- ออร์โธปิดิกส์เป็นสาขาวิชาที่ดูแลปัญหาเกี่ยวกับโรคและความผิดปกติทางระบบกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ เอ็น และเส้นประสาทส่วนปลาย ปัญหาทางด้านออร์โธปิดิกส์ที่สำคัญและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร การบาดเจ็บและโรคที่เกิดจากการทำงาน การบาดเจ็บอันเนื่องจากการเล่นกีฬา การบาดเจ็บและโรคในผู้สูงอายุ
- จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน (Thai Road Safety Culture/Citizens/Collaboration - ThaiRSC) ปี 2560 ทั้งประเทศมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร 1,005,410 ราย และเสียชีวิต 15,453 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บทางถนน 20.65 รายต่อแสนประชากร ขณะที่จังหวัดชลบุรีมีอัตราการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บทางถนนสูงถึง 33.6 รายต่อแสนประชากร
- ข้อมูลจากแผนยุทธศาสตร์พัฒนาด้านสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 ตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (2560-2564) (Eastern Economic Corridor : EEC) ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง คาดว่าอาจมีผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับทางด้านออร์โธปิดิกส์ ดังนี้ (1) จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น จากการย้ายถิ่นของประชากรโดยเฉพาะวัยแรงงานและครอบครัวเข้ามาในพื้นที่ 3 จังหวัด EEC ซึ่งปัจจุบันมีประชากรประมาณ 2.8 ล้านคน ในอีก 10 ปีข้างหน้าประมาณการว่าจะมีจำนวนประชากรสูงถึง 13 ล้านคน โดยมีสัดส่วนของวัยแรงงานที่สูงขึ้น รวมถึงจำนวนของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นด้วย (2) มีแนวโน้มที่จะเกิดโรคและการบาดเจ็บอันเนื่องจากการทำงานมากขึ้น (3) การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่ง และจำนวนยานพาหนะต่าง ๆ ที่มากขึ้น ทำให้ปัญหาอุบัติเหตุจราจรเพิ่มสูงและรุนแรงมากยิ่งขึ้น
- ข้อมูลจากแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ด้านสาธารณสุข (พ.ศ. 2560-2579) บ่งบอกว่าประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ สถิติของปี 2557 พบว่าโรคข้อเสื่อมเป็นสาเหตุที่ทำให้หญิงไทยสูญเสียปีสุขภาวะสูงสุด (Disability-adjusted life years, DALYs) เป็นอันดับที่ 4 รองจากโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจขาดเลือด จากข้อมูลปี 2558 ประชากรทั้งกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปีและมากกว่า 60 ปี มีอัตราผู้ป่วยในอันเนื่องจากโรคระบบกล้ามเนื้อเส้นเอ็นกระดูกและข้อสูงเป็นลำดับที่ 5 รองจากโรคระบบหายใจ โรคระบบไหลเวียนโลหิต โรคระบบย่อยอาหาร และโรคมะเร็ง ในส่วนของแพทย์ทั้งด้านปริมาณและการกระจาย ถึงแม้ว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่พบว่ายังคงมีจำนวนของแพทย์ที่ไม่เพียงพอและมีการกระจายที่ไม่เหมาะสม ข้อมูลปี 2558 พบว่าประเทศไทยมีสัดส่วนแพทย์ต่อประชากร 1 : 2,035 ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำกว่าเกณฑ์สากล
- ปี 2560 โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา มีจำนวนผู้ประกันตน 316,995 คน สูงมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ข้อมูลของฝ่ายศัลยกรรมกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เปรียบเทียบระหว่างปี พ.ศ.2555 และ พ.ศ.2560 พบว่าจำนวนผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นจาก 29,519 ราย/ปี เป็น 41,603 ราย/ปี คิดเป็นร้อยละ 41 จำนวนผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นจาก 2,026 ราย/ปี เป็น 2,438 ราย/ปี คิดเป็นร้อยละ 20 และจำนวนผู้ป่วยผ่าตัดเพิ่มขึ้นจาก 2,172 ราย/ปี เป็น 2,729 ราย/ปี คิดเป็นร้อยละ 26
- โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เป็นโรงพยาบาลที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในประเทศไทย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งเป็นพระบรมราชเทวีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานกำเนิดโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2445 ทรงพระดำริว่า “ถ้าได้มีสถานที่พยาบาลคนเจ็บไข้ขึ้นในตำบลนี้ นอกจากจะได้ใช้เป็นที่รักษาพยาบาลข้าราชบริพารและผู้ที่ตามเสด็จนั้นแล้ว ยังจะเป็นสาธารณประโยชน์ให้ประชาชนในท้องถิ่นที่ใกล้เคียงได้พึ่งพาอาศัยในยามเจ็บไข้ ซึ่งเป็นสาธารณกุศลและเป็นการช่วยชาติบ้านเมืองอีกส่วนหนึ่ง” จากพระดำรินี้ร่วมกับการที่โรงพยาบาลอยู่ภายใต้สังกัดของสภากาชาดไทย ทำงานโดยยึดหลักการกาชาด 7 ข้อได้แก่ มนุษยธรรม ความไม่ลำเอียง ความเป็นกลาง ความเป็นอิสระ บริการอาสาสมัคร ความเป็นเอกภาพ ความเป็นสากล งานทุกด้านของโรงพยาบาลจึงให้ความสำคัญต่อประชาชนเป็นหลัก
- จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นเมื่อคำนึงถึงความต้องการด้านสุขภาพของชุมชนและสังคม และความต้องการของระบบบริการสุขภาพ ฝ่ายศัลยกรรมกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จึงเห็นถึงความสำคัญของการผลิตแพทย์ออร์โธปิดิกส์ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นและมีความสามารถในการรองรับปัญหาที่สำคัญในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก จึงได้กำหนดพันธกิจของหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อผลิตแพทย์ออร์โธปิดิกส์ที่มีคุณภาพ มีสมรรถนะที่เหมาะสมต่อความต้องการของทั้งประชาชน และระบบบริการสุขภาพที่อาจมีโอกาสเปลี่ยนแปลงในอนาคต