แหล่งเรียนรู้

   เนื่องจากลักษณะสำคัญหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้นมีเรื่องของความรู้ความเข้าใจ และมีเหตุมีผลในการดำรงชีวิต ซึ่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและแนวทางปฏิบัติของทฤษฎีใหม่  เป็นแนวทางการพัฒนาที่นำไปสู่ความสามารถในการพึ่งตนเองในระดับต่างๆ  อย่างเป็นขั้นตอน  โดยลดความเสี่ยงเกี่ยวกับความผันแปรของธรรมชาติหรือการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยต่างๆ โดยอาศัยความพอประมาณและความมีเหตุผลการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี   มีความรู้  ความเพียรและความอดทน สติและปัญญา การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และความสามัคคี โดยที่เศรษฐกิจพอเพียงเป็นกรอบแนวคิดที่ชี้บอกหลักการและแนวทางปฏิบัติของทฤษฎีใหม่ในขณะที่ทฤษฎีใหม่เป็นแนวทางการปฏิบัติภาคเกษตรอย่างเป็นขั้นตอน เป็นตัวอย่างการใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการปฏิบัติ ที่เป็นรูปธรรมเฉพาะในพื้นที่ที่เหมาะสม จะเห็นได้ว่าการที่จะปฏิบัติตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ให้ได้ประสิทธิภาพนั้น จำเป็นที่จะต้องมีศูนย์กลางการเรียนรู้ เพื่อรวบรวม ถ่ายทอดและพัฒนาองค์ความรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

พวกเราจะนำท่านไปทำความรู้จักกับศูนย์การเรียนรู้แหล่งนี้ว่ามีแหล่งการเรียนรู้อะไรบ้างให้ท่านได้ความรู้ไปพัฒนาเเละปรับใช้ในชีวิตประจำวันหรือการสร้างรายได้ท่านที่สนสามารถเข้ามาทำทำความเข้าใจได้เลย

เมื่อท่านเข้ามาก็จะได้เจอกับห่านและเป็นไก่ที่เป็นสัตว์เลี้ยงโดยสามารถได้ไข่นำไปรับประทานหรือขายก็เเละยังสามารถนำไปขายได้ราคาดีเป็นห่านไก่ก็เวลาถ่ายก็เป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้เเละพืชในบริเวณโดยการเลี้ยงจะปล่อยให้อยู่ในพื้นที่

    ต่อมาเราจะมาพบกับสัปรดสีนะครับเป็นพืชไม้ประดับที่เลี้ยงง่ายเหมาะกับการมาสร้างรายได้โดยการเลี้ยงง่ายเพียงรดน้ำสัปดาห์ละครั้งเมื่อเเตกหน่อออกก็สามาถตัดเเละเเบ่งมาเพาะเลี้ยงได้โดนราคาการขายก็มีตั้งเเต่10บาทขึ้นไปโดยราคาก็เเบ่งตามสายพันธ์

ผักกูดที่นี่ก็มีพืชที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้โดยการเพาะสำหรับวิธีการปลูกผักกูดอย่างง่ายคือ หลังจากเก็บผักกูดมาจากธรรมชาติแล้ว ให้คัดแยกต้นใหญ่และต้นเล็กโดยผักกูดต้นใหญ่หรือกอใหญ่ให้แยกกอ เป็นกอละหนึ่งฟรอนด์ก็พอ แล้วค่อยนำไปปลูกในสถานที่ปลูกที่มีความชุ่มชื้น มีร่มรำไร เนื่องจากผักกูดชอบน้ำและที่อากาศเย็น อาจปลูกใกล้ต้นไม้ใหญ่หรือมีการพรางแสงให้อากาศเย็น โดยราคาอยู่ที่ขีดละ10บาท

ไส้เดือนดินเป็นอีก1อย่างที่อยู่ภายในสูนย์การเรียนรู้เเห่งนี้โดยฐานนี้จะเป็นนำไส้เดือนดินมาผลิตปุ๋ยโดยจะทำเศษใบไม้ขี้วัวต่างๆมาใส่รวมกันเเล้วนำไส้เดือนดินมาใส่เพื่อย่อยให้เป็นปุ๋ยเเล้วนำไปใช้กับการเกษตรโดยราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ50บาท

ต่อมาก็จะมาเจอพืชผักสวนครัวโดยตรงนี้ก็จะมีผักสวนครัวมากมายทั้งกะเพรา มะเขือ โหระพา โดยการเลี้ยงจะเลี้ยงโดยใส่วงกบเอาไว้ค่อยรถน้ำเเละใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอเเละผักพวกนี้ก็มีราคาเช่นกันเช่นกะเพรานำไปขายเป็นกำละ10บาท

ตรงก็คือสวนมะม่วงหาวมะนาวโห่โดยการปลูกก็จะเพาะมาจากต้นอ่อนโดนเลี้ยงในตระกร้าซึ้งทำให้มีการระบายน้ำได้ดีโดยการดูเเลคือการรดน้ำใส่ปุ๋ยเป็นประจำโดยผลของมะม่วงหาวมะนาวโห่นำไปขายได้หลายรูปแบบทั้งเเบบสดหรือการนำไปแปรรูปเป็นมะม่วงหาวมะนาวโห่ดองโดยขายถุงละ50บาท

โดยศูนย์การเรียนรู้เเห่งนี้มีสถานที่ให้เรียนรู้เเละศึกษามากม่ายตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงร.9ของเรานักศึกษาท่านใดที่สนใจก็สามารถเข้าไปศึกษาหาความรู้ในการพัฒนาความรู้ได้เลยเรียนเชิญทุกท่านเข้ามาศึกษาได้ที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงkpru