ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านเชิงดอย (ดอยสะเก็ดศึกษา)
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1
รับเงินเดือนในอันดับ คศ.3
อัตราเงินเดือน 46,600
ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ การจัดการศึกษาปฐมวัย
ระดับชั้น อนุบาลปีที่ 2/2
ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
1.ภาระงานจะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 25 ชั่วโมง /สัปดาห์ดังนี้
- กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์
- กิจกรรมสร้างสรรค์ จำนวน 5 ชั่วโมง - นาที/สัปดาห์
- กิจกรรมเสรี/เล่นตามมุม จำนวน 5 ชั่วโมง - นาที/สัปดาห์
- กิจกรรมเสริมประสบการณ์ จำนวน 2 ชั่วโมง 5 นาที/สัปดาห์
- กิจกรรมกลางแจ้ง จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที/สัปดาห์
- กิจกรรมเกมการศึกษา จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที/สัปดาห์
- การพัฒนาทักษะพื้นฐานในชีวิตประจำวัน จำนวน 6 ชั่วโมง 15 นาที/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน......3.......ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน.....1......ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน......3.......ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น(ทั้งนี้ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-based Learning :BBL)
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับปฐมวัยมีเป้าหมายให้เด็กได้พัฒนาคุณลักษณะตามวัย ด้านสติปัญญาต้องให้เด็กได้พัฒนาความสามารถในการถามคำถามเชิงวิทยาศาสตร์ การค้นหาคำตอบด้วยวิธีการต่าง ๆที่เหมาะสมกับวัยซึ่งสอดคล้องกับหลักการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-based Learning:BBL) ที่พบว่าสามารถช่วยให้การเรียนรู้ประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ในระดับปฐมวัยเป็นไปอย่างรวดเร็วจดจำได้มากขึ้น และเด็กเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการใช้สมองเป็นฐานมีหลักจัดประสบการณ์ที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้โดยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองหรือ เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน เป็นการจัดการเรียนรู้ที่นำธรรมชาติการเรียนรู้สมองมาใช้ในการออกแบบการเรียนการสอน ซึ่งจะส่งเสริมให้เด็กเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์โดยจะทำให้เด็กเกิดความสงสัย อยากรู้ รู้จักแก้ปัญหา โดยใช้ความคิด พร้อมทั้งเกิดเจตคติเชิงวิทยาศาสตร์ และเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถช่วยส่งเสริมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เป็นการจัดการเรียนการสอนโดยการผสมผสานสาระความรู้ต่าง ๆ อย่างสมดุล รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมที่ดีงาม
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. สร้างแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยได้ดำเนินการสร้างตามขั้นตอน ดังนี้
1.1) ศึกษาหลักสูตรและคู่มือหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 และตำรางานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
1.2) วิเคราะห์ เลือกและกำหนดกิจกรรมเพื่อนำมาออกแบบแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้
1.3) ออกแบบและสร้างแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-based Learning:BBL)
1.4) นำแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-based Learning:BBL) ที่สร้างขึ้น เสนอต่อที่ประชุมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ(PLC)
1.5) นำแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้ว นำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายในการทดลอง
2 การสร้างแบบประเมินทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัยดำเนินการดังนี้
2.1) ศึกษาเอกสาร ตำรา และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
2.2) สร้างแบบประเมินทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ๔ ด้าน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ทักษะการสังเกต
2. ทักษะการจำแนกประเภท
3. ทักษะการสื่อความหมายข้อมูล
4. ทักษะการลงความคิดเห็นจากข้อมูล
2.3) นำแบบประเมินทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัยที่สร้างขึ้น เสนอต่อชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของวิธีการทดสอบ
2.4) นำแบบประเมินทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัยมาปรับปรุงตามคำแนะนำของกลุ่ม PLC
2.5) ปรับปรุงแบบประเมินทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัยตามคำแนะนำของกลุ่ม PLC
2.6) จัดทำแบบประเมินทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัยฉบับสมบูรณ์ เพื่อนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย
3. รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
- เด็กปฐมวัยระดับอนุบาล 2 ห้อง 2 ร้อยละ 80 ขึ้นไปได้รับการพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-based Learning :BBL)
3.2 เชิงคุณภาพ
- เด็กปฐมวัยมีทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานที่เหมาะสมตามวัย
ลงชื่อ........................................................................
(นางสาวณิชนันทน์ อะโน)
ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ
ผู้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน
.......๑....../..........ตุลาคม......../.......๒๕๖๖........