Embedded Files
มหากาพย์ Adjectives
เราพอจะจำได้ใช่ไหมคำว่าคำคุณศัพท์ (Adjectives) คือคำที่ขยายคำนามและมักจะวางอยู่หน้าคำนามที่ไปขยาย และจำได้ลาง ๆ ว่ามันยังสามารถไปวางไว้ในตำแหน่งอื่น ๆ ได้อีกแล้วที่ไหนบางละในประโยค และคำแบบไหนกันที่ใช้เป็นคำคุณศัพท์ได้บาง แล้วจะใช้อย่างไรได้บ้าง ไปลุยกันเลยครับ
โดยทั่วไปคำคุณศัพท์ (Adjectives) จะทำหน้าที่อธิบาย บอกลัษณะ และสภาพของคำนาม เช่น Ronny is a clever man. โรนนี่เป็นผู้ชายที่ฉลาด “เขินจัง”
คำใดเป็นคำคุณศัพท์
1. ส่วนมากแล้วคำคุณศัพท์จะมาจากคำนาม (nouns) และคำกริยา(verbs) โดยการเติม suffix เช่น -ful, -y, -ic, -ous, -an, -less, -able, -ish, -like, -ive, -ant, -ing, -ed เป็นต้น เช่น beautiful, friendly, dangerous, interested, collective แต่ก็อย่าลืมนะครับคำคุณศัพท์ที่ไม่ได้มาจากคำเหล่านี้ แต่มีความหมายในตัวมันเองอยู่แล้ว เช่น big, small, happy, handsome, intelligent, clever เป็นต้น
2. โดยปกติเมื่อเติม ly ท้ายคำคุณศัพท์ (Adjectives) หรือคำนั้นลงท้ายด้วย ly จะเป็นคำกริยาวิเศษณ์ (Adverbs) มีบางคำที่ลงท้ายด้วย ly แต่เป็น Adjectives เช่น lonely, lovely, likely, ugly, deadly, silly, cowardly, friendly
3. บางคำลงท้ายด้วย ly แต่เป็นได้ทั้ง Adverbs และ Adjectives เช่น daily, weekly, monthly, yearly, early เช่น Ronny gets up early to catch an early bus.
คำคุณศัพท์วางไว้ตำแหน่งใดได้บ้างในประโยค
1. Adjectives วางไว้หน้าคำนามเพื่อขยายคำนามนั้น เช่น We are in the raining season now. Ronny has a beautiful wife. (Adj. + N.)
2. Adjective ตามหลัง Verb to be หรือ Linking verb เช่น Ronny is able to speak English. I They are interested in music. (Be + Adj.)
3. Adjectives ตามหลัง Linking verb บ่งบอกสภาพซึ่งไม่สมบูรณ์ในตัวมันเอง look, feel, seem, get, taste, smell, turn, appear, become, look etc. เช่น This soup smells good. Ronny appears cheerful today. (Linking v. + Adj.)
4. Adjectives ตามหลังคำกริยาบางคำ เพื่อทำให้ประโยคได้ใจความสมบูรณ์ เช่น Lisa believes Ronny innocent. We found the house empty. (V. + N + Adj.)
5. Adjectives นำหน้าด้วย the จะกลายเป็นคำนามพหูพจน์ เช่น the poor คนจน the rich คนรวย the blind คนตาบอด the wounded คนบาดเจ็บ the sick คนป่วย เขียนเป็นประโยคได้ว่า เช่น The sick were well taken care of. (the + Adj. + V. พหูพจน์)
6. Adjectives ที่ใช้ the นำหน้า เพื่อแสดงสัญชาติ และมีความหมายเป็นพหูพจน์ เช่น the Scottish ชาวสกอตแลนด์ the French ชาวฝรั่งเศส the British ชาวอังกฤษ เป็นต้น เขียนในรูปประโยคได้ว่า เช่น The French love the freedom of speech.
7. Adjective ใช้ตามหลังคำเหล่านี้ as, how, so, too เช่น Ronny is too kind a boy to refuse anything โรนนี่ใจดีเกินกว่าที่จะปฏิเสธสิ่งใด โดยมีโครงสร้าง (too + Adj. + a / an + N.)
8. Adjectives ใช้กับคำเหล่านี้ (Indefinite Pronouns) everything, anything, nothing somewhere etc. เช่น Let’s go somewhere quiet. ให้เราไปที่เงียบ ๆ
9. คำนาม (Noun) ที่หน้าที่เป็น คำคุณศัพท์ (Adjectives) เพื่อขยายคำนามอีกตัวข้างหน้า เช่น
- ไม่เติม s หลังคำนามที่ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ (Adjectives) เช่น car-racing, shoe-repairer
- เติม s แม้ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ (Adjectives) เช่น clothes shops, mathematics teachers etc.
- จำนวนนับที่ประกอบด้วยคำนาม ไม่เติม s ที่จำนวนนับที่ทราบจำนวน เช่น three dozen of eggs
- จำนวนนับที่ไม่ทราบจำนวน เติม s ที่จำนวนนับร้อย พัน หมื่น แสน เช่น dozens of eggs, hundreds of people, millions of mosques เป็นต้น
10. Adjectives ตามด้วยคำกริยาบางคำ แต่ขยายประธานโดยการบรรยายลักษณะของประธาน ได้แก่ sit, stand, lie, shot เช่น Ronny sat motionless, waiting for their decision. โรนนี่นั่งนิงไม่ไหวตัวเลยรอการตัดสินใจของพวกเขา
11. คำนามที่แสดงอายุ (age) น้ำหนัก (weight) ปริมาณ (quantity) หน่วยการวัด (measurement) เมื่อทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ขยายคำนาม คำนามนั้นจะเป็นเอกพจน์มีเครื่องหมาย hyphen คั่น เช่น a two – hour lesson, a four – month – old baby.
12. คำศัพท์ such เป็นคำคุณศัพท์ (Adjective) ที่ใช้กับคำนามเอกพจน์ พหูพจน์หรือนามนับไม่ได้เมื่อต้องการจะเน้น มีความหมายว่า great, big, good หรือ terrible เช่น Ronny is such a fool. (เป็นนามเอกพจน์) They had such fools. (เป็นนามพหูพจน์) We had such fun. (เป็นนามนับไม่ได้) โครงสร้าง (such + (a /an) + Adj. + noun)
13. ท้ายสุดคำคุณศัพท์มีหลายชนิดดังนั้นเมื่อเราจะต้องวางไว้ในประโยคเพื่อขยายความหมายของคำนามนั้น เราจะต้องวางเรียงคำคุณศัพท์เหล่นนั้นให้ถูกต้อง เช่นในประโยค The girl’s last three good big old round blue English flower pots.
ในความคิดของผมเราไม่จำเป็นต้องท่องทั้งหมด ให้เราเข้าใจเพียงคำนามวางไว้หน้าคำนามที่มันขยายและตามหลัง verb to be หรือ Linking verb ส่วนอื่น ๆ ให้เรารู้ไว้ว่าคำคุณศัพท์ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในประโยคอีกหลายรูปแบบ เมื่อเราไปอ่านเจอในประโยค บทความ หนังสือภาษาอังกฤษ รวมทั้งข้อสอบ error บางอันเราจะได้เอ่ะใจ และหาคำตอบมาตอบได้ว่ามันสามารถใช้แบบนี้ก็ได้นะ
ฝากติดตาม พี่อ้อม-English & Songs ทุกช่องทางออนไลนด้วยนะครับ Facebook, Instagram, YouTube, Blockdit, Tiktok, Twitter, Podcast และ เว็บไซต์ หากท่านใดสนใจภาษาอังกฤษและเพลงเช่นเดียวกัน ยังมีเรื่องอื่น ๆ จิปาถะ แบบจัดเต็มกันเลยทีเดียวอิอิ
มหากาพย์ Adjectives
เราพอจะจำได้ใช่ไหมคำว่าคำคุณศัพท์ (Adjectives) คือคำที่ขยายคำนามและมักจะวางอยู่หน้าคำนามที่ไปขยาย และจำได้ลาง ๆ ว่ามันยังสามารถไปวางไว้ในตำแหน่งอื่น ๆ ได้อีกแล้วที่ไหนบางละในประโยค และคำแบบไหนกันที่ใช้เป็นคำคุณศัพท์ได้บาง แล้วจะใช้อย่างไรได้บ้าง ไปลุยกันเลยครับ
โดยทั่วไปคำคุณศัพท์ (Adjectives) จะทำหน้าที่อธิบาย บอกลัษณะ และสภาพของคำนาม เช่น Ronny is a clever man. โรนนี่เป็นผู้ชายที่ฉลาด “เขินจัง”
คำใดเป็นคำคุณศัพท์
1. ส่วนมากแล้วคำคุณศัพท์จะมาจากคำนาม (nouns) และคำกริยา(verbs) โดยการเติม suffix เช่น -ful, -y, -ic, -ous, -an, -less, -able, -ish, -like, -ive, -ant, -ing, -ed เป็นต้น เช่น beautiful, friendly, dangerous, interested, collective แต่ก็อย่าลืมนะครับคำคุณศัพท์ที่ไม่ได้มาจากคำเหล่านี้ แต่มีความหมายในตัวมันเองอยู่แล้ว เช่น big, small, happy, handsome, intelligent, clever เป็นต้น
2. โดยปกติเมื่อเติม ly ท้ายคำคุณศัพท์ (Adjectives) หรือคำนั้นลงท้ายด้วย ly จะเป็นคำกริยาวิเศษณ์ (Adverbs) มีบางคำที่ลงท้ายด้วย ly แต่เป็น Adjectives เช่น lonely, lovely, likely, ugly, deadly, silly, cowardly, friendly
3. บางคำลงท้ายด้วย ly แต่เป็นได้ทั้ง Adverbs และ Adjectives เช่น daily, weekly, monthly, yearly, early เช่น Ronny gets up early to catch an early bus.
คำคุณศัพท์วางไว้ตำแหน่งใดได้บ้างในประโยค
1. Adjectives วางไว้หน้าคำนามเพื่อขยายคำนามนั้น เช่น We are in the raining season now. Ronny has a beautiful wife. (Adj. + N.)
2. Adjective ตามหลัง Verb to be หรือ Linking verb เช่น Ronny is able to speak English. I They are interested in music. (Be + Adj.)
3. Adjectives ตามหลัง Linking verb บ่งบอกสภาพซึ่งไม่สมบูรณ์ในตัวมันเอง look, feel, seem, get, taste, smell, turn, appear, become, look etc. เช่น This soup smells good. Ronny appears cheerful today. (Linking v. + Adj.)
4. Adjectives ตามหลังคำกริยาบางคำ เพื่อทำให้ประโยคได้ใจความสมบูรณ์ เช่น Lisa believes Ronny innocent. We found the house empty. (V. + N + Adj.)
5. Adjectives นำหน้าด้วย the จะกลายเป็นคำนามพหูพจน์ เช่น the poor คนจน the rich คนรวย the blind คนตาบอด the wounded คนบาดเจ็บ the sick คนป่วย เขียนเป็นประโยคได้ว่า เช่น The sick were well taken care of. (the + Adj. + V. พหูพจน์)
6. Adjectives ที่ใช้ the นำหน้า เพื่อแสดงสัญชาติ และมีความหมายเป็นพหูพจน์ เช่น the Scottish ชาวสกอตแลนด์ the French ชาวฝรั่งเศส the British ชาวอังกฤษ เป็นต้น เขียนในรูปประโยคได้ว่า เช่น The French love the freedom of speech.
7. Adjective ใช้ตามหลังคำเหล่านี้ as, how, so, too เช่น Ronny is too kind a boy to refuse anything โรนนี่ใจดีเกินกว่าที่จะปฏิเสธสิ่งใด โดยมีโครงสร้าง (too + Adj. + a / an + N.)
8. Adjectives ใช้กับคำเหล่านี้ (Indefinite Pronouns) everything, anything, nothing somewhere etc. เช่น Let’s go somewhere quiet. ให้เราไปที่เงียบ ๆ
9. คำนาม (Noun) ที่หน้าที่เป็น คำคุณศัพท์ (Adjectives) เพื่อขยายคำนามอีกตัวข้างหน้า เช่น
- ไม่เติม s หลังคำนามที่ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ (Adjectives) เช่น car-racing, shoe-repairer
- เติม s แม้ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ (Adjectives) เช่น clothes shops, mathematics teachers etc.
- จำนวนนับที่ประกอบด้วยคำนาม ไม่เติม s ที่จำนวนนับที่ทราบจำนวน เช่น three dozen of eggs
- จำนวนนับที่ไม่ทราบจำนวน เติม s ที่จำนวนนับร้อย พัน หมื่น แสน เช่น dozens of eggs, hundreds of people, millions of mosques เป็นต้น
10. Adjectives ตามด้วยคำกริยาบางคำ แต่ขยายประธานโดยการบรรยายลักษณะของประธาน ได้แก่ sit, stand, lie, shot เช่น Ronny sat motionless, waiting for their decision. โรนนี่นั่งนิงไม่ไหวตัวเลยรอการตัดสินใจของพวกเขา
11. คำนามที่แสดงอายุ (age) น้ำหนัก (weight) ปริมาณ (quantity) หน่วยการวัด (measurement) เมื่อทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ขยายคำนาม คำนามนั้นจะเป็นเอกพจน์มีเครื่องหมาย hyphen คั่น เช่น a two – hour lesson, a four – month – old baby.
12. คำศัพท์ such เป็นคำคุณศัพท์ (Adjective) ที่ใช้กับคำนามเอกพจน์ พหูพจน์หรือนามนับไม่ได้เมื่อต้องการจะเน้น มีความหมายว่า great, big, good หรือ terrible เช่น Ronny is such a fool. (เป็นนามเอกพจน์) They had such fools. (เป็นนามพหูพจน์) We had such fun. (เป็นนามนับไม่ได้) โครงสร้าง (such + (a /an) + Adj. + noun)
13. ท้ายสุดคำคุณศัพท์มีหลายชนิดดังนั้นเมื่อเราจะต้องวางไว้ในประโยคเพื่อขยายความหมายของคำนามนั้น เราจะต้องวางเรียงคำคุณศัพท์เหล่นนั้นให้ถูกต้อง เช่นในประโยค The girl’s last three good big old round blue English flower pots.
ในความคิดของผมเราไม่จำเป็นต้องท่องทั้งหมด ให้เราเข้าใจเพียงคำนามวางไว้หน้าคำนามที่มันขยายและตามหลัง verb to be หรือ Linking verb ส่วนอื่น ๆ ให้เรารู้ไว้ว่าคำคุณศัพท์ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในประโยคอีกหลายรูปแบบ เมื่อเราไปอ่านเจอในประโยค บทความ หนังสือภาษาอังกฤษ รวมทั้งข้อสอบ error บางอันเราจะได้เอ่ะใจ และหาคำตอบมาตอบได้ว่ามันสามารถใช้แบบนี้ก็ได้นะ
ฝากติดตาม พี่อ้อม-English & Songs ทุกช่องทางออนไลนด้วยนะครับ Facebook, Instagram, YouTube, Blockdit, Tiktok, Twitter, Podcast และ เว็บไซต์ หากท่านใดสนใจภาษาอังกฤษและเพลงเช่นเดียวกัน ยังมีเรื่องอื่น ๆ จิปาถะ แบบจัดเต็มกันเลยทีเดียวอิอิ
Page updated
Google Sites
Report abuse