ประเด็นท้าทาย
เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน
มาตราตัวสะกด แม่ ก กา
๑. วิธีดำเนินการ
จัดทำแผน ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ ตามแนวทาง BBL ( Brain Based Learning) โดยใช้กิจกรรมการเรียนการสอน แบบ ๕ ขั้น
BBL ( Brain Based Learning ) หมายถึง การเรียนรู้ ที่ใช้โครงสร้างและหน้าที่ของสมองเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ โดยไม่สกัดกั้นการทำงานของสมอง แต่เป็นการส่งเสริมให้สมองได้ปฏิบัติหน้าที่ให้สมบูรณ์ ที่สุด ภายใต้แนวคิดที่ว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ ทุกคนมีสมองพร้อมที่จะทำเรียนรู้มาตั้งแต่กำเนิด
กระบวนการสอน ๕ ขั้น แบบ Brain-based Learning (BBL) เป็นกระบวนการสอนอ่านออก เขียนได้ ในแผนการจัดการเรียนรู้ที่แบ่งออกเป็น ๕ ขั้น ดังนี้
๑.๑ อุ่นเครื่อง (Warm-up) เป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อให้สมองตื่นตัว เตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้เนื้อหาต่อไป เพื่อกระตุ้นสมอง การWarm-up นั้นทำได้ ๓ วิธี คือ
๑) Brain Exercise
๒) การเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ (Rhythm) อาจมีเสียงเพลงและคำกลอนประกอบ
๓) ยืดเส้นยืดสาย (Stretching)
๑.๒ ขั้นนำเสนอความรู้ (Present) นักเรียนทุกคนมีความต่างกัน มีประสบการณ์ มีพื้นฐานเฉพาะตัว ดังนั้น การสอนจึงควรเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำเสนอความรู้ ใหม่ ผ่านสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจ เช่น สื่อของจริง บัตรภาพ บัตรคำ บัตรตัวเลข ชาร์ตบทกลอน บทเพลง กระดานเคลื่อนที่ เป็นต้น
๑.๓ ขั้นลงมือเรียนรู้-ฝึกทำ-ฝึกฝน (Learn-Practice) เปิดโอกาสให้นักเรียนฝึกทำ โดยลงมือทดลองใช้ความรู้ ด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น ฝึกทำโดยใช้สื่อจากมุมสื่อ BBL พานักเรียนไปดูของจริง สำรวจและบันทึกจากสิ่งที่พบเห็น ทำกิจกรรมจากใบงาน เช่น กิจกรรมตัดปะ เล่นเกมบิงโก ใช้อุปกรณ์เคาะลงบนข้อความ หรือคำศัพท์ ให้เด็กได้เคลื่อนไหว เช่น ลุกขึ้นจากโต๊ะเพื่อไปทำกิจกรรม และควรมีใบงานที่ให้นักเรียนได้ประยุกต์ใช้ความรู้ และคิดสร้างสรรค์ด้วยตัวเอง
๑.๔ ขั้นสรุปความรู้ (Summary) ต้องทำการสรุปความรู้ร่วมกับนักเรียน
๑.๕ ประยุกต์ใช้ความรู้ (Apply) ถ้าเป็นไปได้และมีเวลา กระบวนการเรียนรู้ควรทำไปถึงขั้นให้นักเรียนประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์ใหม่ๆ ในขั้นนี้ โดยมากนักเรียนจะเริ่มนำความรู้ไปสร้าง (make) หรือ ผลิต (produce) ชิ้นงานใหม่ๆ เช่น แต่งนิทาน ทำหนังสือเล่มเล็ก แสดงละคร โต้วาที จัดบอร์ดผลงาน นิทรรศการ เป็นต้น
๒. ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่คาดหวัง
๒.๑ เชิงประมาณ
ผู้เรียนระดับประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด ๒๕ คน ได้รับการแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ โดยใช้แบบฝึกการอ่าน มาตราตัวสะกด แม่ ก กา โดยมีคะแนนทดสอบผ่านเกณฑ์คิดเป็นร้อยละ ๗๐
๒.๒ เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด ๒๕ คน ได้รับการแก้ปัญหาทักษะการอ่านออกเขียนได้ โดยใช้แบบฝึกการอ่าน มาตราตัวสะกด แม่ ก กา สามารถนำความรู้ไปใช้ในการเรียนรู้ บทเรียนต่อไป ในระดับชั้นที่สูงขึ้น และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
สรุปผลการวิจัย
จากการศึกษาการพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ โดยใช้แบบฝึกอ่าน แม่ ก กา และแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ให้นักเรียนเขียนตามคำบอก อภิปรายผลการวิจัยได้ดังนี้
นักเรียน ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ สามารถเขียนเเละอ่านได้ มีความเข้าใจในมาตราตัวสะกดแม่ ก กา และมีทักษะการอ่านและเขียนที่ดีขึ้นซึ่งนักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 จากการใช้แบบฝึกอ่าน แม่ ก กา สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
วิจัยการพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ โดยใช้แบบฝึกอ่าน แม่ ก กา