สอบถามรับคำแนะนำจากเรา
ช่องคลอดมีกลิ่นเล็กน้อย ถือว่าเป็นเรื่องปกติของผู้หญิง แต่หากมีกลิ่นฉุนเหม็นคาวมากขึ้น มีตกขาวผิดไปจากปกติ คัน หรือระคายเคืองบริเวณช่องคลอดร่วมด้วย นั่นอาจเป็นสัญญาณสำคัญของการเจ็บป่วยที่ควรได้รับดูแลอย่างเร่งด่วนค่ะ
สาเหตุ ของการมี่ตกขาวมีกลิ่น
สุขอนามัยที่ไม่ดี มีสิ่งสกปรกตกค้างบริเวณช่องคลอดไม่รักษาความสะอาด ไม่อาบน้ำทำความสะอาดอวัยวะเพศ ทำให้หมักหมมสิ่งสกปรกจนเกิดการอักเสบ หรือลืมเปลี่ยนผ้าอนามัยเป็นเวลานาน ๆ เพิ่มการสะสมของเชื้อโรคเกิดการอักเสบได้เช่นกัน ค่ะ
ภาวะช่องคลอดอักเสบแบบแบคทีเรียลวาไจโนสิส (Bacterial Vaginosis: BV): โดยทั่วไปภายในช่องคลอดของผู้หญิงจะมีเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยสร้างสารบางอย่างที่ลดการเติบโตของแบคทีเรียไม่ดีที่อาศัยอยู่ แต่การอักเสบจากแบคทีเรียวาจิโนสิสเป็นผลมาจากความไม่สมดุลของปริมาณแบคทีเรียในช่องคลอด หรือมีการเติบโตของแบคทีเรียภายในช่องคลอดมากเกินไป
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์: เกิดการติดเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ เช่น
หูดที่อวัยวะเพศจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus: HPV)
การป่วยโรคทริโคโนสิส (Trichinosis) จากปรสิตทริคิเนลล่า สไปราลิส (Trichinella Spiralis)
การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic Inflammatory Disease: PID)
การอักเสบที่เกิดจากเชื้อราในช่องคลอด (Vaginal Thrush)
อาการ โดยรวมที่ผิดปกติ และต้องได้รับการดูแล
ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
ตกขาวมีสีผิดปกติ เช่น สีเหลือง สีเขียว สีเทา สีขาวแต่เป็นก้อนหรือออกเยอะ
ตกขาวคล้ายแป้งเปียก คัน มีกลิ่นแปลกๆ
มีกลิ่น คัน
ตกขาวมีเลือดปนมาด้วย
มีได้หลายสาเหตุ เช่น คันจากการใช้ยา คันจากการเสียดสี คันจากฮอรโมนไม่สมดุล แต่ภาวะเชื้อราในช่องคลอด เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยของการอักเสบในช่องคลอด โดยผู้หญิง 3 ใน 4 คนเคยติดเชื้อราในช่องคลอดอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตและหลายคนติดเชื้ออย่างน้อยสองครั้ง ภาวะเชื้อราในช่องคลอดทำให้เกิดอาการบวม คันและระคายเคือง รวมถึงมีตกขาวออกจากช่องคลอดได้ ภาวะเชื้อราในช่องคลอดไม่ถือว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่การมีเพศสัมพันธ์เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อรา เชื้อราที่พบได้บ่อยที่สุดคือเชื้อ Candida Albicans รองลงมาคือเชื้อ Candida Grabata เพราะเป็นเชื้อที่สามารถยึดติดกับเซลล์บุช่องคลอดได้ดี
สาเหตุ การติดเชื้อราในช่องคลอดเกิดจากอะไร
การใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งทำลายเชื้อแบคทีเรียดีในช่องคลอด ทำให้เกิดการติดเชื้อราในช่องคลอด
ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มมากขึ้น จากการตั้งครรภ์ การรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงหรือการรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัด
โรคเบาหวานที่ไม่ได้ควบคุม ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ไม่ได้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดมีความเสี่ยงในการติดเชื้อราในช่องคลอดมากขึ้น
ระบบภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวีหรือผู้รับการบำบัดด้วยยาคอร์ติโคสเตียรอยด์
อาการ ของภาวะเชื้อราในช่องคลอด
คันและระคายเคืองบริเวณช่องคลอดหรือภายในช่องคลอด
มีอาการบวมบริเวณอวัยวะเพศ
รู้สึกแสบร้อนขณะมีเพศสัมพันธ์หรือปัสสาวะ
มีผื่นแดงบริเวณอวัยวะเพศ
มีตกขาวเป็นสีขาวครีมข้น ไม่มีกลิ่น บางครั้งอาจมีลักษณะเป็นน้ำได้เช่นกัน