กิจกรรมตามนโยบาย
กิจกรรมตามนโยบาย
โครงการสถานศึกษาปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้าและปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 7 มาตรการ
ในการดำเนินงานปีการศึกษา พ.ศ. 2565 กศน.อำเภอโคกสำโรง มีการจัดทำ โครงการสถานศึกษาปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า และปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 7 มาตรการ โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน โดยประกอบด้วยกรรมการฝ่ายอำนวยการ และกรรมการดำเนินงานโครงการฯ ในการขับเคลื่อนกิจกรรมสถานศึกษาปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า และปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สถานศึกษาดำเนินการดังนี้
1. การกำหนดนโยบาย นโยบายสถานศึกษาปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันที่ 4 มีนาคม 2565
2. การบริหารจัดการในสถานศึกษาปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า และปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- มีการแต่งตั้ง คณะกรรมการดำเนินงานโครงการสถานศึกษาปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า และปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 7 มาตรการ
- มีการกำหนดแผนการโครงการสถานศึกษาปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า และปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 7 มาตรการ
โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็น บุคลากร กศน.อำเภอโคกสำโรง นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่
3. การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อ สถานศึกษาปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า และปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ติดป้ายประชาสัมพันธ์ สถานศึกษาปลอดบุหรี่/และปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีสภาพแวดล้อม โล่งไม่มีมุมอับ
4. การสอดแทรกเรื่องบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
5. มีกิจกรรมรณรงค์ สถานศึกษาปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า และปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สถานศึกษาปลอดภัย
ภารกิจร่วมกับภาคีเครือข่าย กิจกรรมสถานศึกษาปลอดภัย กองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
มีบอร์ดหรือนิทรรศการเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ในสถานศึกษาที่ชัดเจน
[ + ] มีการจัดบอร์ดหรือการจัดนิทรรศการเพื่อเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีหลักฐาน เอกสาร ภาพถ่าย หรือข้อมูลที่ชัดเจน โดยมีรายละเอียดหรือเนื้อหาที่แสดงเกี่ยวกับพระบรมฉายาลักษณ์ พระฉายาลักษณ์ พระราชประวัติ พระราชดำริ พระราชดำรัส พระราชกรณียกิจ พระราชกิจ พระราโชวาท ฯลฯ
มีการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมเกี่ยวกับค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ในสถานศึกษาที่ชัดเจน
[ + ] มีการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมเกี่ยวกับค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ในสถานที่ศึกษา ซึ่งมีเอกสาร เอกสาร ภาพถ่าย ข้อมูลที่เห็นได้ชัดเจน โดยมีการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดบอร์ด การจัดนิทรรสการ การจัดเสียงตามสาย ฯลฯ สอดคล้องกับด้านความปลอดภัย ยกตัวอย่างเช่น ข้อ 8 มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย เช่น ปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียน การสร้างวินัย เคารพกฎหมายจราจร เป็นต้น
มีนโยบายความปลอดภัยในสถานศึกษาเป็นลายลักษณ์อักษร และมีการประกาศนโยบายให้เห็นได้ชัดเจน
มีแผนงานและงบประมาณ ดำเนินการด้านความปลอดภัยในสถานศึกษาที่ชัดเจน
มีบุคลากรผู้ดูแลรับผิดชอบ ด้านความปลอดภัยในสถานศึกษาที่ชัดเจน
มีคณะทำงานหรือคณะกรรมการความปลอดภัยของสถานศึกษาที่ชัดเจน
มีกฎระเบียบหรือคู่มือ/แนวทางว่าด้วยความปลอดภัยในสถานศึกษาที่เหมาะสม
บุคลากรทุกระดับ เช่น อาจารย์ ผู้บริหาร ลูกจ้าง ได้รับการอบรมให้มีความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในสถานศึกษา ตามแผนงานที่กำหนด
|||--------------------------------------------------------|||--------------------------------------------------------|||--------------------------------------------------------|||
เจตนารมณ์การขับเคลื่อนประเทศไทยที่ยั่งยืน
ด้วย จังหวัดลพบุรี ได้ประกาศเจตนารมณ์การขับเคลื่อนประเทศไทยที่ยั่งยืนร่วมกับองค์การสหประชาชาติ (UN) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565 เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการฟื้นฟูและการอนุรักษ์ทรัพยากรดิน เดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2566 เดือนแห่งการสร้างความตระหนักรู้
สกร.อำเภอโคกสำโรง จึง ร่วมกิจกรรมในการสร้างความตระหนักรู้นการฟื้นฟูและการอนุรักษ์ทรัพยากรดิน โดย ดำเนินกิจกรรมให้ความรู้ สร้างสื่อ และกิจกรรมรณรงค์ในด้านต่าง ๆ ผ่านการดำเนินงานในกลุ่มเป้าหมายทั้ง นักศึกษา และประชาชนผู้รับบริการ
วันดินโลก 5 ธันวาคม
"วันดินโลก (World Soil Day)" คือ วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันสำคัญที่นักปฐพีวิทยาทั่วโลก 60,000 คน จะเฉลิมฉลองเป็นประจำทุกปี ซึ่งนักปฐพีวิทยาของไทยทุกคนภาคภูมิใจ เนื่องจากวงการปฐพีวิทยานานาชาติ มีฉันทานุมัติเลือกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นวันดินโลก และนักปฐพีวิทยาของไทยมีส่วนร่วมในการเชิดชูพระอัจฉริยภาพด้านการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรดินขององค์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
การเกิดขึ้นของ "วันดินโลก (World Soil Day)" มีความเกี่ยวข้องกับกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (International Union of Soil Science : IUSS) องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization : FAO) และองค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) จึงควรบันทึกจุดเริ่มต้นและความเป็นมาของ "วันดินโลก" เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รับทราบอย่างถูกต้อง
แนวความคิดของการจัดตั้งวันดินโลก
เริ่มต้นจากที่มีการประชุมวิทยาศาสตร์ทางดินของโลก ครั้งที่ 17 ณ กรุงเทพมหานคร ในปี 2545 มีนักวิทยาศาสตร์ทางดินจากทั่วโลกมาร่วมประชุม ภายในงานมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรดิน รวมถึงการจัดตั้งโครงการพระราชดำริในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ซึ่งนิทรรศการดังกล่าว ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมประจักษ์ถึงพระวิสัยทัศน์ในการบริหารทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน โดยทรงให้ความสำคัญกับทรัพยากรดิน ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่สนพระราชหฤทัยในวิทยาศาสตร์ทางดิน และผลสำเร็จจากการบริหารจัดการดินอย่างต่อเนื่องของพระองค์ เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นรูปธรรมทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ
ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการหารือเรื่องการจัดตั้ง "วันดินโลก" โดยที่ประชุมคณะกรรมการสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ มีมติให้วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นวันดินโลก เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณของพระองค์ โดยใช้วันนี้เป็นวันรณรงค์ให้ชาวโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดิน ที่มีต่อความอยู่รอดของมวลมนุษยชาติและสภาพแวดล้อม และความจำเป็นต้องมีการจัดการทรัพยากรที่ดินอย่างยั่งยืน
การขอพระบรมราชานุญาต ให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันดินโลก
เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2555 คณะผู้บริหารสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพรบาททูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม แด่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมกราบบังคมทูลเชิญให้ดำรงตำแหน่ง A life membership และยังได้กราบทูลขอพระบรมราชานุญาต ให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันดินโลก
การประกาศรับรองวันดินโลก โดยสหประชาชาติ
องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ประกาศสนับสนุนให้มีการจัดตั้งวันดินโลก โดยนำข้อเสนอเข้าบรรจุในวาระการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ประจำปี 2556 ซึ่งสหประชาชาติได้ประกาศรับรองอย่างเป็นทางการให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันดินโลก และปี 2558 เป็น "ปีดินสากล (International Year of Soils 2015)" ในวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ดังนั้น ในวันที่ 5 ธันวาคม 2557 นอกจากเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แล้วนั้น ยังถือว่าเป็นวันดินโลกอย่างเป็นทางการในระดับสากลครั้งแรกอีกด้วย ประเทศไทย โดยกรมพัฒนาที่ดินจึงมีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่พร้อมกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกโดยประเทศสมาชิกจะร่วมกันพิจารณากำหนดหัวข้อการจัดงานในแต่ละปี จากประเด็นท้าทายเรื่องดินที่สำคัญของโลก หัวข้อหลักวันดินโลกที่ผ่านมา ได้แก่
ปี พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014)
Healthy Soils For a Healthy Life ตามรอยปฐพีใต้ธุลีพระบาท นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม
เน้นความสำคัญของการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินที่นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี
ปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015)
Soils, a Solid Ground for Life ดินคือพื้นฐานอันมั่นคงแห่งชีวิต
เน้นความสำคัญของดินอันเป็นแหล่งกำเนิดของทุกชีวิต และเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์นานาชนิด
ปี พ.ศ. 2559 (ค.ศ. 2016)
Soil and Pulses: a Symbiosis for Life ดินและถั่ว เกื้อกูลชีวิต
เน้นความสำคัญของพืชตระกูลถั่วต่อความอุดมสมบูรณ์ของดินและเป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่สำคัญของมนุษย์
ปี พ.ศ. 2560 (ค.ศ. 2017)
Caring for the Planet Starts from the Ground รักษ์โลก เริ่มจากรักษ์ดิน สู่ความยั่งยืน
เน้นความสำคัญของการดูแลดิน ซึ่งเป็นทรัพยากรหลักที่มีผลต่อความอยู่รอดของทุกสรรพสิ่งบนโลก
ปี พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018)
Be the Solution to Soil Pollution ร่วมคิด ร่วมทำแต่วันนี้ เพื่อปฐพีไร้มลพิษ
เน้นความสำคัญของการร่วมมือกันจากทุกภาคส่วนในการขจัดปัญหามลพิษทางดินที่เกิดจากสภาพตามธรรมชาติและการกระทำของมนุษย์เช่น การใช้สารเคมีทางการเกษตร
ปี พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019)
Stop Soil Erosion, Save our Future ปกป้องอนาคต ลดการชะล้างดิน
โดยให้ความสำคัญต่อการหยุดยั้งปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน ที่เป็นสาเหตุหลักของดินเสื่อมโทรมและเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางอาหาร โดยเน้นการอนุรักษ์หน้าดินซึ่งเป็นส่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด ไม่ให้ถูกพัดพาไปตามอิทธิพลของลมและฝน ซึ่งกว่าจะฟื้นฟูดินให้กลับมาคงความอุดมสมบูรณ์ได้ดังเดิมต้องใช้เวลานับพันปี ทำให้ไม่สามารถรองรับความต้องการอาหาร จากอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรโลก และการสูญเสียผลผลิตทางการเกษตรจากภัยพิบัติต่าง ๆ ได้ทันการณ์ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนอาหารในอนาคต
ปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020)
Keep soil alive, protect soil biodiversity รักษ์ปฐพีคืนชีวีที่หลากหลายให้ผืนดิน
เน้นความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพในดินที่ประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในดิน ซึ่งสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะทำหน้าที่ต่างกันในกระบวนการย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ก่อให้เกิดระบบนิเวศที่สมบูรณ์ที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับการดำรงอยู่ของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
ปี พ.ศ.2564 (ค.ศ.2021)
Halt soil salinization, boost soil productivity : พิชิตดินเค็ม เติมเต็มผลผลิต สร้างชีวิตเกษตรกร
เน้นความสำคัญของปัญหาดินเค็ม ผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืช และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งด้านคุณภาพน้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพของดิน มีการพังทลายของดินเนื่องจากเกิดความเสื่อมโทรมของโครงสร้างดิน เกิดความไม่สมดุลของธาตุอาหารในดินที่ปลดปล่อยประจุที่เป็นพิษต่อพืชและอาจทำให้โครงสร้างของดินเสื่อมโทรม รวมทั้งทำลายการให้บริการของระบบนิเวศ ซึ่งมีความสำคัญต่อการสนับสนุนชีวิตมนุษย์และความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งปัญหาดินเค็มเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดในระดับโลกสำหรับการผลิตทางการเกษตร ความมั่นคงด้านอาหาร
พระราชกรณียกิจด้านดิน
ทรงตระหนักถึงความเสื่อมโทรมของดิน ที่เกิดจากสาเหตุธรรมชาติ เช่น บางแห่งเป็นดินเปรี้ยวจัด ดินเค็ม หรือบางแห่งไม่มีดินเลย จึงทรงเรียกดินเหล่านี้ว่า "ดินแร้นแค้น" พระราชดำริเกี่ยวกับการแก้ปัญหา ฟื้นฟู อนุรักษ์ดินของพระองค์นั้น มีลักษณะเป็นธรรมชาติและเรียบง่าย ในทางปฏิบัติ เฉียบคมเหมาะเจาะ และชาวบ้านทั่วไปสามารถนำไปปฏิบัติได้ โดยมีหลักการที่สำคัญ คือ ทรงเน้นการพัฒนาที่สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในการพึ่งตนเอง ทรงใช้คำว่า "ระเบิดจากข้างใน" คือทำให้ชุมชนเข้มแข็งก่อนจึงค่อยออกสู่สังคมภายนอก มิใช่การนำความเจริญรุ่งเรืองจากภายนอกเข้าไปสู่ชุมชนที่ยัง ไม่มีโอกาสเตรียมตัวหรือตั้งรับ ขั้นตอนต่อไป คือ พัฒนาให้ประชาชนอยู่ในสังคมได้ตามสภาพและสามารถ "พึ่งตนเองได้" ในที่สุด
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องมี "ตัวอย่างของความสำเร็จ" เพื่อให้ประชาชนเข้ามาศึกษาตัวอย่างของจริง และนำกลับไปปฏิบัติได้เอง จึงทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ" ขึ้นในทุกภูมิภาคของประเทศ จำนวน 6 ศูนย์ เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มีปัญหาเกี่ยวกับดินเสื่อมโทรมและเป็นดินทราย ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส มีปัญหาดินเปรี้ยวจัด ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร ที่ประสบปัญหาดินเค็มและดินเสื่อมโทรม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เกี่ยวกับการเกษตรมากกว่า 4,000 โครงการ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาและปรับปรุงดินแทบทั้งสิ้น
รางวัลสดุดีพระเกียรติคุณ
รางวัล "นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม" (Humanitarian Soil Scientist Award)
เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2555 ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สตีเฟน นอร์ตคลิฟฟ์ กรรมการบริหารและอดีตเลขาธิการ สหภาพวิทยาศสาตร์ทางดินนานาชาติ (IUSS) พร้อมคณะผู้บริหาร เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล "นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม (Humanitarian Soil Scientist Award)" เป็นพระองค์แรกของโลก
รางวัล "International Merit Award" และรางวัล "รากหญ้าแฝกชุบสำริด"
เมื่อปี พ.ศ. 2536 สมาคมควบคุมการชะล้างพังทลายนานาชาติ (IECA) ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล "International Merit Award" สดุดีพระเกียรติคุณในฐานะที่ทรงเป็นนักอนุรักษ์ดินและสภาพแวดล้อม และรางวัล "รากหญ้าแฝกชุบสำริด" จากธนาคารโลก
เหรียญเทเลฟูด (Telefood Award)
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2542 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ทูลเกล้าฯ ถวาย "เหรียญเทเลฟูด" เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณ ในฐานะที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้านพัฒนาการเกษตรของประเทศไทย เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกร และสร้างความมั่นคงด้านอาหาร
รางวัลวันดินโลก
สืบเนื่องจากพระราชกรณียกิจด้านการจัดการทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จนเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก เป็นที่มาของการได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเหรียญรางวัล นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรมเป็นพระองค์แรกและพระองค์เดียวของโลก และการประกาศให้วันที่ ๕ ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ เป็นวันดินโลก เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อถวายราชสดุดีพระเกียรติคุณ ประเทศไทย ร่วมกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ได้จัดตั้งรางวัลวันดินโลก World Soil Day Award ขึ้น โดยหวังให้เกิดการกระตุ้นให้ทั่วโลกมีกิจกรรมด้านการจัดการดินอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงทางอาหาร และการขจัดความอดอยากหิวโหย ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ผ่านทางการจัดกิจกรรมเนื่องในวันดินโลกของทุกปี
ประเทศไทย ร่วมกับ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations) ได้ก่อตั้งรางวัลดินโลก เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสืบสานพระราชปณิธานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาทรัพยากรดินให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำการเกษตรเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร (Food Security) และการขจัดความหิวโหย (Zero Hunger) ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals; SDGs) โดยการมอบรางวัลวันดินโลกจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันดินโลกและเป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยเริ่มมอบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2561
ความสำคัญของวันดินโลก
เป็นวาระสำคัญในการสื่อสารเรื่องราวของทรัพยากรดินให้เป็นที่รับทราบในวงกว้าง ไม่จำกัดอยู่เพียงแต่กลุ่มของนักวิชาการหรือเกษตรกรเท่านั้น
วันดินโลก เป็นช่องทางรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันรักษาทรัพยากรดินให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
การจัดกิจกรรมวันดินโลก
ระดับนานาชาติ
วันดินโลกมีการฉลองอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี 2557 โดยสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จฯ แทนพระองค์อัญเชิญพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปพระราชทานในการเฉลิมฉลองวันดินโลกครั้งแรกที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก
ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติกว่า 100 ประเทศ พร้อมกันจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดินในวันดินโลก ๕ ธันวาคม
งานวันดินโลกในประเทศไทย
เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อปี 2555 ชื่อ “งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรมและวันดินโลก 5 ธันวาคม” ณ พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เป็นการจัดงานก่อนการเสนอวันดินโลกต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อเทิดพระเกียรติที่ได้ทรงรับการทูลเกล้าถวายรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม โดยในงานดังกล่าว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน
กรมพัฒนาที่ดินจัดงานวันดินโลก ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ พระราชทานพระราชดำรัสเปิดงาน ในปี 2562 ปี 2564