ตำบลพรุพี เป็นอีกพื้นที่ที่สืบสานประเพณีวันสารท
เดือนสิบ โดยมีลักษณะของความเชื่อและพิธีการที่คล้ายกับพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จากการบอกเล่าของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลพรุพีกล่าวว่า พื้นเพชาวบ้านในตำบลพรุพีส่วนหนึ่งมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชได้เคลื่อนย้ายถิ่นฐานมาสร้างครอบครัวในตำบลพรุพีและได้นำประเพณีวันสารทเดือนสิบมาปฏิบัติต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
“ จาด ”
แหล่งรวมศรัทธาชาวบ้านตำบลพรุพี
สื่อกลางอันเต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมประเพณีประจำถิ่น
ที่สานศรัทธาความเชื่อทางพระพุทธศาสนา
ความกตัญญูของลูกหลาน
และเป็นสื่อกลางที่สำคัญของการสานสัมพันธ์คนในหมู่บ้าน
“สารท” เป็นคำที่มาจากภาษาบาลีของอินเดียซึ่งแปลว่า “ฤดูใบไม้ร่วง” ฤดูสารทนี้เป็นฤดูที่พืชผักผลไม้ที่ปลูกไว้เริ่มออกผล เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผู้ที่ต้องการให้พืชพันพรรณธัญญาหารของตนเจริญงอกงามดี ก็ได้นำพืชพันธุ์ธัญญาหารเหล่านั้นไปถวายสิ่งที่ตนเองเคารพนับถือเพื่อเป็นสิริมงคล
“สารทเดือนสิบ” ถือเป็นประเพณีของชาวใต้ โดยเฉพาะชาวนครศรีธรรมราชที่ได้รับอิทธิพลด้านความเชื่อ ซึ่งมาจากทางศาสนาพราหมณ์ โดยมีการผสมผสานกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนา เพื่อแสดงความยินดีที่ได้รับผลผลิตจากการเพาะปลูกในรอบปีด้วยการถวายอาหาร พืชผลแด่พระสงฆ์และอุทิศแก่ญาติผู้ล่วงลับประเพณีสารทเดือนสิบจึงมีความเชื่อเรื่องบรรพชนผู้ล่วงลับไปแล้ว หากทำดีไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่จะได้เกิดในสวรรค์ แต่หากทำความชั่วจะตกนรก กลายเป็น “เปรต” ต้องทนทุกข์ทรมานในอเวจี ต้องอาศัยผลบุญที่ลูกหลานอุทิศส่วนบุญกุศลให้ ซึ่งทุกแรม 1 ค่ำ เดือนสิบ เป็นวันที่ยมบาลจะปล่อยให้เปรตมาเยี่ยมลูกหลาน (วันรับตายาย) และจะกลับไปยังภูมินรกในวันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ (วันส่งตายาย) โดยมีการยกหมรับแห่จาดไปวัด ช่วงเวลาดังกล่าวจึงถือเป็นช่วงเวลาทำทุกบุญอุทิศแก่บรรพบุรุษตามประเพณีท้องถิ่น
ครั้นถึงวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 เสียงกลองยาวนำขบวน นางรำสาวเล็กสาวใหญ่เข้าแถวเรียงราย บ้างมีตัวเปรต บ้างมีตัวหนังตะลุง เดินนำหน้า “จาด” เดินทางออกจากศาลาหมู่บ้าน มุ่งหน้านำไปถวายพระสงฆ์ ณ วัดสุคนธาวาส
วัดประจำตำบลพรุพี เพื่อทำพิธีสวดมาติกาบังสุกุลอุทิศให้แก่เปรตและบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ หลังประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว ลูกหลานต่างนำขนมเดือนสิบและเครื่องไหว้ต่างๆ ไปวางไว้รวมกันบน “หลาเปรต” (สถานที่ที่วัดจัดเตรียมไว้) ก่อนจะได้รับสัญญาณให้ลูกหลานและชาวบ้าน วิ่งเข้าไปชิงของที่วางบนหลาเปรต (การชิงเปรต) ซึ่งเชื่อกันว่าขนมหรืออาหารบนหลาเปรตคือสิ่งเป็นมงคลที่เหลือจากตายายกินและต่อด้วยกิจกรรมปีนเสาน้ำมันชิงรางวัลส่งท้ายประเพณีสารทเดือนสิบ ที่สร้างสีสันความสนุกสนานให้แก่ชาวบ้านก่อนแยกย้ายกลับบ้าน ทั้งอิ่มบุญและสุขใจ