๑. ที่ตั้ง  ตั้งอยู่เลขที่ ๒๓๖/๑ ถนนราเมศวร์ ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
ห่างจากกรุงเทพมหานคร ตามเส้นทางถนนสายเอเซีย(ทางหลวงหมายเลข๔๑) เป็นระยะทางประมาณ  ๘๕๘.๐๐ กิโลเมตร และตามเส้นทางรถไฟ  ระยะทางประมาณ  ๘๔๖.๐๐ กิโลเมตร ความยาวของจังหวัดจากทิศเหนือไปทิศใต้  ประมาณ ๗๘.๐๐ กิโลเมตร  และความกว้างจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก ระยะทางประมาณ  ๕๓.๐๐ กิโลเมตร เส้นทางรถยนต์สายเลียบฝั่งมหาสมุทรอินเดียทางตะวันตก ประมาณ ๑,๒๐๐ กิโลเมตร        

๒. อาณาเขต พื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด ๑๓.๓๔๒ ตารางกิโลเมตร                  

- ทิศเหนือ        ติดต่อกับ หมู่ที่ ๑ ,หมู่ที่ ๑๑ ตำบลเขาเจียก  หมู่ที่๙  ตำบลปรางหมู่ 

หมู่ที่ ๑ ,หมู่ที่ ๒ ,หมู่ที่ ๓ ,หมู่ที่ ๘  ตำบลพญาขัน   อำเภอเมือง  จังหวัดพัทลุง

                    - ทิศตะวันออก  ติดต่อกับ  หมู่ที่ ๑ , หมู่ที่ ๔  ตำบลลำปำ,ทะเลสาบลำปำ
อำเภอเมือง   จังหวัดพัทลุง

- ทิศใต้  ติดต่อกับ หมู่ที่ ๔ ตำบลลำปำ  หมู่ที่ ๑,หมู่ที่ ๒,หมู่ที่ ๓,หมู่ที่ ๔ ,
หมู่ที่ ๖  ตำบลควนมะพร้าว  หมู่ที่ ๑๐ ,หมู่ที่ ๑๑  ตำบลตำนาน  อำเภอเมือง  จังหวัดพัทลุง
                  - ทิศตะวันตก     ติดต่อกับ  หมู่ที่ ๑ ตำบลเขาเจียก  อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

๓. ลักษณะภูมิประเทศ ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุงและบริเวณพื้นที่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเขตผังเมืองรวมเมืองพัทลุง มีลักษณะเป็นพื้นที่ราบต่ำกว้างใหญ่รอบทะเลสาบ ส่วนที่เป็นทะเลหลวงมีพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ  ๐ -๑๕  เมตร       

๔. ลักษณะภูมิอากาศ สภาพภูมิอากาศมี ๒ ฤดูกาล คือ ฤดูร้อนและฤดูฝน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ๒๙.๓ องศาเซลเซียส ในเดือนเมษายน และอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย ๒๖.๗ องศาเซลเซียส ในเดือนธันวาคม อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี ๒๘.๑๔ องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์อยู่ระหว่าง ๗๕ – ๘๓ เปอร์เซ็นต์ โดยเฉลี่ย ๗๘.๗ เปอร์เซ็นต์ และความเร็วลมประมาณ๑-๒ เมตรต่อวินาที  ปริมาณการระเหยของน้ำประมาณ ๓.๓- ๕.๕ มิลลิเมตรต่อวัน                 

 ๕. การท่องเที่ยว  พื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ประกอบด้วย
              - หาดแสนสุขลำปำ หาดแสนสุขลำปำ เป็นหาดที่อยู่ในเขตทะเลหลวงตอนบนห่างจากตัวเมืองพัทลุงประมาณ ๘ กิโลเมตร ตามเส้นทางสายพัทลุง-ลำปำ โดยสองข้างทางที่มุ่งสู่ชายหาดจะเป็นทุ่งนา และเมื่อเดินทางไปถึงริมหาดมองไปด้านหน้าจะเห็นทิวทัศน์ของทะเลสาบสงขลา มีเกาะใหญ่เล็กเรียงรายสวยงามมาก บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย ห่างจากริมฝั่งมีศาลาลำปำที่รัก เป็นศาลาทรงไทย จากหาดแสนสุขลำปำสามารถมองข้ามไปยังเกาะลำปำ ซึ่งมีพื้นที่เพียงเล็กน้อยประมาณ ๔ ไร่เศษ
                หาดแสนสุขลำปำ ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเทศบาลเมืองมากนัก ระหว่างทางไปหาดและบริเวณใกล้เคียงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง อาทิ วัดวิหารเบิก วัดวัง วังเจ้าเมืองพัทลุง วัดยางงาม และวัดป่าลิไลย์ เป็นต้น ซึ่งช่วยส่งเสริมแรงดึงดูดของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันหาดแสนสุขลำปำได้รับการปรับปรุงไปบ้างพอสมควร และยังมีเอกชนลงทุนที่พักสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสำหรับผู้เยี่ยมเยือนและนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป

               - วัดถ้ำคูหาสวรรค์ เป็นวัดโบราณเก่าแก่วัดหนึ่ง ภายในบริเวณวัดมีถ้ำซึ่งมีพระพุทธรูปปางไสยยาสน์องค์ใหญ่ ๑ องค์ และพระพุทธรูปประทับนั่งในถ้ำขนาดกลาง ๓๕ องค์ พระมหากษัตริย์หลายพระองค์เคยเสด็จประพาสที่นี่ ดังพระปรมาภิไธยย่อที่จารึกไว้ "จปร."  "ภปร."  "สก."  ที่หน้าถ้ำ ถ้ำนี้ลึกและยาวมากมีทางลอดใต้ภูเขาทะลุออกไปถ้ำนางคลอดซึ่งอยู่อีกด้าน ภายในถ้ำมีหินงอก   หินย้อยที่งดงามมาก                  

- ภูเขาอกทะลุ เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพัทลุง คู่กับพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ มีทางขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อชมทิวทัศน์รอบๆ  ตัวจังหวัด ภูเขาอกทะลุสูงประมาณ ๒๕๐ เมตร เกือบถึงยอดเขามีช่องกลางเหมือนปล่องทะลุออกไปอีกด้านจะมองเห็นท้องฟ้าตามช่องเขานั้นได้

- ถ้ำมาลัย เป็นถ้ำที่มีอยู่ในตำบลปรางหมู่ อำเภอเมือง อยู่ห่างจากสถานีรถไฟจังหวัดพัทลุงไปทางทิศเหนือประมาณ ๑ กิโลเมตร มีทางแยกจากเส้นทางรถไฟประมาณ ๑๐๐ เมตร ถ้ำนี้อยู่บนภูเขาเตี้ยเทือกเขาเดียวกับเขาอกทะลุ มีบริเวณปากถ้ำแคบมากทางเข้าเป็นช่อง สูงประมาณ ๒ เมตรกว่า ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อยเป็นริ้วลักษณะคล้ายม่านสีขาวพื้นถ้ำส่วนลึกสูงมีแอ่งน้ำใส   ส่วนบริเวณยอดเขามีสำนักสงฆ์และเจดีย์ตั้งอยู่                  

- พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพัทลุง เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพัทลุงคู่กับภูเขาอกทะลุ เป็นพระพุทธรูป ๔ มุมเมืองของประเทศไทย                  

- วังเจ้าเมืองพัทลุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองพัทลุง สร้างขึ้นสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เป็นวังของเจ้าเมืองพระยาอภัยบริรักษ์จักราวิชิตพิพิธภักดีพิริยะพาหะ(น้อม จันทโรจน์วงศ์) ผู้ว่าราชการเมืองพัทลุงในอดีต                  

- อนุสาวรีย์พระยาทุกขราษฏร์ (ช่วย) เป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดพัทลุง  มีชีวิตอยู่ในสมัยรัชกาลที่ ๑ ตามพงศาวดารไทยรบกับพม่า ท่านได้เป็นผู้นำชาวพัทลุงต่อสู้กับข้าศึกในการรักษาเมือง เมื่อเสร็จศึกพม่าแล้ว พระมหาช่วยได้ลาสิกขาบทออกมารับราชการ ได้รับการแต่งตั้งเป็น พระยาทุกขราษฏร์จังหวัดพัทลุง และเทศบาลเมืองพัทลุงจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ขึ้น  ซึ่งดำเนินการวางศิลาฤกษ์โดยสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ อยู่บริเวณสามแยกคูหาสวรรค์  

- หอโพนมงคล  เทศบาลเมืองพัทลุง ได้สร้างหอโพนทรงไทยให้เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพัทลุง จำนวน ๙ จุด ทั่วเขตเทศบาลเมืองพัทลุง เป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งโพนและเป็นสถานที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสโดยการตีโพนมงคล สถานที่และชื่อโพน ประกอบด้วย
                  ๑. วัดอินทราวาส (วัดคูหาสวรรค์) ชื่อโพนก้องฟ้า (ชื่อเดิมโพนฟ้าลั่น)           

 ๒. สวนกาญจนาภิเษก ชื่อโพนพสุธาสนั่น (ชื่อเดิมสุธาลั่น)
                  ๓. ศาลาจตุรมุขฯ ชื่อโพนขวัญเมือง (ชื่อเดิมฟ้าเมืองลุง)
                  ๔. สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ชื่อโพนเรืองเดชา (ชื่อเดิมไอ้โครงพุก)
                  ๕. สำนักวิปัสสนาวังสันติบรรพ ชื่อโพนมหามงคล (ชื่อเดิมไอ้ยอม)
                  ๖. ศูนย์ภูมิปัญญาผู้สูงอายุ ชื่อโพนมนต์เทวัญ (ชื่อเดิมไอ้เคียน)
                  ๗. สวนหลวง ร.๙ ชื่อโพนอนันตชัย (ชื่อเดิมอีโด)
                  ๘. ถ้ำมาลัยเทพนิมิตร ชื่อโพนพิชิตไพรี (ชื่อไอ้เคียนทอง)
                  ๙. หาดแสนสุขลำปำ ชื่อโพนไพศาล (ชื่อเดิมก้องสุธา) 

๖. ศาสนา  การนับถือศาสนาของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง รายละเอียดดังนี้ 
                  - นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๖ ของประชากรทั้งหมด
                  - นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ ๓ ของประชากรทั้งหมด
                - นับถือศาสนาคริสต์ ร้อยละ ๑ ของประชากรทั้งหมด
                  โดยมีสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในเขตเทศบาล ได้แก่ 
                      - วัด     จำนวน  ๑๑ แห่ง  - มัสยิด        จำนวน   ๑ แห่ง 
                    - โบสถ์คริสต์ จำนวน   ๓ แห่ง  - เมรุเผาศพ  จำนวน ๙ แห่ง๑ แห่ง อิสลาม๑แห่ง
๗. ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม เทศบาลเมืองพัทลุงได้มีนโยบายในการอนุรักษ์และส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของท้องถิ่นมาโดยตลอด ประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ ที่เทศบาลได้จัดขึ้นที่สำคัญ ได้แก่

                      ๑. งานแข่งโพน-ลากพระ ตักบาตรเทโว จัดขึ้นในเดือนตุลาคม ตรงกับวันออก

พรรษา กิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ ขบวนแห่โพน การแข่งขันตีโพน และการประกวดธิดาโพน เป็นต้น
                      ๒. งานประเพณีลอยกระทง จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ตรงกับวันเพ็ญเดือนสิบสอง กิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ ขบวนแห่กระทง การประกวดกระทง การประกวดนางนพมาศ การแข่งขันตีกลองพรก เป็นต้น                     

๓. งานประเพณีสงกรานต์ จัดขึ้นในเดือนเมษายน ตรงกับวันที่ ๑๓ เมษายน มีกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ ขบวนแห่สงกรานต์ การรดน้ำผู้สูงอายุ พิธีการทางศาสนา เป็นต้น
                      ๔. งานอนุรักษ์มรดกไทย จัดขึ้นในเดือนเมษายน มีกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การแสดงหนังตะลุงของคณะต่างๆ พิธีกรรมพื้นบ้าน การประกวดอาหารพื้นบ้าน เป็นต้น

๘ .ข้อมูลด้านสาธารณสุข 

  - โรงพยาบาลประจำจังหวัด            จำนวน  ๑ แห่ง

  - โรงพยาบาลเอกชน                จำนวน   ๒ แห่ง

  - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน  ๓ แห่ง

๙ .  สรุปสภาพปัญหา ความต้องการ สาเหตุ และแนวทางการแก้ไข/พัฒนาระดับตำบล

สภาพปัญหา/ความต้องการ

สภาพปัญหา

แนวทางแก้ไข/พัฒนา

ด้านการศึกษาขั้นพื้นฐาน

-  ครูผู้สอนจบการศึกษาไม่ตรงกับรายวิชาที่จัดการเรียนการสอน

-  ปัญหาการจัดกระบวนการเรียนรู้ในรายวิชาที่ยากเช่นวิชาภาษาอังกฤษ เนื่องจากนักศึกษามีระดับพื้นฐานแตกต่างกัน

-  นักศึกษาขาดวุฒิภาวะ เช่น ภาวะความเป็นผู้นำ  การกล้าแสดงออก  ความมั่นใจในแสดงออก  ความรับผิดชอบ

-  นักศึกษามีปัญหาเรื่องของเวลาการพบกลุ่มเนื่องจากสาเหตุ การทำงาน  การมีภาระครอบครัว

-  พัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาที่ยาก

-จัดกิจกรรมปรับพื้นฐานในรายวิชาที่ยากให้แก่นักศึกษาในทุกระดับ เพื่อให้นักศึกษามีระดับพื้นฐานที่ใกล้เคียงกัน

-  การจัดกระบวนการเรียนรู้เน้นการมีส่วนร่วมของนักศึกษา

-  ปรับเวลาการพบกลุ่มให้เข้ากับบริบทของชุมชน และการประกอบอาชีพของนักศึกษา

๒

ด้านการศึกษาต่อเนื่อง

- มีข้อจำกัดในการจัดกิจกรรมทำให้กลุ่มเป้าหมายต้องเรียนรู้ไปตามรูปแบบกิจกรรมที่ส่วนกลางกำหนดมาให้

- จำนวนกิจกรรมที่ต้องดำเนินการมีจำนวนมากในขณะที่งบประมาณมีน้อย  ทำให้บางกิจกรรมไม่มีคุณภาพ

- ส่วนกลางไม่ควรกำหนดกิจกรรม  ควรให้เป็นไปตามบริบทของแต่ละพื้นที่

-ควรมีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม  เพื่อให้ทุกกิจกรรมสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

๓

ด้านการศึกษาตามอัธยาศัย

- ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นความสำคัญของการอ่าน

-จัดให้มีการส่งเสริมการอ่าน เพื่อให้ประชาชนมีนิสัยรักการอ่านเพิ่มขึ้น

 สรุปข้อมูลสารสนเทศจากการประเมินผลต่างๆและปัญหาอุปสรรคในรอบปีที่ผ่าน

๑)  กิจกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน

             นักศึกษาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับความรู้ตามโครงสร้างหลักสูตรในรายวิชาที่ลงทะเบียนเรียนในแต่ละภาคเรียน ด้วยการเรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนกล้าแสดงออก มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ศึกษาด้วยตนเองจากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่างๆในชุมชน นักศึกษาทุกคนต้องมีการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในทุกภาคเรียน เพื่อให้นักศึกษาที่จบการศึกษาเป็นคนดี คนเก่งและมีคุณภาพต่อไป

ความสำเร็จในการดำเนินงาน (เชิงคุณภาพ)

การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มเป้าหมายที่อยู่นอกระบบโรงเรียน  ได้รับการยกระดับการศึกษา และสามารถศึกษาต่อในระดับที่สูง มีคุณภาพชีวิตที่ดี เข้าสู่ตลาดแรงงานได้มากขึ้น

ปัญหาและอุปสรรค

             -  ครูผู้สอนจบการศึกษาไม่ตรงกับรายวิชาที่จัดการเรียนการสอน

             - ปัญหาการจัดกระบวนการเรียนรู้ในรายวิชาที่ยากเช่นวิทยาศาสตร์  คณิตศาสตร์ เนื่องจากนักศึกษามีระดับพื้นฐานแตกต่างกัน

             -  นักศึกษาขาดวุฒิภาวะ เช่น ภาวะความเป็นผู้นำ  การกล้าแสดงออก  ความมั่นใจในแสดงออก  ความรับผิดชอบ

           -  นักศึกษามีปัญหาเรื่องของเวลาการพบกลุ่มเนื่องจากสาเหตุ การทำงาน  การมีภาระครอบครัว

ข้อเสนอแนะ / แนวทางการดำเนินงานต่อไป 

             -  พัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาที่ยาก

             -  จัดกิจกรรมปรับพื้นฐานในรายวิชาที่ยากให้แก่นักศึกษาในทุกระดับ เพื่อให้นักศึกษามีระดับพื้นฐานที่ใกล้เคียงกัน

             -  การจัดกระบวนการเรียนรู้เน้นการมีส่วนร่วมของนักศึกษา

             -  ปรับเวลาการพบกลุ่มให้เข้ากับบริบทของชุมชน และการประกอบอาชีพของนักศึกษา

             -  จัดทำแผนรายบุคคล

๒)  กิจกรรมด้านการศึกษาต่อเนื่อง

             กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมเกิดทักษะการเรียนรู้ ในอาชีพต่างๆตามที่ต้องการและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างหลากหลาย ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีรายได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความสำเร็จในการดำเนินงาน (เชิงคุณภาพ) 

             กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรม มีอาชีพเสริมตามความต้องการ และสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว

ปัญหาและอุปสรรค

             -  มีข้อจำกัดในการจัดกิจกรรมทำให้กลุ่มเป้าหมายต้องเรียนรู้ไปตามรูปแบบกิจกรรม ที่ส่วนกลางกำหนดมาให้

       -  จำนวนกิจกรรมที่ต้องดำเนินการมีจำนวนมากในขณะที่งบประมาณมีน้อย  ทำให้     บางกิจกรรมไม่มีคุณภาพ

ข้อเสนอแนะ/แนวทางการดำเนินงานต่อไป

         -  ส่วนกลางไม่ควรกำหนดกิจกรรม  ควรให้เป็นไปตามบริบทของแต่ละพื้นที่

             - ควรมีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม  เพื่อให้ทุกกิจกรรมสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

๓)  กิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย

             จัดให้มีการส่งเสริมการอ่าน เพื่อให้ประชาชนมีนิสัยรักการอ่านเพิ่มขึ้น โดยจัดให้มี  มุมหนังสือประจำหมู่บ้าน และส่งเสริมการอ่านในครัวเรือน โดยมีตะกร้าหนังสือ กระเป๋าหนังสือสู่ชุมชน

ความสำเร็จในการดำเนินงาน (เชิงคุณภาพ) 

             ประชาชนในชุมชนได้สาระความรู้เพิ่มเติมจากบริการในกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน   สามารถศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง ประชาชนมีนิสัยรักการอ่าน  ใฝ่รู้  ใฝ่เรียน  เห็นประโยชน์และเห็นคุณค่าของการอ่านจากการส่งเสริมการอ่าน