ่างเก็บน้ำบริวารบ้านต้อนใหม่

สระขนาดใหญ่ 5 แห่ง ได้แก่ สระน้ำบ้านภูพานทอง สระน้ำบ้านต้อน สระน้ำบ้านสร้างแก้ว สระน้ำบ้านสะพานสาม สระบ้านโนนหัวช้าง


ลักษณะของไม้และป่าไม้

พื้นที่เทศบาลตำบลสร้างค้อ มีทรัพยากรธรรมชาติประเภทป่าไม้ ลำธาร, สัตว์ป่า, เห็ดป่า,ฯลฯ และภูมิทัศน์พื้นที่ส่วนใหญ่ 70% อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูพาน และเขตป่าสงวนแห่งชาติ


ประชากร

ประชากรของตำบลสร้างจำนวนทั้งสิ้น 10,664 คน
ชาย 5,395 คน
หญิง 5,269 คน
จำนวนครัวเรือน 3,723 ครัวเรือน
ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564


ช่วงอายุ และจำนวนประชากร

อายุ 1 – 18 ปี จำนวน 2,868 คน
อายุ 19- 60 ปี จำนวน 6,740 คน
อายุ 91 ขึ้นไป จำนวน 1,048 คน




มีอาณาเขตติดต่อกับตำบลข้างเคียง ดังนี้

ลักษณะภูมิประเทศของตำบลสร้างค้อ อยู่บนที่ราบสูงเทือกเขาภูพาน เป็นพื้นที่ที่ลาดเอียง และลาดชันไปตามภูเขา เหมาะสำหรับปลูกพืชสวน พืชไร่ ไม่เหมาะสำหรับการทำนา เนื่องจากดินไม่ค่อยอุ้มน้ำ เพราะใต้ดินเป็นชั้นหิน มีทรัพยากรธรรมชาติประเภทป่าไม้ ลำธาร สัตว์ป่า และเห็ดป่า เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานและเขตป่าสงวนแห่งชาติ ภูมิอากาศของตำบลสร้างค้อ เนื่องจากอยู่บนภูเขา ฤดูร้อนจะไม่ร้อนมาก ฤดูฝนจะตกเป็นปกติตามฤดูกาล

หมู่บ้าน

ตำบลสร้างค้อแบ่งออกเป็น 23 หมู่บ้าน ได้แก่


นโยบายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ยุทธศาสตร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 20 ปี


ยุทธศาตร์ชาติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 20 ปี.pdf