ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแห่ง ครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะ ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 27 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
1. วิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา ส 21102 จำนวน 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
2. วิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา ส 22102 จำนวน 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
3. วิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา ส 23102 จำนวน 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
4. วิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 21106 จำนวน 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
5. วิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 22106 จำนวน 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
6. วิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 23106 จำนวน 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
7. วิชาชุมนุม รหัสวิชา - จำนวน 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
8. วิชาลูกเสือ เนตรนารี รหัสวิชา - จำนวน 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
9. วิชาคุณธรรม รหัสวิชา - จำนวน 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 8 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู
(ยังไม่มีวิทยฐานะ) ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ การปรับประยุกต์ การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การจัดการเรียนรู้วิชาภูมิศาสตร์ที่ผ่านมา พบว่าผู้เรียนขาดประสบการณ์จริง ทักษะการคิดวิเคราะห์ และไม่สามารถนำเทคโนโลยี หรือเครื่องมือทางภูมิศาสตร์มาปรับประยุกต์ใช้ได้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ และผู้เรียนยังไม่มีการเชื่อมโยง ความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ดังนั้น ครูผู้สอนจึงจัดทำข้อตกลงใน การพัฒนางานประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ด้วยการใช้สื่อการสอนที่หลากหลาย โดยใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก
วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านคลองครก ในเรื่องมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดในสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
2.2 ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และแผนการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริม ทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยกระบวนการเรียนรู้ (PLC) 4 ขั้นตอน คือ Plan Do See และ Reflection
ขั้น Plan ต้อง "รู้" คือ "รู้จริง" ใส่ใจในรายละเอียดรายบุคคลของผู้เรียนจริงๆ
ขั้น Do ต้อง "รัก" คือ ทำด้วยความรักความเมตตาและใส่ใจ ใช้จิตวิทยาเชิงบวกเสมอ
ขั้น See ต้อง "เรียน" คือ เรียนรู้ผลที่เกิดขึ้นหลังการปฏิบัติ มีการวัดและประเมินอย่างมีหลักวิชาการ โดยใช้เครื่องมือที่หลากหลายรอบด้าน และได้ข้อมูล "จริง" และ "ลึก"
ขั้น Reflection ต้อง "ร่วม" คือ ร่วมมือ ร่วมใจ ร่วมเสียสละเวลา มาแลกเปลี่ยน แบ่งปันประสบการณ์ของตน ร่วมนำเสนอแนวปฏิบัติที่ดี่ให้กับเพื่อนครูที่กำลังแก้ปัญหาอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เผยแพร่ออกไป
2.3 ครูผู้สอนสร้างแบบทดสอบ และแบบบันทึกการปฏิบัติกิจกรรม โดยตรวจสอบความเที่ยงตรงของแบบทดสอบ ด้วยค่าความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับวัตถุประสงค์ (IOC) ด้วยผู้เชี่ยวชาญและปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญฝ่ายวิชาการ
2.4 นำแบบทดสอบและกิจกรรมที่ออกแบบใช้กับผู้เรียน ที่เคยเรียนเนื้อหาเพื่อปรับปรุงแบบทดสอบอีกครั้ง
2.5 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ใน ในรูปแบบ Active Learning โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบทของห้องเรียน ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ผ่านการใช้โปรแกรม Google Earth Pro และใช้สื่อ AR เสมือนจริง ด้วยการแสกนคิวอาร์โค้ด ผ่าน Merge Cube หรือคลิปวีดีทัศน์ เป็นต้น เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ 4 ขั้นตอน ดังนี้
(1) วิเคราะห์ประเด็นปัญหา
(2) ค้นหาสาเหตุของปัญหาและกำหนดแนวทางแก้ปัญหา
(3) ออกแบบกิจกรรมสร้างนวัตกรรมแก้ปัญหา
(4) ปฏิบัติการนำนวัตกรรมไปใช้แก้ปัญหา
2.6 บันทึกผลการเรียนรู้ของสรุปสารสนเทศของผู้เรียน แล้วแจ้งให้ผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ทราบและได้รับการพัฒนาจนกว่าผู้เรียนจะผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
2.7 สอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
การจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ ถือว่าเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญที่จะส่งผลให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการคิดด้านอื่นๆที่สูงขึ้น การคิดวิเคราะห์จะช่วยให้รู้ข้อเท็จจริง รู้เหตุผลเบื้องต้นของสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจความเป็นมาเป็นไปของเหตุการณ์ รู้ว่าเรื่องนั้นมีองค์ประกอบอะไรบ้าง รู้รายละเอียดของสิ่งต่างๆทำให้ได้ข้อเท็จจริงที่เป็นพื้นฐานความรู้ เพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง แนวทางการจัดการเรียนรู้โดยอาศัยกระบวนการคิดวิเคราะห์ แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การวิเคราะห์ประเด็นปัญหา 2) ค้นหาสาเหตุของปัญหาและกำหนดแนวทางแก้ปัญหา 3) ออกแบบกิจกรรมสร้างนวัตกรรมแก้ปัญหา 4) ปฏิบัติการนำนวัตกรรมไปใช้แก้ปัญหา ก่อให้เกิดผลงานที่สร้างประโยชน์ ทำให้นักเรียนเกิดความภาคภูมิใจจากผลงานของตนเอง กระบวนการคิดวิเคราะห์ที่นักเรียนได้ปฏิบัติผ่านกระบวนการเรียนรู้ 4 ขั้นตอน สามารถประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนจากผลงานนั้นๆ และทักษะที่เกิดขึ้นกับการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน จึงเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มีข้อมูลเนื้อหาวิชาซึ่งเชื่อมโยงกับการเรียนรู้ทักษะชีวิต อันจะก่อให้เกิดความรู้และทักษะที่นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ตามความมุ่งหมายทางการศึกษาอย่างแท้จริง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนได้รับการแก้ปัญหาด้านทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 4 ขั้นตอน ดังนี้
1) แบบทดสอบหลังเรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของผู้เรียนทั้งหมด
2) ใบงาน/แบบฝึกหัด ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของผู้เรียนทั้งหมด
3) ชิ้นงาน วีดีโอคลิป บัตรภาพ ป๊อปอัพ และโมเดล เป็นต้น
4) ผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ได้รับการซ่อมเสริม และปรับปรุงผลการเรียนให้ดีขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ และสามารถปรับประยุกต์ใช้เทคโนโลยี มาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้และผู้เรียนยังมีการเชื่อมโยงความรู้และประสบการณ์ตามกระบวนการเรียนรู้ 4 ขั้นตอน จากการพัฒนาตนเอง
ผู้สอนได้ ปรับประยุกต์ การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น
รัฐติยา
(นางสาวรัฐติยา คำปั้น)
ตำแหน่ง ครู
ผู้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน
30/ก.ย./66