ปูทะเล
ปูทะเล
เป็นปูในสกุล Scylla ในวงศ์ปูว่ายน้ำ (Portunidae) อาศัยอยู่ในทะเล มี 4 ชนิด ดังนี้
ปูดำ, ปูแดง, ปูทองแดง
ปูขาว,ปูทองหลาง
ปูเขียว, ปูทองโหลง
ปูม่วง
มีลักษณะกระดองกลมรีเป็นรูปไข่ สีดำปนแดงหรือสีน้ำตาลเข้ม ขอบระหว่างนัยน์ตามีหนาม 4 อัน ส่วนด้านข้างนัยน์ตาแต่ละข้างมีหนามข้างละ 8-9 อัน ก้ามจะมีหนามแหลม ส่วนขาอื่น ๆ ไม่มีหนาม ตัวผู้จะมีก้ามขนาดใหญ่แข็งแรงกว่าตัวเมียอย่างเห็นได้ชัด เจริญเติบโตด้วยวิธีการลอกคราบ โดยตรงขอบหลังของกระดองจะเผยออกให้เห็นกระดองใหม่ยังเป็นเนื้อเยื่อบาง ๆ ซึ่งเรียกว่า ปูสองกระดอง ถ้าหากเป็นตัวเมียที่มีความสมบูรณ์เพศจะมีไข่อยู่ในกระดอง ซึ่งพบมากในเดือนพฤศจิกายน ปลายสุดของขาคู่ที่ 2-4 มีลักษณะแหลมเรียกว่า "ขาเดิน" ทำหน้าที่ในการเดินเคลื่อนที่ ส่วนขาคู่ที่ 5 เป็นคู่สุดท้ายเรียกว่า "ขาว่ายน้ำ"ตอนปลายสุดของขาคู่นี้มีลักษณะแบนคล้ายใบพาย ใช้สำหรับว่ายน้ำการขยายพันธุ์
ฤดูกาลวางไข่ผสมพันธุ์ของปูทะเลอยู่ในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม แม่ปูจะมีไข่ในระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม สามารถ วางไข่ได้ตลอดทั้งปี โดยจะวางไข่ชุกชุมในระหว่างเดือนสิงหาคม-ธันวาคม ไข่ของปูทะเลจะมีสีส้มแดง เมื่อไข่แก่ขึ้นจะเป็นสีน้ำตาลเกือบดำ ซึ่งจะถูกปล่อยออกมานอกกระดองบริเวณใต้จับปิ้ง
ปูที่เกิดใหม่จะอยู่ในระยะซูเอี้ย ดำรงชีวิตเป็นแพลงก์ตอน ล่องลอยตามมวลน้ำ หลังผ่านการลอกคราบ 5 ครั้ง จึงพัฒนาเข้าสู่ระยะเมกาโลปายังคงดำรงชีวิตเป็นแพลงก์ตอน เมื่อเมกาโลปาลอกคราบจึงลงสู่พื้นท้องน้ำดำรงชีวิตเป็นสัตว์หน้าดิน การเจริญเติบโตจนถึงวัยเจริญพันธุ์ใช้เวลาประมาณ 1.5 ปี ตัวผู้ขนาดโตเต็มที่อาจหนักได้ถึง 3.5 กิโลกรัม ขนาดกระดองกว้างกว่า 24 เซนติเมตร
การกระจายพันธุ์และความสำคัญต่อมนุษย์
พบกระจายพันธุ์อยู่ตามแถบชายฝั่งของแอฟริกา, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนถึงออสเตรเลีย โดยอาศัยอยู่ในโคลนตมตามป่าชายเลนหรือปากแม่น้ำที่น้ำท่วมถึง กินอาหารจำพวกสัตว์น้ำขนาดเล็ก ซากพืช ซากสัตว์ต่าง ๆ สำหรับในประเทศไทยพบได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน
ปูทะเลนั้นมีความสำคัญต่อมนุษย์ในฐานะของสัตว์เศรษฐกิจที่นิยมนำมาปรุงสดเป็นอาหาร เช่น ปูผัดผงกะหรี่, ปูนึ่ง เป็นต้น โดยทางการ ได้แก่ กรมประมง สนับสนุนให้เกษตรกรเพาะเลี้ยง โดยมักจะเลี้ยงในกระชังใกล้กับทะเล เช่น ในพื้นที่เขตบางขุนเทียน ของกรุงเทพมหานคร ถึงขนาดจัดเป็นเทศกาลท่องเที่ยวโดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ปูทะเลเป็นที่นิยมรับประทานอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเวลาที่กำลังลอกคราบเพราะเนื้อปูจะนิ่ม กระดองยังไม่แข็งเท่าไหร่ ซึ่งเรียกว่า "ปูนิ่ม"
ที่ประเทศจีนมีตู้อัตโนมัติหยอดเหรียญจำหน่ายปูทะเลด้วย โดยจำหน่ายใส่กล่องพลาสติกกล่องละตัว และในประเทศญี่ปุ่นมีการดัดแปลงให้เป็นลักษณะตู้คล้ายตู้คีบตุ๊กตา
ปูเสฉวน
ปูเสฉวน เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ในไฟลัมอาร์โธรพอด ในไฟลัมย่อยครัสเตเชียนในอันดับฐานปูปลอม (Anomura) ในวงศ์ใหญ่ Paguroidea ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นวงศ์ต่าง ๆ ได้อีก 7 วงศ์ (ดูในตาราง)
โดยรวมแล้ว ปูเสฉวนเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก ประมาณ 1-6 เซนติเมตร มีขาทั้งหมด 10 ขา ไม่มีเปลือกแข็งแบบปูหรือกุ้ง จึงต้องอาศัยในเปลือกหอยเปล่า โผล่เฉพาะหัวและขา 2 คู่ออกจากเปลือก ส่วนขาอีก 2 คู่ใช้ยึดกับเปลือกหอย กินซากพืช ซากสัตว์เป็นอาหาร มักอาศัยอยู่ตามหาดทรายชายทะเล บางชนิดอาจอาศัยอยู่ในน้ำลึก มีประมาณ 1,100 ชนิด บางสกุลอาศัยอยู่แต่เฉพาะบนบก ได้แก่ Coenobita
ปูเสฉวนมีพฤติกรรมการขยายพันธุ์ ด้วยการที่ตัวผู้จะต่อสู้กันด้วยก้ามเพื่อแย่งชิงตัวเมีย เหมือนกุ้ง หรือปูทั่วไป เมื่อตัวผู้ที่ชนะแล้วจะจับตัวเมียไว้ เมื่อตัวเมียลอกคราบ ตัวผู้จะปล่อยน้ำเชื้อเข้าผสมบริเวณขาว่ายส่วนท้อง เกิดเมื่อการปฏิสนธิแล้ว ตัวเมียจะปล่อยไข่ไปในทะเลเพื่อปล่อยไข่ให้ล่องลอยไปในทะเล ซึ่งลูกขนาดเล็กจะยังมีลักษณะไม่เหมือนตัวเต็มวัย จะต้องลอกคราบและมีพัฒนาการต่อไปเรื่อย ๆ ในปูเสฉวนบกก็มีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน แต่กระทำกันบกบก และตัวเมียจะลงไปปล่อยในทะเล ก่อนที่ลูกเมื่อแรกเกิดจะกลับมาเติบโตและใช้ชีวิตอยู่บนบก
ลักษณะทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนตัว, อก และท้อง ส่วนหัวและอกยุบรวมกัน มีกระดองหุ้มอยู่ตอนบน ทางด้านข้างทั้งสองของกระดองจะเป็นรอยหยักคล้ายฟันเลื่อยเป็นหนามแหลมข้างละ 9 อัน มีขาเดิน 5 คู่ คู่แรกเปลี่ยนแปลงไปเป็นก้ามใหญ่เพื่อใช้ป้องกันตัวและจับอาหาร ขาคู่ที่ 2, 3 และ 4 จะมีขนาดเล็กปลายแหลมใช้เป็นขาเดิน ขาคู่สุดท้ายตอนปลายมีลักษณะเป็นใบพายใช้ในการว่ายน้ำ ขนาดกระดองสามารถโตเต็มที่ได้ราว 15–20 เซนติเมตร
ปูอลาสก้า
ปูอลาสก้า คือ ปูทะเลขนาดใหญ่ ที่อาศัยอยู่ในทะเลแถบขั้วโลกเหนือ ท่ามกลางสายน้ำที่เย็นยะเยือกลึกถึง 1,500 เมตร ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าอาศัยอยู่ในรัฐอะแลสกา ของสหรัฐอเมริกา เพียงอย่างเดียว แต่จริงๆแล้วยังรวมไปถึง พื้นที่ของขั้วโลกเหนือเกือบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น กรีนแลนด์ นอร์เวย์ รัสเซีย แคนาดา ไอซ์แลนด์ สวีเดน และ ฟินแลนด์ โดยสาเหตุที่ต้องเรียกว่าปูอลาสก้า เพราะอลาสก้านับว่าเป็นท่าเทียบเรือจับสัตว์น้ำต่างๆ เช่น ปู ปลา เพื่อส่งออกไปทั่วโลก
สายพันธุ์ของปูอลาสก้า จะแบ่งออกเป็น 3 สายพันธุ์หลักๆ ได้แก่
Blue King Crab หรือ ราชาปูน้ำเงิน เป็นปูจำพวก “เดคาโปดา” หรือสัตว์ที่มี 10 ขา โดนเปลือกจะมีลักษณะพิเศษคล้ายกับรูปพัด สีของลำตัวจะเป็นสีน้ำเงินปนกับน้ำตาล
Golden King Crab หรือ ราชาปูทอง มีอีกฉายาหนึ่งว่าปูหิน (Stone crab) เป็นสัตว์ที่อยู่กลุ่มกุ้งปู (Decapod crustacean) สามารถพบเจอได้ใน บริติชโคลัมเบีย รัฐของประเทศแคนาดา หมู่เกาะอะลูเชียน และ ประเทศญี่ปุ่น