ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ศูนย์ศิลปาชีพบ้านทันสมัย…..โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรตลอดจนการจ้างงานต่างๆ และส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ราษฎรที่อาศัยอยู่ในบริเวณศูนย์ศิลปะชีพ
เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๒๕ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรที่บ้านห้วยไหล่ ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นหมู่บ้านยากจนในจังหวัดนครพนมขณะนั้นไม่มีไฟฟ้าใช้ในหมู่บ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ ทำนาและรับจ้างทั่วไป มีฐานะยากจนรายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ ทรงรับสั่งให้สร้างฉางข้าวพระราชทานขึ้นที่บ้านห้วยไหล่ ๑ หลัง และมีบ้านหนองบัว ๑ หลัง ทรงรับสั่งให้ราษฎรทอผ้าไหม ซึ่งราษฎรส่วนมากเคยทำอยู่แล้ว และทรงรับซื้อผ้าไหมที่ทอเสร็จแล้ว เพื่อช่วยเหลือและเพิ่มรายได้ให้กับราษฎรอีกทางหนึ่ง เมื่อทอเสร็จจะรับผ้าไหมและผ้าฝ้ายนำส่งกองราชเลขานุการในพระองค์ฯ ส่งเงินให้ราษฎรเป็นค่าตอบแทน ต่อมาเมื่อ ๘ มิถุนายน ๒๕๓๕ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียนราษฎรที่บ้านทันสมัย ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ขยายงานด้านศิลปาชีพการทอผ้าไหมให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมวิชาชีพให้กับราษฎรและสมาชิกเพิ่มเติมนอกเหนือจากอาชีพหลัก
เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๒๕ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรที่บ้านห้วยไหล่ ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นหมู่บ้านยากจนในจังหวัดนครพนมขณะนั้นไม่มีไฟฟ้าใช้ในหมู่บ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ ทำนาและรับจ้างทั่วไป มีฐานะยากจนรายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ ทรงรับสั่งให้สร้างฉางข้าวพระราชทานขึ้นที่บ้านห้วยไหล่ ๑ หลัง และมีบ้านหนองบัว ๑ หลัง ทรงรับสั่งให้ราษฎรทอผ้าไหม ซึ่งราษฎรส่วนมากเคยทำอยู่แล้ว และทรงรับซื้อผ้าไหมที่ทอเสร็จแล้ว เพื่อช่วยเหลือและเพิ่มรายได้ให้กับราษฎรอีกทางหนึ่ง เมื่อทอเสร็จจะรับผ้าไหมและผ้าฝ้ายนำส่งกองราชเลขานุการในพระองค์ฯ ส่งเงินให้ราษฎรเป็นค่าตอบแทน ต่อมาเมื่อ ๘ มิถุนายน ๒๕๓๕ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียนราษฎรที่บ้านทันสมัย ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ขยายงานด้านศิลปาชีพการทอผ้าไหมให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมวิชาชีพให้กับราษฎรและสมาชิกเพิ่มเติมนอกเหนือจากอาชีพหลัก
เป็นศูนย์ฝึกอบรมส่งเสริมศิลปาชีพแขนงต่างๆ โดยเฉพาะการเกษตร “ทฤษฎีใหม่” และศิลปะหัตกรรมพื้นบ้านพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้ดีขึ้นมีความรัก ความสามัคคี ผูกพันไม่ละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด และเป็นศูนย์ประสานความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนพัฒนาอาชีพให้แก่ราษฎร ปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนให้รู้คุณค่ามีความรักหวงแหนร่วมมือกันอนุรักษ์ทรัพยากร โดยเฉพาะป่าไม้ ในลักษณะ “ คนและป่าอยู่ด้วยกันได้ ”ยกระดับฝีมือของสมาชิกโครงการส่งเสริมศิลปาชีพให้สูงขึ้นเพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาของท้องถิ่นและของประเทศชาติให้มีความยั่งยืนสืบไป
