หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (บธ.ม.) สาขาวิชาการจัดการการกีฬา มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Master of Business Administration (M.B.A.) in Sport Management เป็นหลักสูตรใหม่ที่จะเปิดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2568 ณ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ โดยมี 5 ข้อควรรู้สำหรับผู้สนใจสมัครศึกษาต่อดังนี้
1. หลักสูตรฯ นี้เหมาะกับใคร
หลักสูตรฯ นี้ เหมาะสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทุกสาขา ซึ่งยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน และผู้ที่กำลังทำงานในอุตสาหกรรมกีฬาทุกระดับที่ต้องการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะในการจัดการการกีฬา ซึ่งเป็นไปตามผลการวิจัยความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมกีฬา จำนวน 1,200 คน โดยหลักสูตรฯ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตนักจัดการการกีฬาที่เป็นผู้นำด้านวิชาการและวิชาชีพในการจัดการธุรกิจกีฬาให้มีความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมกีฬา โดยมุ่งเน้นการวิเคราะห์ปัญหาในธุรกิจกีฬาเพื่อพัฒนากลยุทธ์สำหรับนำไปจัดการการกีฬาให้เกิดประสิทธิผล โดยมีสโลแกน คือ “วิเคราะห์ปัญหา พัฒนากลยุทธ์ เด่นสุดจัดกีฬา”
สำหรับอาชีพที่ประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษา ประกอบด้วย 1) พนักงานธุรกิจเอกชน ระดับผู้จัดการ ที่ประกอบการด้านการกีฬาและธุรกิจอื่น ๆ 2) นักจัดการกีฬา ระดับสูง ในองค์กรภาครัฐและเอกชน 3) ผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาและธุรกิจอื่น ๆ 4) ข้าราชการหรือพนักงานสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือหน่วยงานด้านการกีฬา รวมทั้งอาชีพอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการการกีฬาในอุตสาหกรรมกีฬา
2. แผนการเรียนของหลักสูตรฯ เป็นอย่างไร
แผนการเรียนของหลักสูตรฯ มี 2 แผน คือ แผน 1 แบบวิชาการ กับ แผน 2 แบบวิชาชีพ โดยแผน 1 ผู้เรียนจะต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชารวม 24 หน่วยกิต และลงทะเบียนเพื่อทำวิทยานิพนธ์ (วิจัย) 12 หน่วยกิต ในขณะที่แผน 2 แบบวิชาชีพ ผู้เรียนจะต้องลงทะเบียนเรียนมากกว่าแผน 1 คือ 33 หน่วยกิต โดยมุ่งเน้นการลงทะเบียนเรียนวิชาเลือกตามที่สนใจ และลงทะเบียนเพื่อทำการค้นคว้าอิสระ 3 หน่วยกิต ซึ่งทั้ง 2 แผนการเรียนจะจัดการเรียนการสอนนอกเวลาราชการคือ วันศุกร์หลัง 16.30 น. และวันเสาร์กับวันอาทิตย์ทั้งวัน
นอกจากนี้ รายวิชาในหลักสูตรฯ มีความใหม่ ทันสมัย และแตกต่างอย่างชิ้นเชิงกับรายวิชาในหลักสูตรบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการการกีฬาของประเทศไทย เช่น การวิเคราะห์บริบทสังคมเศรษฐกิจของธุรกิจกีฬา การจัดการบ่มเพาะความสามารถพิเศษในธุรกิจกีฬา เทคโนโลยีดิจิทัลและโมเดลเศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืนสำหรับการจัดการการกีฬา เป็นต้น
3. อาจารย์ผู้สอนเป็นใครสอนบ้าง
อาจารย์ผู้สอนหลักประกอบด้วย 3 คน ได้แก่ 1) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดิฏฐชัย จันทร์คุณา 2) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อภิวันท์ โอนสูงเนิน และ 3) อาจารย์ ดร.อลงกร นำบุญจิตต์ โดยอาจารย์ผู้สอนทั้ง 3 คน มีผลงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารระดับชาติและนานาชาติรวมกันมากกว่า 20 เรื่อง รวมทั้งมีบทบาทในสมาคมวิชาชีพระดับชาติและนานาชาติเป็นที่ประจักษ์ เช่น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดิฏฐชัย จันทร์คุณา เป็นกรรมการบริหารสมาคมการจัดการกีฬาแห่งประเทศไทย และผู้ตรวจสอบบัญชี (Auditor) ของสมาคมการจัดการกีฬาแห่งเอเชีย (Asian Association for Sport Management: AASM)
4. คุณสมบัติผู้สมัครกับค่าเทอมเป็นอย่างไร
หลักสูตร บธ.ม. สาขาวิชาการจัดการการกีฬา จะรับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีทุกสาขา โดยผู้ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาการจัดการการกีฬาจะต้องลงทะเบียนเรียนวิชาปรับพื้นฐาน และผู้สมัครทุกคนจะต้องมีผลคะแนนการสอบภาษาอังกฤษมาตรฐาน เช่น TOEFL (ไม่น้อยกว่า 400) IELTS (ไม่น้อยกว่า 3.0) CU-TEP (ไม่น้อยกว่า 30) เป็นต้น แต่หากผู้สมัครไม่มีผลคะแนนสอบดังกล่าวสามารถเข้ารับการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษด้วยข้อสอบของมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ชื่อ TNSU English Test และถ้าผ่านคะแนนมากกว่า 35 คะแนน จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับบัณฑิตศึกษา
ค่าเทอมเป็นแบบเหมาจ่าย เทอมละ 25,000 บาท รวม 4 เทอม (2 ปี) เป็นเงิน 100,000 บาท ทั้งนี้ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น เช่น ค่าสมัครสอบคัดเลือก 500 บาท ค่าขึ้นทะเบียนนักศึกษา 1,500 บาท ค่ารักษาสถานภาพนักศึกษา ภาคการศึกษาละ 4,000 บาท หรือค่าดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการทำวิจัยและการค้นคว้าอิสระซึ่งนักศึกษาจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง เป็นต้น
5. มีทุนการศึกษาหรือไม่ อย่างไร
เมื่อเป็นนักศึกษาแล้ว จะได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษาในการขอทุนการวิจัยจากหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนทุนวิจัย เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ทุนวิจัยงบแผ่นดิน / ทุนวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) รวมทั้งเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันและหน่วยงานอื่น เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เป็นต้น นอกจากนี้ นักศึกษาที่คุณสมบัติและผลงานการแข่งขันกีฬาตามที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ กำหนด สามารถขอรับการพิจารณายกเว้นค่าธรรมเนียมการศึกษาได้ในวงเงินสูงสุด 100% อีกด้วย