มหาบัณฑิตและบัณฑิต คณะนิติศาสตร์

• ปัจจุบันประกอบอาชีพรับราชการ ตำแหน่ง ผู้พิพากษาศาลจังหวัดปัตตานี ศาลจังหวัดปัตตานี

“เปลวเทียนให้แสง รามคำแหงให้ทาง” หากได้สัมผัสบรรยากาศการศึกษาเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยรามคำแหงแล้ว เป็นคำที่มีความหมายลึกซึ้งมากกับชีวิตของลูกหลานชาวสวนชวนนา เพราะหากไม่มีราม คงไม่มีเรา รามคำแหง ทำให้ทุกคนมีโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกัน เนื่องด้วยค่าเล่าเรียนไม่สูงทุกคนเอื้อมถึงและค่าครองชีพในรั้วรามคำแหงที่แสนถูก เริ่มตั้งแต่ปริญญาตรี ซึ่งต้องเดินทางเข้าไปเรียนที่กรุงเทพมหานคร ตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในรั้วรามคำแหง มีความประทับใจมากมาย ได้เห็นภาพบรรยากาศนักศึกษาแต่ละคนใช้ชีวิตตามที่ตนเลือก บางคนเลือกเข้าฟังท่านอาจารย์สอนในห้องบรรยาย บางคนเลือกที่จะอ่านหนังสือด้วยตนเองโดยไม่เข้าฟังคำบรรยาย จึงทำให้เห็นภาพนักศึกษานั่งจับกลุ่มอ่านหนังสือตามซุ้มต่างๆ ของแต่ละจังหวัด ใต้อาคารเรียน ห้องสำหรับอ่านหนังสือ ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน เห็นแววตาที่มุ่งมั่นขยันหมั่นเพียรและความอดทนของทุกคนแล้วเป็นภาพที่ประทับใจมาก มีการให้คำแนะนำทั้งเรื่อง การใช้ชีวิต การวางแผนการเรียน จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมา

ต่อมามีโอกาสได้เข้าศึกษาในหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ณ สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นบรรยากาศที่แตกต่างออกไป เนื่องจากนักศึกษาส่วนใหญ่เป็นผู้มีประสบการณ์และประกอบอาชีพหลากหลาย ท่านอาจารย์ที่มาบรรยายรวมถึงวิทยากรจากภายนอก ล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้และความสามารถสูง สามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปใช้ในการทำงานได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญทำให้ได้รู้จักเพื่อนร่วมรุ่นในสาขาอาชีพต่างๆ สามารถให้ความช่วยเหลือหรือติดต่อประสานระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบได้เป็นอย่างดี ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความประทับใจและยังคงระลึกถึงบุญคุณของมหาวิทยาลัยคำแหงตลอดไป