ชื่อ : นาณฐกร โมมขุนทด
ตำแหน่ง : ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
การศึกษา : ปริญญาตรี ค.บ. คณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร
สถานที่ทำงาน : กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
โรงเรียนลาดยาววิทยาคม อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์
ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแห่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 25 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาคณิตศาสตร์ จำนวน 18 ชั่วโมง/สัปดาห์
พัฒนาผู้เรียน/รายวิชาลูกเสือ - เนตรนารี จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
พัฒนาผู้เรียน/รายวิชาชุมนม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
พัฒนาผู้เรียน/รายวิชาส่งเสริมวิชาการครูที่ปรึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
พัฒนาผู้เรียน/รายวิชากิจกรรมเพื่อสังคม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ รวมจำนวน 10 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2.1 การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2.2 แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2.3 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2.4 การสร้างและการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2.5 การมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2.6 การจัดทำวิจัยในชั้นเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2.7 การดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3.1 หัวหน้างานโครงการตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ
และนโยบาย สพฐ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการ คือ การแก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้) (เปลี่ยนตามวิทยฐานะของคุณครู)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การแก้ไขปัญหาการบวกจำนวนเต็มโดยใช้แบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่องการบวกจำนวนเต็ม ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนจากการจัดการเรียนรู้ที่ผ่านมาใน
เรื่อง การแก้ไขปัญหาการบวกจำนวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2567 นักเรียนยังขาดทักษะและความสามารถในการบวกจำนวนเต็ม มีความสับสนในการหาคำตอบเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้ประสบความสำเร็จ นักเรียนสามารถค้นคว้าด้วยตนเองโดยใช้แบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม โดยมีเนื้อหาจากง่ายไปหายาก ปัญหาดังกล่าวทำให้นักไม่มีองค์ความรู้ในการบวกจำนวนเต็ม จึงทำให้เกิดความเบื่อหน่ายในการหาคำตอบ ตลอดจนทำให้เกิดการลอกการบ้าน นักเรียนไม่มีทักษะในการคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาโจทย์ทางคณิตศาสตร์ได้ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม ไม่เป็นไปตามมาตรฐานตัวชี้วัดที่กำหนด
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วิเคราะห์ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับ เรื่อง การบวกจำนวนเต็มในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช2551(ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนลาดยาววิทยาคม ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2563
2.2 ปรับปรุงหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม โดยใช้แบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม ดังนี้
1) การบวกจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มบวก
2) การบวกจำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มลบ
3) การบวกของจำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มลบโดยใช้เส้นจำนวน
4) การบวกจำนวนเต็มต่างชนิดกัน
2.3 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม ตามเนื้อหาที่กำหนดในหน่วย
การเรียนรู้ โดยเน้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และให้ผู้เรียนได้ค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จะรองรับกับสภาพการจัดการเรียนรู้ทั้งในสถานการณ์ปกติ และสถานการณ์ที่มีข้อจำกัด เช่น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ซึ่งต้องจัดการเรียนการสอนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตด้วยแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ
2.4 สร้างและพัฒนาสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning สามารถแก้ปัญหา และพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนได้
2.5 ประเมินผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม
2.6 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่กำหนด โดยมีผู้บริหาร หัวหน้ากลุ่มสาระฯ หรือครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ร่วมสังเกต การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียน และสะท้อนผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น เพื่อนำผลไปใช้ในการปรับปรุงแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และสื่อการเรียนรู้ต่อไป
2.7 ประเมินผลสัมฤทธิ์หลังเรียน เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม
2.8 ปรับปรุงหรือพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และสื่อการเรียนรู้ให้มีคุณภาพมากขึ้นตามผลการสะท้อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และผลการประเมินผลสัมฤทธิ์หลังเรียน
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดจำนวนร้อยละ 75 ขึ้นไป จากจำนวนนักเรียนทั้งหมดที่ได้เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม โดยผ่านกระบวนการสอนแบบ Active Learning
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และนำองค์ความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ และเชื่อมโยงกันเนื้อหาคณิตศาสตร์เรื่องอื่น ๆ ได้