ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแห่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 15 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชา IS ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 ชั่วโมง /สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ วิชางานไฟฟ้า 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที /สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ วิชาการติดตั้งไฟฟ้าในอาคาร 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 3 ชั่วโมง 20 /สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ วิชางานเชื่อมโลหะ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที /สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ วิชาโครงงานอาชีพ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที /สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม วิชาหน้าที่พลเมือง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 50 นาที /สัปดาห์
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ลูกเสือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 50 นาที /สัปดาห์
ชุมนุม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 จำนวน 50 นาที /สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนโฉมบทบาท “ครู” ให้เป็นครูยุคใหม่ โดยปรับบทจาก “ครูสอน” เป็น “โค้ช” หรือ “ผู้อำนวยการเรียนรู้” ทำหน้าที่กระตุ้น สร้างแรงบันดาลใจ แนะนำวิธีเรียนรู้วิธีการจัดระเบียบสร้างความรู้ เพื่อผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ผู้สอนจึงได้ริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้รายวิชางานเชื่อมไฟฟ้า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 โดยใช้แบบฝึกทักษะการเชื่อมไฟฟ้า ท่าราบ ด้วยวิธีการกลุ่มซึ่งให้ผู้เรียนที่ปฏิบัติได้เป็นพี่เลี้ยง (Mentor) คอยแนะนำ ช่วยเหลือสมาชิกภายในกลุ่ม เพื่อแก้ปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ การเริ่มต้นอาร์ก การรักษาระยะห่างระหว่างลวดเชื่อมกับชิ้นงาน ผู้เรียนบางคนไม่สามารถปฏิบัติได้ ประกอบกับจำนวนผู้เรียนมีมากแต่เครื่องเชื่อมไฟฟ้ามีน้อย ทำให้ผู้เรียนมีเวลาในการฝึกไม่มากพอ ส่งผลให้ผู้เรียนขาดทักษะในการเริ่มต้นอาร์ก และการรักษาระยะห่างระหว่างลวดเชื่อมกับชิ้นงาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเชื่อมไฟฟ้าในการจัดการเรียนรู้ครั้งนี้ครูผู้สอนได้ริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้งานเชื่อมไฟฟ้า ด้วยแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์(Experiential Learning) เพื่อพัฒนาทักษะการเชื่อมไฟฟ้าด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 ผ่านกระบวนการกลุ่ม เพื่อที่จะได้เกิดการช่วยเหลือ แนะนำกันภายในกลุ่ม ผู้เรียนที่ปฏิบัติได้จะเป็นพี่เลี้ยง (Mentor) ให้กับเพื่อนภายในกลุ่ม ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนากระบวนการคิด ทักษะชีวิต และทักษะการทำงาน โดยมีผู้สอนคอยแนะนำให้คำปรึกษา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และยังสามารถสร้างเจตคติที่ดีในการทำงานร่วมกับผู้อื่นให้ดีขึ้นไปพร้อมกัน
วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2561) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองฉางวิทยา สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ รายวิชางานเชื่อมไฟฟ้า เพื่อใช้ในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
2.2 ศึกษาเอกสาร การวิจัยในชั้นเรียน วิชาการศึกษาและแนวคิดที่เกี่ยวกับการสร้างและพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี เพื่อใช้ในการออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน
2.3 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ พัฒนาแบบฝึกทักษะการเชื่อมไฟฟ้า ท่าราบ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6
2.4 สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน
2.5 จัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่กำหนด โดยมีผู้บริหาร หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้หรือครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพร่วมสังเกตการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน และสะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น เพื่อนำผลไปใช้ในการปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้ต่อไป
2.6 ปรับปรุงหรือพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามผลสะท้อนของการจัดการเรียนรู้ และผลการประเมินผลสัมฤทธิ์หลังเรียน
ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 ร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชางานเชื่อมไฟฟ้าอยู่ในระดับดีขึ้นไป
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 ร้อยละ 80 มีทักษะในการเชื่อมไฟฟ้า ปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย สามารถออกแบบ
และสร้างชิ้นงานได้
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 ร้อยละ 100 ได้รับการดูแลช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนการเรียนรู้ และพัฒนาอย่างเต็มตาม ศักยภาพ
3.2 เชิงคุณภาพ
การจัดการเรียนรู้งานเชื่อมไฟฟ้า ด้วยแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์(Experiential Learning) เพื่อพัฒนาทักษะการเชื่อมไฟฟ้าด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 ผู้เรียนมีทักษะการปฏิบัติงานเชื่อมไฟฟ้า ปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย สามารถออกแบบ สร้างชิ้นงานได้ มีเจตคติที่ดีกับการทำงานร่วมกับผู้อื่น ผู้เรียนทุกคนได้รับการช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนการเรียนรู้ และพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ
ลงชื่อ........................................................................
(นายณฐกร ทาคำสุข)
ตำแหน่งครู วิทยฐานะชำนาญการ
ผู้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน
....................../.................../...................