ประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นท้าทายเรื่อง การพัฒนาการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้แบบฝึกทักษะกระบวนการคิดวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระการเรียนรู้เรื่อง เศรษฐศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/6 โรงเรียนเมืองเลย
๑. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ในสาระที่ 4 เรื่องเศรษฐศาสตร์ ที่ผ่านมาพบว่ายังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากสาเหตุและปัจจัยหลายประการ เช่น หลักสูตร เนื้อหา ครูผู้สอน ผู้เรียน สภาพแวดล้อม ผู้ปกครองการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ตลอดจนเทคนิควิธีสอนของครู นอกจากนี้เนื้อหาตามที่หลักสูตรกำหนดก็เป็นวิชาการมาก อีกทั้งหลักสูตรและวิธีการจัดการเรียนการสอนเน้นความรู้ภาคทฤษฎีและวิธีการบรรยาย ทั้งที่เนื้อหารายวิชาสังคมศึกษาแบ่งออกเป็นสาระต่างๆ ทั้งเศรษฐศาสตร์ ภูมิศาสตร์ศาสนา สังคมเศรษฐกิจและวัฒนธรรม มีเนื้อหาคือ บทบาทหน้าที่การปฏิบัติตน การเคารพตนเอง เคารพผู้อื่น เคารพกติกา มีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งคุณลักษณะดังกล่าวต้องจัดการเรียนการสอนแบบคิดวิเคราะห์ ฝึกฝนผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ของกลุ่มร่วมกัน การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือนับเป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการกลุ่มให้ผู้เรียนได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน เพื่อผลประโยชน์และการเกิดความสำเร็จร่วมกันของกลุ่มซึ่งการเรียนแบบร่วมมือ มิใช่เป็นเพียงการจัดให้ผู้เรียนทำงานเป็นกลุ่ม เช่น การทำรายงานทำกิจกรรมประดิษฐ์หรือสร้างชิ้นงานอภิปรายตลอดจนปฏิบัติการทดลองแล้ว ผู้สอนทำหน้าที่สรุปความรู้ด้วยตนเองเท่านั้น แต่ผู้สอนต้องพยายามใช้ กลยุทธ์วิธีให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการประมวลสิ่งที่ได้มาจากการทำกิจกรรมต่างๆ จัดระบบความรู้สรุปเป็นองค์ความรู้ด้วยตนเองเป็นหลักการสำคัญดังนั้นการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือจะต้องเลือกเทคนิคการจัดการเรียนที่เหมาะสมกับผู้เรียนแล้วผู้เรียนต้องมีความพร้อมที่จะร่วมทำกิจกรรมรับผิดชอบของกลุ่มร่วมกันโดยกลุ่มจะประสบความสำเร็จได้เมื่อทุกคนในกลุ่มได้เรียนรู้ตามวัตถุประสงค์เดียวกันคือการเรียนเป็นกลุ่มหรือเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองการเรียนรู้แบบร่วมมือเป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จโดยผู้เรียนกลุ่มเล็กๆที่มีหน้าที่และมีความสามารถต่างกันใช้กิจกรรมการเรียนที่หลากหลายในการปรับปรุงความเข้าใจเนื้อหาสมาชิกในทีมไม่เพียงจะต้องรับผิดชอบแต่ต้องช่วยเหลือกันในกลุ่มซึ่งบรรยากาศของผลสัมฤทธิ์ในการเรียน
การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ตั้งอยู่บนความเชื่อและหลักการปฏิรูปการเรียนรู้คือเชื่อมั่นในศักยภาพของการเรียนรู้ของผู้เรียนภายใต้การจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญและสอดคล้องกับสภาพจริงในท้องถิ่น กล่าวคือผู้เรียนได้เลือกประเด็นปัญหาที่จะศึกษาด้วยตนเองผู้เรียนเลือกหาวิธีการตลอดจนแหล่งข้อมูลที่หลากหลายลงมือปฏิบัติผู้เรียนได้บูรณาการทักษะประสบการณ์ความรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวสภาพจริงผู้เรียนเป็นผู้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองและเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่น และนำไปใช้ได้ในชีวิตจริงซึ่งมีขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานดังนี้ ขั้นกำหนดความมุ่งหมายขั้นนี้ครูจะต้องเป็นผู้ชี้แนะให้นักเรียนได้ตั้งความมุ่งหมายของนักเรียนว่าจะเรียนเพื่ออะไร เมื่อกำหนดขั้นตอนแล้วเริ่มวางแผนหรือโครงงานนักเรียนจะช่วยกันวางแผนว่าจะทำอย่างไรจึงจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้จะใช้วิธีการใดในการทำกิจกรรมและลงมือดำเนินการเป็นขั้นตอนลงมือทำกิจกรรมหรือลงมือแก้ปัญหาตามแผนที่วางไว้ครูจะคอยส่งเสริมให้นักเรียนได้กระทำได้คิดและตัดสินใจด้วยตนเองมากที่สุดและชี้แนะให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการวัดการทำงานเป็นระยะระยะและประเมินผลนักเรียนเป็นผู้ประเมินผลกิจกรรมหรือโครงงานที่ทำนั้นว่าบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ควรแก้ไขอย่างไร การเรียนรู้แบบโครงงานได้แนะนำวิธีการสอนที่เกือบจะเหมือนชีวิตจริงและสิ่งแวดล้อมในโลกของการทำงานในศตวรรษที่ 21 การเรียนรู้แบบโครงงานเป็นการรวมทักษะที่หลากหลายรวมกันอยู่เป็นทักษะที่มีอยู่ในโลกแห่งความจริงเช่นการตั้งคำถามกระบวนการเสาะแสวงหาความรู้ในเชิงลึกด้วยตนเองการเรียนรู้ที่ให้ความสำคัญเนื้อหาสาระการฝึกฝนกระบวนการคิดการจัดการการเผชิญสถานการณ์การประยุกต์ความรู้มาใช้ปรับปรุงและแก้ไขปัญหาการจัดกิจกรรมท้าทายได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงได้แก่กันให้ความร่วมมือในสถานที่ ที่ทำงาน การทำงานเป็นทีมและคณะกรรมการที่มีความเข้มแข็งฝึกฝนทำได้คิดเป็นทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 ศึกษามาตรฐานและตัวชี้วัดการเรียนรู้ในรายวิชาสังคม ในสาระที่ 4 เรื่องเศรษฐศาสตร์ ตามมาตรฐานการเรียนรู้แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2560
2.2 ออกแบบการเรียนรู้แบบโครงาน (PBL) เพื่อพัฒนาในรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 4 เรื่องเศรษฐศาสตร์
2.3 ประเมินผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน ในสาระที่ 4 เรื่องเศรษฐศาสตร์ โดยการใช้โครงงาน (PBL) สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
2.4 ดำเนินกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ตามแผนที่วางไว้
2.5 ประเมินผลสัมฤทธิ์หลังเรียนในสาระที่ 4 เรื่องเศรษฐศาสตร์ โดยการใช้โครงงาน (PBL) สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปี
ที่ 3
ผลลัพธ์จากประเด็นท้าทาย
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
3.1.1 ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 80 ที่เรียนวิชารายวิชาสังคมศึกษา สาระที่ 4 เรื่องเศรษฐศาสตร์ โดยการใช้โครงงาน (PBL) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น
3.1.2 ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 80 ที่เรียนวิชารายวิชาสังคมศึกษา สาระที่ 4 เรื่องเศรษฐศาสตร์ โดยการใช้โครงงาน (PBL) มีเจตคติที่ดีต่อรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อยู่ในระดับดีขึ้นไป
3.2 เชิงคุณภาพ
3.2.1 ได้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน (PBL) ในรายวิชาสังคมศึกษา สาระที่4 เรื่องเศรษฐศาสตร์ สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3