07.00 น. พบกันจุดรวมพล ณ ตึกเนชั่นทีวี บางนา ลงทะเบียน พร้อมรับอาหารเช้า Box Set และเครื่องดื่ม โดยมีเจ้าหน้าที่คอยบริการอำนวยความสะดวก
08.00 น. เคลื่อนทัพออกเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ มุ่งหน้าสู่ อ.ดอนเจดีย์ จ. สุพรรณบุรี
ปักหมุดจุดแรก ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
คณะร่วมถวายสักการะโดยพร้อมกัน เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระนเรศวรมหาราช และวีรชนในอดีตที่เสียสละรักษาเอกราชเพื่อชาติไทย สถานที่แห่งนี้ ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และข้อสันนิษฐาน เป็นอนุสรณ์สถานที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในสงครามยุทธหัตถีที่ทรงมีต่อพระมหาอุปราชาแห่งพม่า เมื่อปี พ.ศ.2135
รับประทานอาหารกลางวันร่วมกันในบรรยากาศสวน ณ ร้านเอมโอช
นำคณะเดินทางถึง วัดสำปะซิว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
เข้าชมพระตำหนักพระนเรศวรที่เปิดเป็นครั้งแรก และฟังเรื่องเล่า นิมิตปาฎิหาร์ย ฟ้าลิขิต ณ พระตำหนักพระนเรศวรฯ โดย คุณเกรียงไกร กิตติธเนศวร สถานที่หนึ่งในตำนานเล่าขาน โดยมีบันทึกทางประวัติศาสตร์ และจากการคำบอกเล่าได้ระบุไว้ว่า เดิมเป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น และเล่าสืบกันว่าเคยเป็นวัดร้าง ต่อมากองทัพแห่งสมเด็จพระนเรศวรฯได้มาพัก ณ ที่แห่งนี้เพื่อตรวจบัญชีว่าคงเหลือทหารเหลืออยู่ในกองทัพอยู่เป็นจำนวนกี่นาย โดยในสมัยนั้นเรียกว่า สางบัญช ีและในภายหลัง จึงได้มีการบูรณะวัดแห่งนี้ขึ้นพร้อมกับให้ชื่อวัดว่า วัดสางบัญชี ก่อนที่จะแผลงมาเป็นวัดสำปะซิวในปัจจุบัน พร้อมร่วมสักการะขอพรหลวงพ่อสัมฤทธิ์อายุพันปี สมัยทวารวดี
ข้ามเวลาทะลุมิติผ่านประตูแห่งกาลเวลา พาทุกท่านไปพบกับประติมากรรมอันงดงามแห่งหนึ่งในจังหวัดอยุธยา สัมผัสความวิจิตรงดงามของศิลปะแห่งสองยุคกรุงศรีอยุธยา และร่วมนมัสการหลวงพ่อขาว ณ วัดแม่นางปลื้ม วัดเก่าแก่ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของกรุงศรีอยุธยา และมีตำนานการสร้างเล่าว่า ที่ดินตรงนี้เคยเป็นเรือนของแม่สามปลื้ม แม่ปลื้มอาศัยอยู่คนเดียวไม่มีลูกหลาน วันหนึ่งพระนเรศวรพายเรือแล้วเจอพายุฝนซัดกระหน่ำ เมื่อทอดพระเนตรเห็นเรือนหลังนี้ยังสว่างด้วยแสงไฟตะเกียงจึงเสด็จขึ้นท่า ขอเสวยน้ำจันทน์และพักค้างแรม แม้แม่ปลื้มจะไม่รู้ถึงชาติกำเนิดของชายผู้นี้ ก็ยังต้อนรับขับสู้อย่างดี อีกทั้งยังกล่าวถึงพระเจ้าแผ่นดินด้วยความจงรักภักดี พระนเรศวรทรงพอพระทัยมาก พอรุ่งสางก็เสด็จกลับพระราชวังหลวง จากนั้นไม่นานก็จัดขบวนมารับแม่นางปลื้มไปเลี้ยงอาหารในวัง เพื่อตอบแทนความเมตตาและหัวใจอันภักดี เมื่อแม่ปลื้มเสียชีวิต สมเด็จพระนเรศวรฯก็จัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ พร้อมสร้างวัดพระราชทาน ชื่อว่า วัดแม่นางปลื้ม โดยช่วงก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา วัดแม่นางปลื้มเป็นฐานที่พม่ายิงปืนใหญ่เข้าไปในกำแพงพระนคร ด้วยเหตุนี้วัดจึงมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่ถูกเผาทำลายเช่นวัดอื่นๆ ในเกาะเมือง
16.30 น. Check in พักผ่อนตามอัธยาศัย โรงแรมกรุงศรีริเวอร์
18.00 น. รับประทานอาหารมื้อค่ำ และร่วมสังสรรค์สุขสำราญในธีมชุดไทย
ร่วมสนุกเล่นเกมส์ กับ คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล และทีมพิธีกร
ปักหมุด ณ เจดีย์ภูเขาทอง วัดภูเขาทอง มีลักษณะเป็นเจดีย์ภูเขาทองสีขาว ความสูงประมาณ 90 เมตร โดดเด่นสูงใหญ่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา มองเห็นได้ในระยะไกล มีบันไดสีขาวทอดยาวไปถึงยอดพระเจดีย์ ด้านหน้าวัดมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรทรงม้ายิ่งใหญ่งดงามอลังการ ตามประวัติของวัดภูเขาทอง พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองเป็นผู้สร้างเมื่อพ.ศ. 2112 คราวยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาในเวลาที่ประทับอยู่พระนครศรีอยุธยาได้สร้างพระเจดีย์ภูเขาทองใหญ่ แบบมอญขึ้นไว้เป็นที่ระลึกเมื่อคราวรบชนะไทย โดยรูปแบบของฐานเจดีย์มีลักษณะคล้ายกับแบบมอญพม่า สันนิษฐานว่าสร้างเจดีย์องค์นี้ขึ้นเพื่อชัยชนะแต่ทำได้เพียงรากฐานแล้วยกทัพกลับ ครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกอบกู้เอกราชกลับคืนมา
ไขปริศนาวัดวรเชตุเทพบํารุง (นอกเกาะ) อิฐเก่าเล่าเรื่องประวัติศาสตร์อยุธยา กับ ศดร.สุุเนตร ชุตินธรานนท์ ร่วมฟังบรรยายกับวิทยากรรับเชิญกิตติมศักดิ์ ณ สถานที่จริง พร้อมเข้าชมโบราณสถานสำคัญที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมการสร้างเป็นแบบสมัยอยุธยาตอนกลางและตอนปลาย จึงสันนิษฐานว่ามีการสร้างวัดแห่งนี้ในสมัยอยุธยาตอนกลาง แล้วจึงบูรณะปฏิสังขรณ์อีกครั้งในสมัยอยุธยาตอนปลาย วัดวรเชษฐารามนี้ไม่ทราบประวัติการสร้างของวัดแน่ชัด เนื่องจากยังคงเป็นข้อถกเถียงกันในวงวิชาการว่า เป็นวัดที่สมเด็จพระเอกาทศรถสร้างขึ้นบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ สถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพหรือไม่ วัดแห่งนี้มีปรางค์ขนาดใหญ่เป็นเจดีย์ประธาน โดยมีวิหารอยู่ทางทิศใต้ร่วมกับเจดีย์ทรงระฆังขนาดใหญ่ ในขณะที่อุโบสถอยู่ด้านหลังปรางค์ประธาน มีเจดีย์อีก 2 องค์คือ เจดีย์ทรงปราสาท และเจดีย์รายทรงระฆังขนาดเล็กอยู่ทางเหนือของปรางค์ประธาน
รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน กับเมนูไทยโบราณสุดอร่อยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ณ ร้านอาหารศิวิไลซ์อยุธยา ทุกจานถูกรังสรรค์ด้วยความพิถีพิถันโดยเชฟมืออาชีพ เสิร์ฟคู่กับกุ้งเผา ไซส์ใหญ่ เคียงคู่กับน้ำจิ้มรสกลมกล่อม การันตีความอร่อย และทุกเมนูไม่ใส่ผงชูรส
วัดใหญ่ชัยมงคล มีความสำคัญทางประวัติศาตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และมีตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ผู้นับถือศรัทธาเข้ามากราบไหว้ ตามบันทึกระบุไว้ว่าเป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง และต่อมาใน พุทธศักราช 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงทำศึกยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชแห่งพม่าที่ตำบลหนองสาหร่าย เมืองสุพรรณบุรี ทรงสร้างพระเจดีย์ใหญ่ขึ้นที่วัดนี้เป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ ขนานนามว่า "พระเจดีย์ชัยมงคล"
ย้อนรอยต้นปฐมบทของอยุธยา
ณ วัดพุทไธศวรรย์ พร้อมสักการะพระราชอนุสรณ์แห่งการสถาปนากรุงศรีอยุธยา
ตามประวัติศาสตร์กล่าวกันว่าวัดพุทไธศวรรย์เป็นวัดที่สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นสถานที่ตั้งพลับพลาที่ประทับเมื่อครั้งที่ทรงอพยพมาอยู่กรุงศรีอยุธยาในช่วงก่อนที่จะมีการสถาปนา พอหลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ 3 ปี ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้เพื่อเป็นพระราชอนุสรณ์ รวมแล้วจนถึงปัจจุบันมีอายุ 667 ปี โดยมีบันทึกเกี่ยวกับวัดพุทไธศวรรย์ในหลายช่วงตลอดสมัยกรุงศรีอยุธยา
รับประทานอาหารมื้อค่ำร่วมกัน ชมวิวชิลริมน้ำ ณ ร้านแกรนด์เจ้าพระญา หรือเทียบเท่า
เดินทางถึงตึกเนชั่นทีวี บางนา โดยสวัสดิภาพ