ชื่อ-สกุล นางสาวสรรสยา ขันวิเศษ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
โรงเรียนเขวาไร่ศึกษา จังหวัดมหาสารคาม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามหาสารคาม
สอนรายวิชาประวัติศาสตร์ม.5และการป้องกันการทุจริตม.3และม.4
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้นม.5/1
ข้อมูลการปฏิบัติงาน
ข้อมูลการปฏิบัติงาน
ภาคเรียนที่ 1/2568
1. ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 21 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ/รายวิชาประวัติศาสตร์ ม.5 จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ/รายวิชาการป้องกันการทุจริตม.3 จำนวน 10 ชั่วโมง/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ/รายวิชาการป้องกันการทุจริตม.4 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมPLC จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
2. งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 ชั่วโมง/สัปดาห์
3. งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 11 ชั่วโมง/สัปดาห์
4. งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลงซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการ คือ แก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA Model) วิชาประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 โรงเรียนเขวาไร่ศึกษา
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ในรายวิชาประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่นักเรียนจะรู้สึกไม่ชอบ มีอคติ เพราะรู้สึกว่าเป็นวิชาที่มีเนื้อหาเยอะ การสอนเป็นการอ่านอธิบายเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่คาดหวัง นักเรียนขาดทักษะพื้นฐานทางด้านการคิด การวิเคราะห์ ไม่สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ สร้างองค์ความรู้ได้ ดังนั้น ผู้สอนมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการหาวิธีการสอนที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียน ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวทำให้นำการจัดการเรียนการสอนแบบ active learning เพื่อกระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความพร้อมในการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอน แบบซิปปาโมเดล (CIPPA Model)
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2561) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเขวาไร่ศึกษา พุทธศักราช 2565 ในเรื่องของมาตรฐานการเรียน และตัวชี้วัดของเนื้อหารายวิชาประวัติศาสตร์
2.2 ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และแผนการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอน แบบซิปปาโมเดล (CIPPA Model)
2.3 เปิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) โดยครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และเข้าไปสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องในเนื้อหา การจัดกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม และแบบฝึกหัด พร้อมทั้งเสนอแนะ และสะท้อนผลการจัดกิจกรรมเพื่อนามาปรับปรุง แก้ไขให้ผู้เรียนเกิดทักษะการคิดวิเคราะห์ ให้เหมาะสมกับบริบทของห้องเรียน ผู้เรียน และโรงเรียน
2.4 ครูผู้สอนนำกิจกรรมมาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำของคณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนเขวาไร่ศึกษา
2.5 ครูผู้สอนสร้างแบบทดสอบ และแบบบันทึกการปฏิบัติกิจกรรม โดยตรวจสอบความเที่ยงตรงของแบบทดสอบด้วยค่าความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับวัตถุประสงค์ (IOC) ด้วยผู้เชี่ยวชาญ และปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
2.6 นำแบบทดสอบทดลองและกิจกรรมที่ออกแบบใช้กับผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เคยเรียนเนื้อหา เรื่องหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพื่อปรับปรุงแบบทดสอบอีกครั้ง
2.7 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ รายวิชาประวัติศาสตร์ กับผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2568 ในรูปแบบ ONSITE โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบทของห้องเรียน ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ผ่านกระบวนการกลุ่มหรือคลิปวิดีทัศน์ตัวอย่าง เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอน แบบซิปปาโมเดล (CIPPA Model)ดังนี้
รูปแบบการสอนแบบซิปปา หมายถึง กระบวนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความคิด และการตัดสินใจอย่างเป็นระบบ สามารถสร้างความรู้ ค้นพบความรู้ได้ด้วยตนเอง นักเรียนมีบทบาทมากในกิจกรรมการเรียนการสอน และผู้เรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้
C (Construction) คือ ครูจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนมีโอกาสสร้างความรู้ด้วยตนเอง
I (Interaction) คือ ให้นักเรียนทำกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับบุคคลและแหล่งความรู้ที่หลากหลาย
P (Physical Participation) คือ จัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้เคลื่อนไหวร่างกาย
P (Process Learning) คือ จัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการต่างๆ เช่น กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการทำงานให้สำเร็จ
A (Application) คือ การจัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
2.8 บันทึกผลการเรียนรู้ของสรุปสารสนเทศของผู้เรียน แล้วแจ้งให้ผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ทราบ และได้รับการพัฒนาจนกว่าผู้เรียนจะผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
2.9 สอบถามความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครองในการจัดการเรียนการสอนเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าเดิม
3. ผลลัพธ์ในการพัฒนาตามประเด็นท้าทาย
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนในรายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่องหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชาประวัติศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA Model)