โครงการอบรมวิปัสสนากรรมฐาน ออนไลน์

วัดมเหยงคณ์ร่วมกับหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ จัดโครงการอบรมวิปัสสนากรรมฐาน หลักสูตรกรรมฐานOnline เพื่อเปิดโอกาสให้แก่ผู้ปฏิบัติที่มีความสนใจจะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน แต่ไม่สามารถเดินทางมาปฏิบัติที่วัดได้ อันเนื่องมาจากปัญหาสุขภาพ อายุ หน้าที่การงาน ภารกิจครอบครัวหรืออื่นๆ 

โดยกิจกรรมต่างๆของหลักสูตรนี้เหมือนกับคอร์สอบรมวิปัสสนากรรมฐานของวัด เพียงแต่ผู้ปฏิบัติสามารถใช้สถานที่บ้านเป็นที่ศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติตามเวลาและกิจกรรมที่กำหนดไว้ ได้แก่ การเดินจงกรม การนั่งสมาธิ การฟังธรรม และการส่งอารมณ์ ทั้งนี้การปฏิบัติจะได้ผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวผู้ปฏิบัติเองซึ่งต้องมีความศรัทธา ปรารถนาที่จะศึกษาเรียนรู้และมีความตั้งใจจริงที่สำคัญคือต้องมีสัจจะ ซื่อสัตย์ และมีระเบียบวินัยในตัวเอง

กฎระเบียบข้อวัตรปฏิบัติ

1. ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดตลอดระยะเวลาของคอร์สปฏิบัติกรรมฐาน อาทิ โทรศัพท์เคลื่อนที่ Tabletคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ในการติดต่อกับบุคคลต่างๆ จะใช้เพียงเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานเท่านั้น คือ ฟังคำสอนนำปฏิบัติ ฟังธรรมะ และส่งอารมณ์ 

2. ต้องสำรวมวาจา งดการติดต่อ พูดคุยกับบุคคลอื่น รวมถึงคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นการพูดกันโดยตรง หรือผ่าน Line หรือโทรศัพท์ก็ตาม หากจำเป็นต้องพูดก็พูดแต่น้อยตามความจำเป็นและพึงตั้งสติในการพูด

3. ห้ามดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ ข่าว สิ่งบันเทิง รายการต่างๆ ซึ่งจะไม่เอื้อต่อการปฏิบัติ

4. ถือศีล 8 ตลอดการปฏิบัติ ยกเว้นผู้ป่วยที่ต้องทานอาหารมื้อเย็น สามารถสมาทานอาชีวัฏฐมกศีลได้

5. ผู้ปฏิบัติต้องนั่งสมาธิและเดินจงกรมไม่น้อยกว่าวันละ 8 ชั่วโมง 

6. ผู้ปฏิบัติต้องฟังธรรมะที่จัดให้ในแต่ละวันและต้องปฏิบัติให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดจึงจะสามารถไปฟังในวันถัดไปได้ แต่หากมีความประสงค์จะฟังซ้ำก็สามารถย้อนกลับไปฟังซ้ำได้

7. ผู้ปฏิบัติมีข้อสงสัยหรือมีสภาวธรรมที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติ และเมื่อจบการปฏิบัติในแต่ละช่วงเวลานั้นๆ สามารถค้นหาคำตอบจากรายการปุจฉา-วิสัชนาซึ่งวัดมเหยงคณ์ได้จัดเตรียมไว้ให้หรืออาจจะค้นหาในช่วงเวลาที่สิ้นสุดการปฏิบัติในแต่ละวันก็ได้

8. หากผู้ปฏิบัติมีข้อสงสัยที่ไม่ได้รับคำตอบจากรายการ ปุจฉา-วิสัชนา ขอให้ผู้ปฏิบัติเขียนคำถามส่งมาที่ผู้ดูแลโครงการฯ เพื่อรวบรวมถวายหลวงพ่อและนัดให้คำตอบในเวลาต่อไป หรือจะส่งอารมณ์กับหลวงพ่อตามเวลาที่จะแจ้งให้ทราบเป็นครั้งๆ

9. ผู้ปฏิบัติต้องรายงานผลการปฏิบัติทุกวันและประเมินโครงการจัดคอร์สกรรมฐานออนไลน์เพื่อให้ข้อเสนอแนะ ในวันที่ปิดโครงการฯ ตามแบบที่จัดทำให้โดยส่งผ่านทางLine

10. ผู้ปฏิบัติต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด

คุณสมบัติของผู้ปฏิบัติ

1. ต้องมีจิตศรัทธาเข้าร่วมโครงการฯ ตลอดระยะเวลาที่กำหนดแบบต่อเนื่อง(เพื่อให้เกิดผลการปฏิบัติ) และต้องจัดการภารกิจส่วนตัวให้แล้วเสร็จก่อนเข้ากรรมฐาน หากไม่สามารถปฏิบัติได้ต่อเนื่องขอสงวนสิทธิ์การเข้าคอร์สกรรมฐาน Online

2. ต้องปฏิบัติได้จนจบคอร์สและไม่เลิกกลางคันเพราะจะเป็นการตัดโอกาสท่านอื่นๆ ที่ต้องการเข้าอบรมแต่ไม่ได้เข้า เนื่องจากทางวัดจะรับจำนวนจำกัดเพียง 200 ท่าน 

3. ต้องมีความรู้ความสามารถในการใช้เครื่องมือสื่อสารเพื่อการศึกษาเรียนรู้แบบ Onlineได้ 

4. กรณีที่ท่านสนใจและต้องการศึกษาเรียนรู้แต่ไม่มั่นใจว่าจะทำตามกฎระเบียบข้อวัตรปฏิบัติได้ทั้งหมดท่านสามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้ผ่าน Facebook วัดมเหยงคณ์ สารธรรม และ Youtube วัดมเหยงคณ์ Official Channel ได้ ซึ่งหลักสูตรเหมือนกันเพียงแต่จะไม่ได้มีโอกาสส่งอารมณ์กับพระอาจารย์ เนื่องจากปฏิบัติไม่ต่อเนื่องและไม่เป็นไปตามหลักสูตร

หลักเกณฑ์การรับสมัคร

รับสมัครเฉพาะผู้ที่มีความตั้งใจปฏิบัติ ยอมรับและสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบได้ โดยคอร์สกรรมฐานออนไลน์จะจำแนกเป็นคอร์สต่างๆดังนี้

1.คอร์สคนใหม่ หมายถึงผู้ที่ไม่เคยเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน 7 วัน ขึ้นไปโดยมี พระภาวนาเขมคุณ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) เป็นพระวิปัสสนาจารย์ หรือผู้เคยผ่านการปฏิบัติมาแล้วเพียง 1 ครั้ง

2. คอร์สคนเก่า คือผู้ที่เคยเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานโดยมี พระภาวนาเขมคุณ วิ.(หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) เป็นพระวิปัสสนาจารย์ ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป

3.คอร์สคนเก่าพิเศษ คือผู้ที่เคยเคยเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานโดยมี พระภาวนาเขมคุณ วิ.(หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) เป็นพระวิปัสสนาจารย์ ตั้งแต่ 5 ครั้งขึ้นไป มีความรู้ ความเข้าใจและผ่านสภาวธรรมในระดับเบื้องต้นมาแล้ว

    ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติใหม่ให้เข้าคอร์สคนใหม่ ผู้ปฏิบัติเก่าเข้าคอร์สคนเก่า สำหรับผู้ที่จะเข้าคอร์สคนเก่าพิเศษ ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติและสภาวธรรมที่ผ่านมาของตนเอง

ข้อแนะนำการปฏิบัติ

1. ควรเดินจงกรมก่อนแล้วต่อด้วยการนั่งสมาธิ

2. ช่วงแรก ๆ ของการปฏิบัติ เดินจงกรม นั่งสมาธิ ควรใช้เวลาพอประมาณ อาทิ เดินจงกรม 30 นาที นั่งสมาธิ 30 นาที

3. วันต่อ ๆ ไป จึงเพิ่มเวลาการปฏิบัติการเดินจงกรม การนั่งสมาธิ ให้มากขึ้น เป็น 40 นาที 50 นาที 60 นาที

4. กรณีที่นั่งสมาธิแล้วเกิดมีนิวรณ์มาก (ความง่วง ความฟุ้งซ่าน) ก็ใช้อิริยาบถเดินให้มาก เป็นหลัก หรือเจริญสติกับการเคลื่อนไหวอื่น ๆ