PERFORMANCE AGREEMENT
นางสุชาดา ดีเต่า
ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียนหนองฉางวิทยา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท
นางสุชาดา ดีเต่า
ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียนหนองฉางวิทยา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท
ประเด็นท้าทาย วิจัยในชั้นเรียนเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยโดยใช้วิธีการสอนแบบเทคนิคบันได 6 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ
วิธีดำเนินงานให้บรรลุ
การวางแผน (Plan)
วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองฉางวิวทยา ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2565
ศึกษาวิเคราะ์ และสังเคราะห์ข้อมูล แนวคิด และทฤษฎีพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการเรียการสอนการอ่านจับใจความสำคัญตามทฤษฏีการเรียนรู้บันได 6 ขั้น
ออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้และจัดทำนวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอน
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC) ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
การปฏิบัติ (DO)
นำหน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ และเอกสารประกอบเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญแบบบันได 6 ขั้น โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบทและสถานการณ์ในปัจจุบัน การจัดการเรียนรู้บันได 6 ขั้น ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ทักษะการอ่านจับใจความสำคัญแบบบันได 6 ขั้น
บันได ขั้นที่ 1 อ่านเรื่องให้จบแล้วตั้งคำถามจากภาพรวมของเนื้อหาที่อ่าน สื่อเรื่องอะไร 5W1H สื่อความหมายบวกหรือลบ ใคร ? ทำอะไร ? ที่ไหน ? อย่างไร ? เมื่อไหร่ ? ทำไม ?
บันได ขั้นที่ 2 หาคำสำคัญ Key words คำสำคัญ คือ คำ กลุ่มคำ หรือประโยคที่พบซ้ำๆ กันในย่อหน้าสังเกตง่ายๆ จะเป็นคำที่เขียนเหมือนกันหรือต่างกันก็ได้แต่ความหมายจะเหมือนกันและปรากฏซ้ำๆ ถ้าหากหาคำสำคัญได้ก็จะจับใจความได้ง่ายขึ้น เพราะ คำสำคัญมักเป็นประเด็นสำคัญของย่อหน้า
บันได ขั้นที่ 3 การตัดส่วนขยายใจความสำคัญ หาคำ วลี หรือประโยคซึ่งบ่งบอกข้อความที่เป็นส่วนขยายใจความสำคัญ 1. การให้คำจำกัดความ 2. การอธิบายให้รายละเอียด 3. การให้เหตุผล 4. การยกตัวอย่าง 5. การเปรียบเทียบ
1. การให้คำจำกัดความ เป็นการอธิบายความหมายของคำหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งในเนื้อเรื่องเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจตรงกัน นอกจากนี้ยังรวมถึงการอธิบายขอบเขตของความหมายของเรื่องด้วย การขยายความลักษณะนี้อาจมีตัวอย่างประกอบ
2. การอธิบายให้รายละเอียด การขยายความลักษณะนี้จะใช้เมื่อต้องการแจกแจงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อธิบายลักษณะหรือองค์ประกอบต่าง ๆ ของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือแสดงขั้นตอน กระบวนการ บรรยายเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะขยายให้รายละเอียดอย่างเดียวหรือพร้อมยกตัวอย่างด้วยก็ได้ มักใช้คำว่า “กล่าวคือ” เพื่อแสดงให้ทราบว่าข้อความที่อยู่หลังคำเชื่อมเป็นการอธิบายให้รายละเอียด
3. การให้เหตุผล การขยายความในลักษณะนี้ใช้เขียนให้ผู้อ่านเห็นคล้อยตาม การขยายความลักษณะนี้ทำได้หลายวิธี อาจเสนอแนวคิดที่เป็นข้อสรุป และตามด้วยข้อสนับสนุนต่างๆ ซึ่งเป้นเหตุผลหรือยกหลักฐานโดยการยกตัวอย่าง มักจะปรากฏคำเชื่อม “จึง” และ “เพราะ”
4. การยกตัวอย่าง ขยายความลักษณะนี้มักจะใช้ร่วมกับวิธีอื่น เช่น การให้คำจำกัดความ การอธิบายให้รายละเอียด ตามด้วยการยกตัวอย่างประกอบ การยกตัวอย่างนิยมใช้คำเชื่อม “เช่น” “ได้แก่” เพื่อให้ทราบว่าคำที่อยู่ด้านหลังของคำเชื่อมเป็นการยกตัวอย่าง
5. การเปรียบเทียบ การขยายความลักษณะนี้จะใช้เขียนเพื่อเปรียบเทียบในลักษณะข้อเท็จจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ โดยอาจมีความหมายเปรียบเทียบความเหมือนกันหรือแตกต่างกัน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องได้อย่างชัดเจน
บันได ขั้นที่ 4 เติมคำเชื่อมหาส่วนขยายใจความสำคัญ เพื่อตัดส่วนขยายใจความสำคัญทิ้ง - กล่าวคือ, เช่น, จึง/ดังนั้น, เพราะ
บันได ขั้นที่ 5 สังเกตคำเชื่อมแสดงความขัดแย้ง แต่, ทว่า, แต่หาก, แต่ว่า, อย่างไรก็ดี, ในทางตรงกันข้าม, ในทางกลับกัน, ถึงแม้แต่ ใจความสำคัญที่ผู้เขียนต้องการสื่อในย่อหน้านั้น อาจอยู่หลังกลุ่มคำดังกล่าว
บันได ขั้นที่ 6 หาใจความสำคัญได้ในทุกบทอ่าน หากย่อหน้านั้นไม่ปรากฏประโยคใจความสำคัญพิจารณาเนื้อความย่อหน้าอื่นๆ ในบริบท นำใจความสำคัญที่กระจายอยู่มาเรียบเรียงโดยใช้สำนวนภาษาของตนเอง หากใจความสำคัญกระจายอยู่ก็ให้หาคำสำคัญแล้วเรียบเรียงใหม่
การตรวจสอบ (Check)
1. เปิดห้องเรียนโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เข้าไปสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องในเนื้อหา การจัดกิจกรรม เครื่องมือในการจัดการเรียนรู้การใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญนำเสนอด้วยกระบวนการบันใด 6 ขั้น พร้อมทั้งเสนอแนะ และสะท้อนผลการจัดกิจกรรมเพื่อนำมาปรับปรุง แก้ไขให้ผู้เรียนเกิดทักษะการคิดแก้ปัญหาเหมาะสมกับบริบทของห้องเรียนผู้เรียนและโรงเรียน
2. นักเรียนทำแบบทดสอบ วัดประเมินผล การอ่านจับใจความ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
3. บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนที่เกิดขึ้นจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ ด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้บันได 6 ขั้น
4. วิเคราะห์ทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ รายวิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบรูปแบบผสมผสานและสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ
การปรับปรุงแก้ไข (Act)
1. ปรับปรุงแก้ไขกระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยทักษะการอ่านจับใจความสำคัญเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน รายวิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
2. นำประเด็นดังกล่าวร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมชมการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางการพัฒนาตามประเด็น นำผล สะท้อนในการใช้บันทึกข้อมูลผลการพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหา คะแนนในระบบสารสนเทศผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อประเมินการเรียนรู้ นำข้อมูล ที่ได้พัฒนาผลการเรียนรู้ให้ผู้เรียนบรรลุ ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
3. รวบรวมข้อมูลของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ ของนักเรียนที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงแก้ไขในประเด็นต่าง ๆ
4. นำผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ เปิดประเด็นปัญหา ของนักเรียนที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและหาแนวทางการพัฒนาร่วมกัน