เมฆคิวมูโลนิมบัส/เมฆฟ้าคะนอง (Cumulonimbus)
เมฆก้อนใหญ่หนาทึบ เกิดจากการไหลขึ้นของกระแสอากาศ ลักษณะคล้ายภูเขาหรือหอคอยสูง แสดงถึงสภาวะอากาศไม่ดี เมื่อก่อตัวเต็มที่ ยอดเมฆจะแนวเรียบหรือเป็นร่องๆเป็นฝอย เกือบแบนราบและแผ่ออกไปคล้ายรูปทั่ง (Anvil) หรือขนนกขนาดใหญ่ ฐานเมฆต่ำขรุขระ มีสีดำมืด อาจอยู่กระจัดกระจายหรือรวมตัวกันก็ได้
พายุฟ้าคะนอง/พายุไฟฟ้า (Thunderstorms/Electric Storms)
พายุเฉพาะถิ่น เกิดจากเมฆคิวมูโลนิมบัส มีฟ้าแลบหรือฟ้าผ่า และฟ้าร้อง รวมอยู่ด้วย มักเกิดลมกระโชกแรงและฝนหนักเกิดขึ้น บางครั้งมีลูกเห็บตกลงมาด้วย เป็นพายุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ น้อยครั้งที่จะเกิดนานกว่า 2 ชั่วโมง
ความปั่นป่วนในอากาศแจ่มใส (Clear Air Turbulence)
การปั่นป่วนของอากาศในบรรยากาศทั่วไป ไม่เกี่ยวข้องกับเมฆ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเนื่องจากกระแสอากาศมีความเร็วต่างกันมากๆ มักเกิดในบรรยากาศระดับสูง โดยเฉพาะบริเวณใกล้กระแสลมกรด
ลมกระโชก (Gust)
ลมแรงที่เกิดขึ้นในทันทีทันใด ผิดไปจากความเร็วลมเฉลี่ยในเวลานั้น ปกติมักเกิดขึ้นต่ำกว่า 20 วินาที เมื่อสิ้นสุดลมกระโชก ความเร็วลมจะลดลงกลายเป็นลมอ่อน ความเร็วลมที่มีทิศทางแน่ชัด แต่กำลังลมอาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากค่าปานกลางในช่วงเวลาจำกัดที่กำหนดให้
หมอก (Fog)
น้ำในอากาศชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยกลุ่มละอองน้ำขนาดเล็กมาก แต่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ลอยอยู่ในอากาศใกล้พื้นดิน โดยปกติจะทำให้ทัศนวิสัยในแนวนอนลดลงเหลือน้อยกว่า 1 กิโลเมตร (0.62 ไมล์)
น้ำแข็งจับเกาะเครื่องบิน (Aircraft Icing)
การเกิดน้ำแข็งหรือฮอร์ฟรอส จับเกาะลำตัวเครื่องบินส่วนที่ยื่นอกมา เมื่อเครื่องบินผ่านเม็ดน้ำเย็นจัดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง โดยน้ำแข็งที่น้ำแข็งที่จับเกาะเครื่องบินสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความหนา ความโปร่งใสและความแข็งของน้ำแข็ง เนื่องจากอุณหภูมิ ขนาดของน้ำเม็ดน้ำแข็งและอัตราการพอกพูน น้ำแข็งธรรมดาที่จับเกาะเครื่องบิน มักเป็นน้ำแข็งแบบไรม์และน้ำแข็งใส
พายุทรายและพายุฝุ่น (Sand Storms and Dust Stroms)
ฝุ่นและทรายที่มีอนุภาคขนาดเล็กถึงเล็กมาก ถูกพัดพาโดยกระแสลมแรง ซึ่งอนุภาคที่มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบากว่านั้น จะถูกพัดพาไปได้ไกลและลอยตัวได้สูงกว่า อีกทั้งยังแขวนลอยในอากาศได้นาน ทำให้ทัศนวิสัยเลวลง รวมถึงก่อให้เกิดความเสียหายแก่เครื่องยนต์ของอากาศยาน