สมาชิกในกลุ่ม
1.นายรัฐภูมิ สากลวิจิตร เลขที่ 11
2.นายวทัญญู กันทะมา เลขที่ 20
3.นายนนธสิทธิ์ เผ่าวิวัฒน์ เลขที่ 27
4.นายวีรเทพ วรรณฉวี เลขที่ 4
สรุปบทที่ 4 วัสดุและเครื่องมือพื้นฐาน
4.1 วัสดุ
วัสดุมีอยู่หลายประเภท ทั้งจากธรรมชาติ และมนุษย์สร้างขึ้นหรือที่เรียกว่า "วัสดุสังเคราะห์"วัสดุบางประเภทอาจนำมาใช้ได้ทันทีโดยไม่มีการแปรรูป หรือมีการแปรรูปให้เหมาะสมต่อการนำไปใช้งานโดยกระบวนการในการแปรรูปจะแตกต่างกันตามเหมาะสมของสมบัติวัสดุ และความต้องการในการใช้งาน ในอดีตวัสดุประเภทต่างๆ ยังมีไม่มาก มนุษย์จึงใช้วัสุดที่มาจากธรรมชาติ เช่น ดิน หิน ทราย เขาสัตว์ หนังสัตว์ ใบไม้ นำมาสร้างเป็นสิ่งของเครื่องใช้ ต่อมาได้มีการนำวัสดุมาพัฒนาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น เช่น โลหะ ไม้ เซรามิก คอมโพสิต และวัสดุใหม่
ตัวอย่างประเภทเหล็กในงานช่าง
ตัวอย่างโลหะประเภทไม่ใช่เหล็กที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ
2. ไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์
นอกจากนี้ แก้วที่เราใช้ในปัจจุบัน คือเซรามิกชนิดหนึ่งเกิดจากการผสม ของ ดิน หิน ทราย และแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งเป็นวัสดุที่มีวามโปร่งใส ความแข็งแกร่ง และความมันแวววาว มีองค์ประกอบหลักคือ สารประกอบซิลิคอน ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตที่อุณหภูมิสูง โดยเมื่อแก้วผ่านกระบวนการปรับปรุงสมบัติ และขึ้นรูปเป็นแผ่นจะเรียกว่า "กระจก" การผลิตกระจกเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานของมนุษย์ สามารถเป็นกระจกออกได้ 6 ประเภท
4.2 เครื่องมือพื้นฐาน
ในการสร้างชิ้นงานตามแบบร่างที่ออกแบบไว้ใหเมีความถูกต้องทั้งรูปร่าง มาตราส่วน และมีความสวยงามนั้น นอกจากจะต้องเลือกวัสดุที่เหมาะสมแล้ว จะต้องเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับชนิดของงานและวัสดุด้วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและได้ชิ้นงานตามต้องการเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างเครื่องมือพื้นฐานที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องมือสำหรับการวัดขนาด เครื่องมือสำหรับการตัด และเครื่องมือสำหรับการเจาะ
4.2.1 เครื่องมือสำหรับการวัด
- ไม้บรรทัดวัดองศาหรือใบวัดมุม
4.2.2 เครื่องมือสำหรับการตัด
4.2.3 เครื่องมือสำหรับการเจาะ
4.3 การตัด ต่อ และขึ้นรูปวัสดุ
หน่วยที่ 1 ระบบทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อน
ระบบคืออะไร
ระบบทางเทคโนโลยี
ระบบทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อน
การทำงานที่ผิดพลาดของระบบ
1.1 ระบบคืออะไร
ระบบ(system)โดยทั่วไปแล้วเป็นคำที่ใช้เรียกแทนสิ่งต่างๆ ที่มีส่วนประกอบตั้งแต่สองส่วนขึ้นไปรวมเข้าด้วยกัน และทำงานสัมพันธ์กัน เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามหน้าที่ (function)ที่กำหนด ซึ่งมีได้หลากหลาย เช่นปากกา ประกอบไปด้วย ด้ามจับ น้ำหมึก ไส้ปากกา และหัวปากกา ซึ่งส่วนประกอบต่างๆของปากกาล้วนมีหน้าที่เฉพาะอย่างเพื่อให้ปากกาสามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์
โทรศัพท์มือถือมีส่วนประกอบหลายส่วนเช่น หน้าจอ แบตเตอรี่ แผงวงจร อุปกรณ์บันทึกข้อมูล กล้อง ลำโพง ไมโครโฟน แต่ละส่วนประกอบมีหน้าที่เฉพาะของตัวเอง และส่วนประกอบเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ทำงานสัมพันธ์กัน หากส่วนประกอบใดทำงานผิดพลาดหรือเกิดความเสียหายขึ้นอาจทำให้โทรศัพท์มือถือไม่สามารถใช้งานได้ หรืออาจทำงานไม่สมบูรณ์
โดยทั่วไปแล้ว ระบบ พบได้ทั้งในธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งระแบบทางธรรมชาติ (natural system) เป็นระบบที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีอยู่หลายอย่างทั้งในพืชและสัตว์ เช่นระบบลำเลียงน้ำหรืออาหารของพืช ระบบหายใจหรือระบบย่อยอาหารของมนุษย์
ระบบย่อยอาหารของมนุษย์
ประกอบด้วยอวัยวะที่เกี่ยวข้องได้แก่ ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และทวารหนัก ทำงานสัมพันธ์กันเพื่อย่อยอาหารที่รับประทานให้ละเอียดและดูดซึมสารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย
ระบบลำเลียงน้ำของพืช
ประกอบด้วย ราก ท่อลำเลียง ใบ ทำงานสัมพันธ์กัน เพื่อลำเลียงน้ำในดินจากราก ลำต้นถึงใบไปใช้ในกระบวนการสั่งเคราะห์ด้วยแสงต่อไป
1.2 ระบบทางเทคโนโลยี (techological system)
เป็นระบบที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาหรืออำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ ซึ่งสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน
แบ่งเป็น 3 ระบบ
1.ระบบการคมนาคมขนส่ง
2.ระบบงานบริการ
3.ระบบการผลิตในอุตสาหกรรม
1.ระบบการคมนาคมขนส่ง
ระบบรถไฟฟ้าเป็นระบบการคมนาคมขนส่งรูปแบบหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้คน ซึ่งการบริการจะต้องอาศัยองค์ประกอบหลายส่วนในการทำงานทั้งในด้านการจัดขบวนรถ รางรถ การจำหน่ายตั๋ว องค์ประกอบต่างๆ ดังที่กล่าวมาต้องอาศัยการทำงานสัมพันธ์กัน เพื่อให้การบริการของระบบไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2.ระบบงานบริการ
ระบบการจ่ายยาในโรงพยาบาลเป็นตัวอย่างของระบบงานบริการชนิดหนึ่งที่ต้องมีการจัดระบบการบริการ โดยมีแผนภาพแสดงลำดับขั้นตอนการบริการเพื่อให้ผู้ใช้บริการเข้าใจลำดับขั้นตอนก่อนการรับบริการ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและมีความรวดเร็วในการบริการอีกด้วย
3.ระบบการผลิตในอุตสาหกรรม
ระบบการผลิต (Production system) มี 2 ระบบใหญ่ๆ คือ
1.ระบบการผลิตแบบช่วงตอน (Intermittent Production System)
เป็นการผลิตแบบ ไม่สม่ำเสมอ หรือผลิตตามคำสั่งลูกค้า (Order.Manufacturing) เป็นการผลิต ที่วัตถุดิบไม่เลื่อนไหล ไปตามสายการผลิต จะผลิตเป็นช่วงๆ หรือเป็นตอน ถ้าครบ กิจกรรมการผลิต ก็จะได้ชิ้นงาน หรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปขึ้นมา เช่น การกลึงชิ้นงาน งานผลิต งานก่อสร้าง การผลิตโต๊ะ เก้าอี้
2.ระบบการผลิตแบบต่อเนื่อง (Continuous Production System)
เป็นระบบ ที่มีการไหล ของวัตถุดิบต่อเนื่อง ตามสายการผลิต (Line.production) เช่น โรงพิมพ์ พิมพ์หนังสือ โรงงานผลิตอาหารกระป๋อง การผลิตแก้วของโรงงานผลิตแก้ว บุหรี่ ไม้อัด น้ำตาล เป็นต้น
1.3ระบบทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อน
เทคโนโลยีบางอย่างอาจประกอบไปด้วยระบบย่อยหลายระบบ (subsystems) ทำงานสัมพันธ์กันอยู่ หากระบบย่อยใดทำงานผิดพลาด จะส่งผลต่อการทำงานของเทคโนโลยีนั้นไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์ หรืออาจทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งเทคโนโลยีที่ประกอบไปด้วยระบบย่อยตั้งแต่สองระบบขึันไปทำงานร่วมกัน เรียกระบบนั้นว่า ระบบที่ซับซ้อน (complex system) ตัวอย่างของระบบที่ซับซ้อน เช่นเครื่องปรับอากาศ
1.4 การทำงานผิดพลาดของระบบ (system failure)
ระบบทางเทคโนโลยีทั้งที่เป็นระบบอย่างง่ายและระบบที่ซับซ้อนื หากมีส่วนประกอบใดหรือระบบย่อยใดทำงานผิดพลาด อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของเทคโนโลยีนั้นได้ เช่น พัดลม หากปุ่มปรับระดับความแรงของพัดลมเสียหาย จะทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถปรับระดับความแรงของพัดลมได้ตามความต้องการ จึงจำเป็นต้องมีการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง (maintenance)เพื่อให้สามารถใช้งานได้ปกติ
สอบเก็บคะแนน วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2565