ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแห่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
๑.๑ ภาระงานสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 18 ชั่วโมง 20 นาที/สัปดาห์ ดังนี้
- กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
-รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน 7 ชั่วโมง 30 นาที/สัปดาห์
-รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน 8 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์
-รายวิชาภาษาอังกฤษการเขียนขั้นสูง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
-รายวิชาภาษาอังกฤษเขียนขั้นสูง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
-รายวิชา พม หน้าที่พลเมือง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/7 จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
-รายวิชาชุมนุม Movies and Songs for English ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๖ จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
๑.๒ งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 11 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานตรวจการบ้าน ภาระงาน ตรวจชิ้นงานนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานที่ปรึกษา งานดูแลนักเรียน และงานโฮมรูม จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ และวิจัยในชั้นเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานพัฒนา สื่อ นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ(PLC) จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานพัฒนาผู้เรียนที่ส่งผลลัพธ์ต่อผู้เรียนสอดคล้องกับ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
เป้าหมาย ของสถานศึกษา
๑.๓ งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
การประกันคุณภาพการศึกษา จำนวน 2 ชั่วโมง /สัปดาห์
๑.๔ งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
โรงเรียนคุณธรรม โรงเรียนสุจริต จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานสิ่งแวดล้อม งานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานสวนพฤกษศาสตร์
รวมจำนวนชั่วโมงการปฏิบัติงานตามหัวข้อ 1.1-1.4 จำนวน 35 ชั่วโมง 40 นาทีต่อสัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในบทเรียน เรื่อง Emotional Verbs โดยการใช้เพลง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
ภาษาอังกฤษมีความสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังที่แรนดอฟ (อ้างใน ทองคำ พานจันทร์, 2545: 1)
กล่าวถึงความสำคัญของภาษาอังกฤษว่า ไม่มีภาษาใดที่ใช้ในแวดวงการศึกษา หรือใช้เป็นภาษาต่างประเทศได้มากเกินไปกว่าภาษาอังกฤษ ดังนั้นภาษาอังกฤษจึงเป็นภาษาสากลที่ใช้ติดต่อกันอย่างแพร่หลายในทุกประเทศทั่วโลกแม้แต่ในการประกอบอาชีพ ภาษาอังกฤษก็เป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับชาวต่างชาติและภาษาอังกฤษ
นี้ยังส่งผลต่อความก้าวหน้าในการประกอบอาชีพของแต่ละบุคคลเช่นกัน รวมถึงผู้บริหารด้วย
นอกจากนี้ยังมีผลต่อความก้าวหน้าของผู้เรียนอีกด้วย เนื่องจากความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษของผู้เรียนโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการมีอาชีพที่ดีและสูงขึ้นในอนาคตต้องใช้ความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษมากขึ้น
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นทำให้หลายฝ่ายให้ความสำคัญกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมากขึ้น
สำหรับด้านการสอนภาษาอังกฤษนั้นผู้สอนสามารถสอนโดยใช้ทักษะด้านต่างๆมาประกอบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเรียนได้
ดังนั้นการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้กลวิธีต่างๆจึงถูกพัฒนาขึ้นและนำมาปรับใช้กับผู้เรียนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถนำไปใช้ได้จริง โดยเฉพาะการเรียนการสอนเรื่อง Emotional Verbs ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นเรื่องที่ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ค่อนข้างต่ำกว่าเกณฑ์มาก เพราะเนื้อหาค่อนข้างเยอะ และยากต่อการที่ผู้เรียนจะสามารถจำหรือทำความเข้าใจได้ทั้งหมด และเพลง Emotional Verbs ที่ประพันธ์ขึ้นโดยครูแอ๊ฟ ก็เป็นหนึ่งในกลวิธีที่ถูกพัฒนาหรือสร้างขึ้นเพื่อเป็นวิธีการในการใช้แก้ไขปัญหาด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ซึ่งสามารถกระตุ้นให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ และช่วยสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีทัศนคติเชิงบวกต่อภาษาอังกฤษ และจะสามารถนำผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
พุทธศักราช 2560) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองฉางวิทยา จังหวัดอุทัยธานี
2.2 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ เกมการสอน และสื่อการสอน
2.3 ให้คุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศช่วยกันตรวจสอบเนื้อหาความถูกต้องของแบบฝึกหัด เกมการสอน และสื่อการสอน
2.4 นำแบบฝึกหัดและเทคนิคการสอนที่ได้รับคำแนะนำจากคุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมาปรับปรุงแก้ไข
2.5 นำเทคนิคการสอนไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ในรูปแบบ online หรือ onsite โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบท และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังการเรียน โดยใช้แบบทดสอบ
2.6 ดูผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ทำแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนเพื่อนำผลมาพัฒนา
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนหนองฉางวิทยา จำนวน 30 คน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ปีการศึกษา 2568 โดยมีคะแนน (ร้อยละ 85 ของคะแนนเต็ม) คิดเป็นร้อยละ 90 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดและนักเรียนทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มากขึ้น
3.2 เชิงคุณภาพ
3.2.1. ได้นวัตกรรมที่ใช้ในการบริหารจัดการชั้นเรียนในสถานการณ์ที่ต้องจัดการเรียนการสอน
แบบออนไลน์และยังสามารถใช้ในการสอนแบบปกติได้อีกด้วย
3.2.2 ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น
และมีเจตคติที่ดีต่อวิชาที่เรียนมากขึ้น
ผู้สอนได้ ริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น
ลงชื่อ........................................................................
(ครูณัฐชานนท์ ทาสะโก)
ตำแหน่ง ครู
ผู้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน
....................../.................../...................
ชื่อ ณัฐชานนท์ นามสกุล ทาสะโก
ตำแหน่ง ครู
วิทยะฐานะ ชำนาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนหนองฉางวิทยา
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท
รับเงินเดือนในอันดับ คศ.2
อัตราเงินเดือน 31,960 บาท
ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน