เมื่อวันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567 ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ โรงเรียนนิวิฐราษฎร์อุปถัมภ์ ตำบลสนามแย้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
ดร.โกสิฐ นันทินบัณฑิต ผู้อำนวยการสถานศึกษา พร้อมด้วยนางสาวชลธิชา ร่มโพธิ์รี รองผู้อำนวยการสถานศึกษา คณะครู บุคลากรทางการศึกษา ได้ให้การต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากโรงเรียนโนนสุวรรณพิทยาคม นายสิรวิชญ์ สิทธินอก ผู้อำนวยการโรงเรียนโนนสุวรรณพิทยาคม นางภัทรวี ศิลเสมอ รองผู้อำนวยการโรงเรียน นายสุรศักดิ์ ศรีผดุง รองผู้อำนวยการโรงเรียน และคณะครู บุคลากรทางการศึกษา
ทั้งนี้โรงเรียนได้นำเสนอผลการดำเนินงานการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เป็น “การศึกษาขั้นพื้นฐานวิถีใหม่ วิถีคุณภาพ” ต่อคณะที่เข้าศึกษาดูงานสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำเสนอผลการดำเนินงานในเรื่อง “การจัดการศึกษาเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็กกลุ่มเสี่ยง ตกหล่น และออกกลางคัน 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ” บนพื้นฐานของความเท่าเทียม และความเสมอภาค ขับเคลื่อนการดำเนิน งานโดยใช้วัตกรรม และ Best Practice ในการบริหารจัดการสถานศึกษาสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนเสมอมา สามารถเป็นแบบอย่างได้ และเป็นแหล่งเรียนรู้ในการศึกษาดูงานให้กับทุกภาคส่วนที่มีความสนใจในเรื่องการจัดการศึกษาเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ
เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2567 ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ โรงเรียนนิวิฐราษฎร์อุปถัมภ์ ตำบลสนามแย้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
ดร.โกสิฐ นันทินบัณฑิต ผู้อำนวยการสถานศึกษา นางสาวชลธิชา ร่มโพธิ์รี รองผู้อำนวยการสถานศึกษา พร้อมด้วยคณะครู บุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนนิวิฐ-ราษฎร์อุปถัมภ์ ได้ต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากโรงเรียนศรีสวัสดิ์พิทยาคม นำโดย ท่าน ผอ.สุรินทร์ เกษร์สุวรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยคณะครู ในเรื่องการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรการศึกษานอกระบบให้กับนักเรียนที่มีปัญหาในการเรียนการสอน สู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการนำความรู้และกระบวนการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรการศึกษานอกระบบนำมาประยุกต์และปรับใช้ในสถานศึกษาได้
คณะศึกษาดูงาน โรงเรียนเนกขัมวิทยา สพม.ราชบุรี
“ถ้าการศึกษามีแค่ทางเลือกเดียว โอกาสของผมคงหมดไปแล้ว” ชวนแกะรอยเส้นทางกลับสู่การเรียนรู้ กับ โมเดลการศึกษา ‘1 โรงเรียน 3 รูปแบบ
โรงเรียนนิวิฐราษฎร์อุปถัมภ์ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี หนึ่งในโรงเรียนแกนนำ ‘การศึกษาที่มีทางเลือก’ ซึ่งทำให้เด็กเยาวชนที่ตกหล่น ออกกลางคัน และมีความเสี่ยงที่จะหลุดจากระบบการศึกษา สามารถมีโอกาสกลับสู่การเรียนรู้ที่เหมาะสม มีคุณภาพ สอดรับกับสถานการณ์และบริบทชีวิต ทั้งยังเป็นการศึกษาที่มีเป้าหมายตอบโจทย์ชีวิต
กรณีศึกษาของเยาวชนอายุ 16 ปี ที่หลุดจากระบบไปหลังจบชั้น ม.1 แล้วออกไปทำงานกว่า 3 ปี แต่ถึงวันหนึ่งเมื่อน้องอยากกลับมาเรียน ด้วยเป้าหมายเพื่อนำวุฒิการศึกษาไปใช้ต่อยอดผลักดันสู่ความก้าวหน้าในชีวิต ประตูโรงเรียนก็ยังเปิดกว้างพร้อมรองรับอยู่เสมอ
เพราะ “จังหวะชีวิตของคนแต่ละคนนั้นต่างกัน บางคนถนัดเรียนในห้องเรียน บางคนต้องไปเรียนเอาจากข้างนอก แต่สุดท้ายแล้ววุฒิการศึกษาก็ยังจำเป็นมาก ๆ ซึ่งถ้าการศึกษามีแค่ทางเดียวคือต้องเข้าห้องเรียนทุกวัน โอกาสสำหรับผมก็คงหมดไปแล้ว”
สถานศึกษาต้องมีหน้าที่หล่อเลี้ยงแรงบันดาลใจ ทำให้นักเรียนทุกคนเห็นว่าทางเลือกของการศึกษาไม่ได้มีแค่ทางเดียว แต่ยังมีพื้นที่อีกมากมายที่พร้อมให้โอกาส...เพราะสำหรับคนคนหนึ่งแล้ว ถ้าถึงวันที่เขาต้องการโอกาส แต่หันไปทางไหนก็มืดไปหมด ในฐานะผู้บริหารสถานศึกษาคนหนึ่ง เรารู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย”
.
ด้วยแนวคิดนี้ โรงเรียนนิวิฐราษฎร์อุปถัมภ์ ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะครูในโรงเรียน จึงได้ร่วมกันผลักดัน นวัตกรรม "1 โรงเรียน 3 ระบบ ขึ้น
.
‘1 โรงเรียน 3 ระบบ’ คือ การสร้างพื้นที่ที่เด็กในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย เรียนร่วมกัน เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและลดอัตราการออกกลางคัน โดยการจัดการเรียนการสอนมีความคล้ายกับการเรียนแบบโฮมสกูล
มีกลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กตกหล่น ออกกลางคัน และกลุ่มเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา
ตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 15 ระบุไว้ว่า “การศึกษานอกระบบ เป็นการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของการสำเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคลแต่ละกลุ่ม”
.
ข้อความนี้เอง…ที่นำมาสู่ความตั้งใจทลายกรอบเพื่อสร้างโอกาสสำหรับเด็กทุกคน โดยมีจุดเน้นที่การพัฒนาให้เด็กเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ สร้างการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาจากครู บุคลากร และชุมชน กลายเป็นระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก
อ่านเรื่องราวนวัตกรรม ‘1 โรงเรียน 3 ระบบ’ แบบเจาะลึกได้ที่ https://www.eef.or.th/article-290923/
พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ว หนังสือ "การศึกษาที่ทุกคนมีทางเลือกและตอบโจทย์ชีวิต"
ลิงก์อีบุ๊ก www.eef.or.th/publication-72356/