Search this site
Embedded Files
Skip to main content
Skip to navigation
N. Witvorapong
Home
Education & Work
Publications
Funded Research
Books
Professional Services
Invited Talks
Media Appearances
N. Witvorapong
Home
Education & Work
Publications
Funded Research
Books
Professional Services
Invited Talks
Media Appearances
More
Home
Education & Work
Publications
Funded Research
Books
Professional Services
Invited Talks
Media Appearances
Media Appearances
SELECTED MEDIA APPEARANCES
‘นพพล วิทย์วรพงศ์’ คว้าเหรียญทองคำป๋วยฯ ปี 66 คนรุ่นใหม่วิจัยทันสมัย นานาชาติยอมรับ
7 สถาบันด้านเศรษฐศาสตร์ เห็นพ้องมอบ ‘เหรียญทองคำป๋วย อึ …
16 ความคิดเพื่อชีวิตคนไทย: สิ่งที่เป็น ปัญหาที่เห็น และประเด็นชวนคิด | PIER
ทรรศนะของนักวิชาการต่อการพัฒนาในมิติต่าง ๆ ของไทย
วันใหม่วาไรตี้ - ประเด็นสังคม : อนาคตความสุขของผู้สูงวัย สังคมไทยพร้อมหรือยัง ?
ประเทศไทยเข้าสู่ "สังคมผู้สูงอายุ" โดยสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2564 ตามเกณฑ์ ซึ่งมีประชากรวัยเกิน 60 ปี มีกว่า 20% ของประชากรในประเทศ และมีอัตราการเกิดต่ำเพียง 600,000 คนต่อปี จากโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป อนาคตความสุขของผู้สูงอายุจะสามารถสร้างได้อย่างไร และสังคมไทยเตรียมความพร้อมสำหรับสังคมผู้สูงอายุไว้มากน้อยแค่ไหน ชมย้อนหลังรายการ "วันใหม่วาไรตี้" ได้ที่ www.thaipbs.or.th/WanmaiVariety
CU Around จุฬาสัมพันธ์ ฉบับที่ 12 ปีที่ 61 – จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
cuaround december_cre_02
การช่วยเหลือสังคมของคนไทย ทำไม อย่างไร ใคร
การช่วยเหลือสังคมของคนไทย ทำไม อย่างไร ใคร : คอลัมน์เศรษฐเสวนา จุฬาฯทัศนะ โดย รศ.ดร.นพพล วิทย์วรพงศ์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,906 หน้า 5 วันที่ 20 - 22 กรกฎาคม 2566
การประเมินอายุขัยและการเตรียมตัวตาย สถิติจากการสำรวจในกรุงเทพมหานคร
การประเมินอายุขัยและการเตรียมตัวตาย สถิติจากการสำรวจในกรุงเทพมหานคร : คอลัมน์เศรษฐเสวนา จุฬาฯทัศนะ โดย รศ.ดร.นพพล วิทย์วรพงศ์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,824 หน้า 5 วันที่ 6 - 8 ตุลาคม 2565
How to Die - ออกแบบความตายให้เป็นนโยบายสาธารณะ
101 ชวนมองทางเลือกการตายในผู้ป่วยระยะสุดท้ายและแนวโน้มของการผลักดันให้เป็นนโยบายสาธารณะในประเทศไทยผ่านรายงานของ รศ.ดร.นพพล วิทย์วรพงศ์
ความซื่อสัตย์ของคนไทย
ความซื่อสัตย์ของคนไทย : คอลัมน์เศรษฐเสวนา จุฬาฯทัศนะ โดย…รศ.ดร.นพพล วิทย์วรพงศ์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4045
ทำร้ายเด็ก = ทำร้ายชาติ ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของการใช้ความรุนแรงกับเด็ก
ทำร้ายเด็ก = ทำร้ายชาติความสูญเสียทางเศรษฐกิจของการใช้ความรุนแรงกับเด็ก : คอลัมน์เศรษฐเสวนา จุฬาฯทัศนะ โดย... รศ.ดร.นพพล วิทย์วรพงศ์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4010
puey-ungpakorn-medal
เปิดแผน เตรียมผู้สูงวัยไทยให้พร้อมเป็นพลเมืองแอคทีฟ
อาจารย์เศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ เผยแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ เตรียมผู้สูงวัยไทยในอนาคตให้พร้อมเป็นพลเมืองแอคทีฟ พึ่งพาตนเอง รักษาสุขภาพให้แข็งแรง มั่นคงทางเศรษฐกิจ มีส่วนร่วมทางสังคม ชี้รัฐและเอกชนต้องพร้อมหนุนทุกมิติ
มีลูก=มีสุข จริงหรือไม่ในมุมมองของผู้สูงอายุ
มีลูก=มีสุข จริงหรือไม่ในมุมมองของผู้สูงอายุ : คอลัมน์เศรษฐเสวนา จุฬาฯทัศนะ โดย รศ.ดร.นพพล วิทย์วรพงศ์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,728 หน้า 5 วันที่ 4 - 6 พฤศจิกายน 2564
เกิดอะไรขึ้น (กับเศรษฐกิจ) …เมื่อรัฐไม่ชัดเจน
เกิดอะไรขึ้น (กับเศรษฐกิจ) … เมื่อรัฐไม่ชัดเจน : คอลัมน์เศรษฐเสวนา จุฬาฯทัศนะ โดย...รศ.ดร.นพพล วิทย์วรพงศ์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,940 หน้า 5 วันที่ 16 - 18 พฤศจิกายน 2566
Survey shows women wanting to have fewer children – with precipitous drop in birth rate expected soo
A SURVEY has revealed that on average Thai women want to have fewer children.
"โควิด-19 กับ 19 นักเศรษฐศาสตร์" : 19 มุมมองสู่ทางรอดประเทศไทย | ThaiPublica
การรับมือกับวิกฤติโควิด-19 ที่เรากำลังประสบอยู่นจำเป็นต้องผสมผสานแนวคิดจากศาสตร์หลากหลายแขนง และเป็นที่มาของการรวมตัวกันของ 19 นักเศรษฐศาสตร์ไทย ที่จะมาให้มุมมองและข้อเสนอแนะต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในมิติต่างๆ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดในวงการวิชาการและในสังคมไทย เพื่อนำไปสู่ประสิทธิผลสูงสุดของการวางกลยุทธ์รับมือกับศึกใหญ่ของประเทศในครั้งนี้
เลือกเกิดไม่ได้ เลือกตายได้ไหม: ความเป็นไปได้ของกฎหมายการุณยฆาตในประเทศไทย
เลือกเกิดไม่ได้ เลือกตายได้ไหม: ความเป็นไปได้ของกฎหมายการุณยฆาตในประเทศไทย
“สะสมทรัพย์ สะสมสุขภาพ สะสมเพื่อน ใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตัวเอง” เตรียมตัวแก่แบบไม่ต้องคิดว่าตัวเองจะมีลูกหรือไม่ จาก นพพล วิทย์วรพงศ์ นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจ ‘ความสุข’ ของผู้สูงวัยไทย - นับเราด้วยคน
สิ่งหนึ่งที่ใครก็หนีไม่พ้น คือ อายุที่เปลี่ยนไป สักวันหนึ่งเราก็จะอายุมากขึ้นเรื่อยๆ แก่ตัวเหมือนกับคุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า ที่อาจจะไม่ได้กระฉับกระเฉงเท่าตอนหนุ่มสาวเราเคยลองจินตนาการไหมว่า แก่ตัวไปเราจะเป็นแบบไหน? ปี 2565 สัดส่วนผู้สูงอายุของไทยเพิ่มประมาณร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ไทยเข้าสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย ทำให้รัฐ หน่วยงานอื่นๆ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ความสำคัญการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้และพยายามออกแบบนโยบายสังคมเพื่อให้เหมาะสมกับพวกเขามากที่สุด คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ทั้งรัฐ ลูก และคนสูงวัยเองต่างก็มีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งนี้ให้เกิดขึ้น การจะรู้ว่าพวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีหรือไม่ สามารถใช้เครื่องวัดได้หลากหลายแบบ อีกหนึ่งเครื่องมือวัดคุณภาพชีวิตโดยองค์การอนามัยโลก (WHO Quality of Life: WHOQOL) ระบุว่า คุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุขึ้นอยู่กับประเด็น 6 ข้อ ได้แก่ ความสามารถในการพึ่งพาตัวเอง (Autonomy), การรับรู้ตามประสาทสัมผัส (Sensory Abilities), การยอมรับความตายและกระบวนการการตาย (Death and Dying), มุมมองต่ออดีต ปัจจุบัน และอนาคต (Pas, Present, and Future Activities), ความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด (Intimacy), และ การมีส่วนร่วมในสังคม (Social Participation) เมื่อทั้ง 6 ข้อนี้ออกมาดีอาจหมายถึงคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย สำหรับ รศ.ดร.นพพล วิทย์วรพงศ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณภาพชีวิตและความสุขเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกัน เมื่อมีคุณภาพชีวิตที่ดีก็ย่อมมีความสุข และความสุขก็เกิดมาจากการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ฉะนั้น ถ้าหากจะดูว่าทุกวันนี้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีหรือยัง เราอาจมองผ่านความสุขได้ ‘ความสุข’ เรื่องที่ฟังดูธรรมดา เกิดขึ้นได้ง่ายและยากสลับกันไป ขึ้นอยู่ว่าแต่ละคนมองความสุขของตัวเองว่าเป็นแบบไหน ถ้าเป็นไปได้แม้แต่เราเองก็อยากมีความสุขไปทุกช่วงเวลาตั้งแต่เกิดจนตาย แต่เงื่อนไขในชีวิตบางอย่างอาจจะทำให้เราไม่ได้เข้าถึงความสุขได้ง่ายขนาดนั้น ยิ่งในวัยที่เปลี่ยนไป ความสามารถที่จะเข้าถึงสุขอาจไม่ได้มีเท่าสมัยก่อน สมมติถ้าความสุขเมื่อครั้งยังหนุ่มคือการได้เล่นกีฬา สังสรรค์กับเพื่อน ออกไปดูหนังรอบดึก แต่ในวัย 80 ที่ร่างกายเปลี่ยนไปตามเวลา แม้จะเป็นความสุขเดียวกับวัยหนุ่มแต่เราไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตได้เต็มที่อีกแล้ว แล้วเราจะเตรียมตัวอะไรได้บ้างเพื่อให้ตัวเองมีความสุขไม่ต่างจากวัยหนุ่มอีกครั้ง จะดีกว่าไหมถ้าเราเตรียมตัวเพื่อเป็นผู้สูงวัยที่มีความสุขไว้ตั้งแต่ในวันที่ร่างกายยังไหว วันนี้ รศ.ดร. นพพล วิทย์วรพงศ์ ขอเป็นคนแชร์เรื่องราวจากงานวิจัยความสุขของผู้สูงวัยในไทย ที่จะทำให้เรารู้ว่า การเป็นผู้สูงวัยไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่เราเข้าใจ พร้อมกับสะท้อนให้เห็นสถานการณ์ของผู้สูงวัยในปัจจุบัน ทำไมถึงเลือกศึกษาความสุขของผู้สูงอายุ เวลาพูดเรื่องความสุข คนมักไม่ได้มองว่าสำคัญมากในบริบทสังคมไทย เพราะมันมีเรื่องที่ต้องคิดก่อนเรื่องความสุขเยอะ มีคนตั้งคำถามว่า ประเทศไทยในตอนนี้จำเป็นต้องคิดเรื่องความสุขของประชาชนเลยหรือไม่ เพราะหลายคนปากท้องยังไม่ดีอยู่เลย แต่เราคิดว่า มันสามารถดูทุกอย่างไปพร้อมกันได้ ทั้งคุณภาพชีวิตและศึกษาความสุขไปได้ด้วย เพราะในการศึกษาความสุขของประชากร มันก็สะท้อนให้เห็นหลายเรื่อง เช่น ปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดความสุขบ้าง มันสัมพันธ์กับการมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ด้วย เราสามารถนำปัจจัยที่ศึกษามานำเสนอ อาจจะช่วยการคิดนโยบายของรัฐบาล หรือคำแนะนำสำหรับคนทั่วไปเพื่อเตรียมตัว แล้วความสุขของผู้สูงวัยในประเทศไทยคืออะไร ขอตอบเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความสุข มันมีองค์ประกอบ 3 อย่าง หนึ่ง – สุขภาพ ผู้สูงวัยก็มีความสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ ลุกเดินได้อย่างสะดวก เมื่อสุขภาพดีก็จะสามารถทำให้มีความสุขได้ ซึ่งสุขภาพแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ Physical health สุขภาพทางกาย หมายถึง การที่เรามันไม่มีโรค หรือมีโรคแต่เราจัดการกับมันได้ และ Functional health สุขภาพขั้นพื้นฐาน คือ ความสามารถในการดูแลตัวเอง การเคลื่อนไหว เช่น หยิบจับของเองได้ สอง – ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเงิน เพราะว่าไม่มีเงิน ก็ยากที่จะมีความสุข และสาม – การมีส่วนร่วมกับสังคม เช่น การมีเพื่อน ได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอก ปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงอายุมีความสุข เหมือน หรือแตกต่างจากวัยอื่นๆ ไหม ปกติมีความคล้ายคลึงกัน ปัจจัยการเกิดความสุขในแต่ละวัย แต่ภาวะของผู้สูงอายุต่างจากคนวัยอื่นๆ เพราะว่าผู้สูงอายุอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างเปราะบาง บางคนไม่มีแรงที่จะทํางานได้แล้ว ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องเงิน หรือไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก การเข้าร่วมสังคมก็อาจมีปัญหา เรามองว่าสิ่งที่ทำให้แตกต่างกันระหว่างวัย คือ ความสามารถในการได้มาซึ่งปัจจัยนั้น เช่น ผู้สูงอายุก็อาจจะมีความต้องการในเรื่องของจิตใจ การดูแลจิตใจที่มันมากขึ้นกว่าคนวัยทํางาน เพราะว่าผู้สูงอายุมีโอกาสเกิดภาวะที่เหงามากกว่าคนวัยทํางาน ผู้สูงอายุ 1 ใน 10 คน มีภาวะความเหงา และความเหงาเป็นแหล่งเกิดความทุกข์ได้ ที่สำคัญเลย ความเปราะบางอันนี้สะท้อนให้เห็นว่าความสุขผู้สูงอายุมีความสําคัญ เพราะความสุขผู้สูงอายุในปัจจุบัน ที่จริงแล้วมันสะท้อนถึงความสุขของคนในวัยทํางานในปัจจุบันด้วยนะ เพราะคนวัยทํางานในปัจจุบันก็คือผู้สูงอายุในอนาคตอยู่ดี ‘สำหรับคนสูงวัย แค่มีลูกหลานอยู่พร้อมหน้าก็สุขใจแล้ว’ อาจารย์คิดเห็นอย่างไรกับประโยคนี้ จากการศึกษาเราพบว่า การมีลูกทําให้ทั้งสุขภาพ เงิน และการมีส่วนร่วมในสังคมเพิ่มขึ้นได้ แปลว่าผู้สูงอายุที่มีลูก มีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพดีกว่า มีเงินมากกว่า และมีส่วนร่วมในสังคมมากกว่าคนที่ไม่มีลูก เราจะเห็นได้ว่า การมีลูกเป็นเงื่อนไขของการมีความสุขของผู้สูงอายุในประเทศ ณ ปัจจุบัน เพราะว่าลูกส่งผลต่อทุกปัจจัยที่ทําให้เกิดความสุขได้ แต่ความสุขนี้ไม่ได้มาจากตัวผู้สูงอายุเอง การมีลูกดันเป็นเงื่อนไขของความสุข มันก็สะท้อนให้เห็นว่า สังคมไทยผู้สูงอายุเปราะบางมาก เพราะว่าต้องพึ่งพาบุตรหลานอย่างมาก โดยเฉพาะในสภาวะที่สังคมต่อไปคนจะมีลูกน้อยลงเรื่อยๆ หนึ่งในปัจจัยความสุขของผู้สูงวัยไทยมาจากการมีลูก สิ่งนี้กำลังจะบอกอะไรเรา มันมีความไม่แน่นอนค่อนข้างเยอะ เพราะคนอาจจะเลือกไม่มีลูกก็ได้ หรือเรารู้ได้ยังไงว่า การมีลูกมันจะช่วยจริงๆ วันหนึ่งเขาอาจจะช่วยได้ แต่อีกวันเขาอาจจะช่วยไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้น เราเลยอยากให้คนที่กําลังจะเป็นผู้สูงอายุต้องเตรียมตัวเรื่องนี้ เพื่อให้ตัวเองมีความสุขได้เองมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาจากบุตรหลานหรือใคร...
Google Sites
Report abuse
Page details
Page updated
Google Sites
Report abuse