เจดีย์หลวงพ่อหนอน
เจดีย์หลวงพ่อหนอน
หาดชลารักษ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านกลาง มีเนื้อที่ 300 ไร่ หาดชลารักษ์อยู่ติดกับหาดบางมะรวด ช่วงเวลาปรกติมีจำนวนผู้ใช้บริการประมาณ 2 ครอบครัวต่อวัน ช่วงเวลาของการท่องเที่ยวคือช่วงเทศกาล
หน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ : องค์การบริหารส่วนตำบล
ลักษณะทั่วไป : พื้นที่ชายฝั่ง มีหาดทรายขาว ล้อมรอบด้วยโขดหินและหุบเขาเตี้ยๆ บนเนินเขานับได้ว่าเป็นสถานที่ชมวิว ที่สวยงาม
การเดินทางและสิ่งที่อำนวยความสะดวก ในการเข้าถึงหาด สามารถเดินทางได้ด้วยรถยนต์สาธารณะ หรือรถยนต์ส่วนบุคคล ตลอดเส้นทางมีป้ายของชัดเจน และไม่เคยพบอุบัติเหตุ
ปัญหาที่ผ่านมา คือ หน่วยงานภายนอกยังไม่มีการช่วยเหลือ ขาดคนดูแล จึงไม่มีการจัดการกับพื้นที่
ข้อเสนอแนะ หรือสิ่งควรปรับปรุง (อนาคต) : ต้องการให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยเน้นในเรื่อง สุขอนามัย บริการเยี่ยม พื้นที่สะอาด และต้องการให้หน่วยงานภายนอกสนับสนุนในเรื่องของงบประมาณ
วัดเทพนิมิต
วัดศรีสุดาจันทร์
วัดศรีสุดาจันทร์ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลบ้านกลาง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 13 ไร่ 3 งาน 22 ตารางวา มีที่ธรณีสงฆ์ 6 แปลง
วัดศรีสุดาจันทร์สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2442 เดิมมีนามว่า วัดฤาษี บ้างระบุว่าชื่อ วัดฤาษีสุดาจันทร์ มีรูปปั้นเจ้าพ่อฤาษีเป็นสัญลักษณ์อยู่ด้วยในขณะนี้ เป็นวัดอยู่ไม่ห่างจากวัดบ้านกลาง หรือ วัดเทพนิมิตร มีชาวไทยมุสลิมตั้งบ้านเรือนอยู่โดยรอบวัด พระสงฆ์ไม่สะดวกในการดำรงชีพ จึงได้ออกมาสร้างวัดศรีสุดาจันทร์ วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2452
อาคารเสนาสนะที่สำคัญ ได้แก่ อุโบสถกว้าง 6.80 เมตร ยาว 16 เมตร โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างตามแบบของกรมการศาสนา กุฏิสงฆ์จำนวน 3 หลัง โครงสร้างเป็นอาคารไม้ยกพื้นสูง และหอสวดมนต์กว้าง 7 เมตร ยาว 14 เมตร สร้าง พ.ศ. 2503 ก่ออิฐถือปูน มีระเบียง และมีเจดีย์หลวงพ่อหนอน บรรจุอัฐิของพระครูศรีเทวะธรรมาชัย อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีสุดาจันทร์ เป็นพระที่ออกบวชในสมัยอยุธยาเป็นราชธานี
ฟาร์มป่าตาเขียว
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2546 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายสหัส บุญญาวิวัฒน์ ผู้ช่วยเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายกิจกรรมพิเศษกราบบังคมทูลถวายรายงานการตรวจสอบพื้นที่สาธารณประโยชน์ป่าตาเขียว เพื่อนำมาจัดทำโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ ในการนี้ ได้มีพระราชดำริว่า “ก็ดีถ้ามีที่ดินที่มีความพร้อมจะได้ทำฟาร์มตัวอย่าง ซึ่งเป็นสถานที่จ้างแรงงานและแนะแนวการประกอบอาชีพให้ราษฎร”
บ้านรักษ์กะลา
บ้านรักษ์กะลา หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านกลาง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี จัดตั้งโดย นายสาเหตุซูไลมัน อันอตับ โดยมีวัตถุประสงค์ให้เด็กๆในหมู่บ้านใช้เวลาว่างหลังจากเลิกเรียนมาร่วมทำกิจกรรมและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ผลิตภัณฑ์ที่นำมาทำสิ่งของจะทำมาจาก "กะลา" ที่มีอยู่ภายในหมู่บ้าน ผลิตภัณฑ์จะมีหลากหลายประเภท เช่น พวงกุญแจ,โคมไฟ,นาฬิกา,ที่เสียบนามบัตร ฯลฯ
ธนาคารปูม้า
หาดแฆแฆ
คำว่า “แฆแฆ” เป็นภาษามลายูท้องถิ่น (ภาษายาวี) มีความหมายว่า อึกทึกครึกโครม เนื่องมาจากในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นท่าเทียบเรือของพ่อค้าที่มาจากอินโดนีเซีย ทำให้มีความคึกคักและจอแจเป็นพิเศษ
ลักษณะเด่นของหาดแฆแฆ เป็นชายหาดที่มีโขดหินแกรนิตขนาดใหญ่กระจายอยู่ตามแนวหาด ดูแปลกตาสวยงาม หาดทรายสีทองตัดกับสีน้ำทะเล มีต้นไม้ริมหาดบางช่วงให้ร่มเงาหลบแดด เหมาะกับการปูเสื่อปิกนิก มีร้านอาหารให้บริการอยู่บ้าง และมีเนินเขาลูกเล็ก ๆ มีทางเดินขึ้นไป สามารถชมทัศนียภาพของหาดแฆแฆและท้องทะเลเบื้องหน้าได้อย่างกว้างไกล นอกจากนี้ ทางตอนเหนือของหาดแฆแฆยังมีชายหาดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น หาดราชรักษ์ หาดมะรวด หาดปะนาเระ เป็นต้น การเดินทาง : จากตัวเมืองปัตตานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ประมาณ 22 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4075 ตรงไปจนสุดทางจะเป็นทางแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4061 ไปตัวอำเภอปานาเระ จนถึงวงเวียนหอนาฬิกาปานาเระ ให้เลี้ยวขวาหลวงหมายเลข 4157 ตรงไปประมาณ 7 กิโลเมตร จะมีทางให้เลี้ยวซ้ายไปอีกราว 500 เมตร ถึงหาดแฆแฆ รวมระยะทางจากตัวเมืองปัตตานีประมาณ 42 กิโลเมตร
หาดปะนาเระ
อยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เส้นทางเดียวกับหาดตะโละกาโปร์ เป็นหมู่บ้านชาวประมงหลายร้อยหลังคาเรือน บนหาดทรายมีเรือกอและ และเรือประมงนานาชนิดจอดเรียงรายอยู่ทั่วทั้งหาด หาดทรายไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ เพราะเป็นหมู่บ้านชาวประมงและที่จอดเรือ
สัมผัสหมู่บ้านประมงที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายหลายร้อยหลังคาเรือน บนหาดทรายที่มีเรือกอและ และเรือประมงนานาชนิดจอดเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณ แม้หาดทรายแถวนี้ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ แต่เพียงแค่เดินเล่นไปตามหมู่บ้าน ชมวิถีชาวบ้าน ก็นับว่าเป็นอะไรที่อิ่มเอมใจมากที่สุดแล้ว