ข่าวบ้านนาสีนวลนิวส์ อ่านความจริงอ่านนาสีนวลนิวส์
"ดร.อนันต์" ชี้ผลวิจัยพบสายพันธุ์ "โอมิครอน" เกาะติดอยู่บนพื้นผิว 3 ชนิด สเตนเลส, พลาสติก, แก้ว ได้นานกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมสูงสุด 7 วัน พร้อมย้ำการใส่หน้ากากอนามัย จะช่วยลดปริมาณการปลดปล่อยลงได้
วันที่ 12 มี.ค. 2565 ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ไบโอเทค สวทช. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana โดยระบุว่า ผลการทดลองชิ้นนี้จากทีมวิจัยในฮ่องกงน่าสนใจ เปรียบเทียบความเสถียรของไวรัส (ความสามารถที่ไวรัสจะติดเชื้อต่อได้) บนพื้นผิวชนิดต่างๆ ระหว่างโอมิครอน กับ สายพันธุ์ดั้งเดิม ผลการทดลองชิ้นนี้บอกว่า ไวรัสทั้ง 2 สายพันธุ์จะสูญเสียสภาพการติดเชื้อไประดับหนึ่ง (ประมาณ 10 เท่า) เกือบทันทีที่อยู่นอกร่างกายและไปติดอยู่บนพื้นผิวต่างๆ
แต่หลังจากนั้น จะเห็นความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์ โดยโอมิครอนมีแนวโน้มจะอยู่บนพื้นผิวอย่างน้อย 3 ชนิด คือ สแตนเลส พลาสติก และ แก้ว ที่ยาวนานกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ดูเหมือนว่าโอมิครอนจะคงสภาพบนพื้นผิวทั้ง 3 ได้นานถึง 7 วัน ในสภาวะความชื้น และ อุณหภูมิที่ทำการทดลองนี้ แต่บนพื้นผิวกระดาษไวรัสเสียสภาพไวกว่า และ อยู่ได้ไม่นานพอๆ กัน
ติดตาม
13 มี.ค. 65
จีนผงะ ติดโควิดพุ่ง 2 เท่า แตะ 3,400 ราย สูงสุดในรอบ 2 ปี
13 มี.ค. 65
โควิดวันนี้ ยอดติดเชื้อ 2 ระบบ 43,969 ราย ดับอีก 66 ศพ ไทยอันดับ 17 โลก
13 มี.ค. 65
ผวา! ไวรัสกลายพันธุ์ "โอมิครอน" สายพันธุ์ย่อย BA.2.2 เตือนไทยเฝ้าระวัง
ดูทั้งหมด
การทดลองนี้ ไม่ได้เปรียบเทียบไวรัสในสภาวะอยู่ในอากาศ หรือ aerosol ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่โอมิครอนอาจจะอยู่ในอากาศได้นานกว่าปกติ ซึ่งอาจอธิบายความสามารถในการแพร่กระจายของไวรัสได้ไวและรวดเร็ว ส่วนข้อสังเกตคือ การศึกษานี้ใช้ปริมาณของละอองฝอยที่มีขนาด 5 ไมโครลิตร ซึ่งใหญ่กว่าละอองฝอยในธรรมชาติมาก ปริมาณไวรัสที่ใช้ก็ค่อนข้างสูง การสูญเสียสภาพของไวรัสประมาณ 10 เท่าหลังเกาะบนพื้นผิว อาจทำให้ละอองฝอยที่มีขนาดเล็กในสภาวะจริงอาจทำให้ไวรัสที่ติดออกมาลดลงไปจนไม่ไปต่อก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาวะของละอองฝอยที่ปล่อยออกมา
รวมทั้ง ปริมาณไวรัสที่ออกมาจากผู้ติดเชื้อมักไม่สูงเหมือนที่ทำการทดลอง การใส่หน้ากากอมามัยก็จะช่วยลดปริมาณการปลดปล่อยลงไปได้อีก ปัจจัยทั้งหมดนี้อาจจำเป็นต้องพิจารณาเพื่อประเมินความเสี่ยง แต่การล้างมือบ่อยๆ คงจำเป็นอยู่ดี.
หมอพรทิพย์ โพสต์ให้ความรู้ถึงจริยธรรมของแพทย์นิติเวช ย้ำต้องเป็นอิสระ เป็นกลาง ไม่ตกอยู่ใต้แรงกดดันของผู้จ้างหรือตำรวจ
วันที่ 13 มีนาคม 2565 แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โพสต์ข้อความว่า ทำไมญาติจึงเข้าถึงข้อมูลการเสียชีวิตของผู้ตายได้ยาก คงเพราะมีการทำตามวัฒนธรรมดั้งเดิมว่าตำรวจเป็นผู้ส่งศพมาตรวจ เราจึงต้องส่งผลการตรวจให้ตำรวจเท่านั้น น่าจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากหลักสิทธิหรือหลักกฎหมาย
ติดตาม
13 มี.ค. 65
เบิร์ด เดินเก็บรูป แตงโม ทุกใบ หลังจบงาน เอาไปเก็บที่บ้านตัวเอง (คลิป)
13 มี.ค. 65
กระติก น้ำตาคลอ หลังร่วมงาน แตงโม วันสุดท้าย
13 มี.ค. 65
กระติก เคลียร์คลิปทะเลาะ พี่เต้ บอกแล้วอย่าจิ้มหัวหนู (คลิป)
ดูทั้งหมด
ทั้งนี้ ป.วิอาญากำหนดให้แพทย์นิติเวชมีหน้าที่ต้องชันสูตรศพ แต่คงเพราะประเทศที่ระบบชันสูตรศพเป็นระบบตำรวจมีวัฒนธรรมที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาความจริง สหประชาชาติจึงมีข้อกำหนดให้ทั่วโลกควรใช้แนวทางที่ให้เกิดความเป็นธรรมตามพิธีสารมินนิโซต้านี้ บทกำหนดเรื่องจริยธรรมของแพทย์นิติเวชชัดเจนว่าต้องเป็นอิสระ เป็นกลาง ไม่ตกอยู่ใต้แรงกดดันของผู้จ้างหรือตำรวจ หากยึดหลักเช่นนี้การร้องขอเพื่อการชันสูตรศพครั้งที่ 2 จะลดลง ประชาชนควรรับทราบสิทธิและหลักการนี้กันด้วย.