แผนภูมิควบคุม (Control Chart): เครื่องมือสำคัญในการควบคุมคุณภาพ
แผนภูมิควบคุม หรือ Control Chart เป็นเครื่องมือทางสถิติที่ใช้ในการตรวจสอบและควบคุมความผันแปรในกระบวนการผลิตหรือบริการต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ:
ตรวจจับปัญหา: ช่วยให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น
ป้องกันปัญหา: เมื่อพบปัญหาสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการ
ปรับปรุงกระบวนการ: ช่วยให้เข้าใจถึงสาเหตุของความผันแปร และนำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลักการทำงานของแผนภูมิควบคุม
เก็บข้อมูล: รวบรวมข้อมูลจากกระบวนการผลิตเป็นระยะๆ เช่น ค่าการวัดต่างๆ
คำนวณค่าสถิติ: คำนวณค่าสถิติที่สำคัญ เช่น ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
สร้างแผนภูมิ: กำหนดเส้นกลาง (Center Line) และเส้นควบคุมบนและล่าง (Upper Control Limit, UCL และ Lower Control Limit, LCL)
พล็อตข้อมูล: พล็อตข้อมูลลงบนแผนภูมิ
วิเคราะห์ผล: ตรวจสอบว่าข้อมูลที่พล็อตอยู่นอกเส้นควบคุมหรือมีรูปแบบผิดปกติหรือไม่ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงปัญหาในกระบวนการ
ประเภทของแผนภูมิควบคุม
แผนภูมิสำหรับข้อมูลต่อเนื่อง (Variable Data): ใช้สำหรับข้อมูลที่วัดได้ เช่น ขนาด น้ำหนัก อุณหภูมิ
แผนภูมิ X-bar และ R: ใช้สำหรับควบคุมค่าเฉลี่ยและพิสัยของข้อมูล
แผนภูมิ X-bar และ S: ใช้สำหรับควบคุมค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูล
แผนภูมิสำหรับข้อมูลนับ (Attribute Data): ใช้สำหรับข้อมูลที่นับได้ เช่น จำนวนชิ้นที่เสีย จำนวนข้อบกพร่อง
แผนภูมิ p: ใช้สำหรับควบคุมสัดส่วนของชิ้นงานที่เสีย
แผนภูมิ c: ใช้สำหรับควบคุมจำนวนข้อบกพร่องในหน่วยหนึ่ง
วิธีการอ่านแผนภูมิควบคุม
จุดอยู่นอกเส้นควบคุม: บ่งบอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการ
รูปแบบผิดปกติ: เช่น จุดเรียงตัวเป็นแนวเอียง หรือมีจุดหลายจุดติดต่อกันอยู่นอกเส้นควบคุม อาจบ่งบอกถึงปัญหาเช่นกัน
ประโยชน์ของแผนภูมิควบคุม
เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: ช่วยลดของเสีย ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต
ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์: ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความสม่ำเสมอและตรงตามมาตรฐาน
ลดความเสี่ยง: ช่วยให้ตรวจพบปัญหาได้ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อลูกค้า
สนับสนุนการตัดสินใจ: ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจปรับปรุงกระบวนการ