กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ขอส่งสำเนาหนังสือคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน ด่วนที่สุด ที่ กค (กอร) 1405.5/ว 502 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 มาเพื่อทราบและแจ้งสถานศึกษาที่อยู่ในความควบคุม ดูแล และสถานศึกษาในสังกัด (ถ้ามี) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบและถือปฏิบัติต่อไป
"คณะกรรมาธิการ"
คณะบุคคลที่สภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาแต่งตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่พิจารณา สอบสวน หรือศึกษาเรื่องต่างๆ ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภา และรายงานผลการศึกษาหรือการดำเนินการต่อสภานั้นๆ เปรียบเสมือนคณะทำงานของสภาที่ช่วยแบ่งเบาภาระในการพิจารณาเรื่องต่างๆ ที่มีความซับซ้อน
"บันทึกความเข้าใจ"
ว่าด้วยความร่วมมือการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และบันทึกความเข้าใจการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้สร้างสรรค์ เพื่อเด็ก เยาวชน และครอบครัว
ปัจจุบันมีผู้จำหน่าย และเสพบุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลายเป็นจำนวนมาก ซึ่งการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นการเสพ การนำเข้า หรือมีไว้เพื่อขายมีความผิดตามกฎหมาย ดังนี้.
1. ผู้นำเข้า : มีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และประกาศกระทรวงพาณิชย์
โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 5 เท่า ของมูลค่าสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ผู้ขาย - ผู้ให้บริการ : มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค
โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. ผู้ครอบครอง : มีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร
โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของมูลค่าสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ.
โดยผู้ที่เสพบุหรี่ไฟฟ้าอาจมีความผิดในข้อหาช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังไม่ได้ผ่านพิธีศุลกากรโดยถูกต้องตาม ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ม. 246 วรรคหนึ่ง
ทั้งนี้ หากพบเห็นการลักลอบผลิต ขายบุหรี่/น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งได้ที่
สถานีตำรวจในท้องที่, สายด่วน สคบ. 1166, เว็บไซต์ www.ocpb.go.th, แอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัด
ที่มา : ตำรวจสอบสวนกลาง
1. สร้างความตระหนักรู้เท่าทันพิษภัยและโทษของบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งต่อสุขภาพร่างกายและโทษทางอาญาให้แก่นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารทุกระดับ และเจ้าหน้าที่ อาทิ สอดแทรกเนื้อหาหรือหลักสูตรการเรียนการสอน กิจกรรม สื่อประซาสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ
2. ให้ผู้รับผิดชอบสถานศึกษาหรือสถานที่ทำงาน จัดให้มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นได้โดยชัดเจนว่าเป็นเขตปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า
3. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น สอดส่อง ดูแล หรือป้องกันมิให้นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ เข้าไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งการสูบ จำหน่าย มีไว้ในครอบครอง หรือสนับสนุนอย่างหนึ่งอย่างใด
4. หากมีกรณีตรวจพบ หรือมีการร้องเรียนกล่าวหา หรือกรณีเป็นที่สงสัยว่าข้าราชการ ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ใดเช้าไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยตามอำนาจหน้าที่ทันที
"กระทรวงศึกษาธิการ ขอกำชับให้หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดและองค์กรในกำกับกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ถือปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด"
พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ