กิจกรรมแนะแนว
กลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ทำไมต้องจัดกิจกรรมแนะแนว
กิจกรรมแนะแนวเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียน
การจัดกิจกรรมแนะแนว มีขอบข่ายการจัดกิจกรรม๓ ด้าน คือ ด้านการศึกษาด้านอาชีพ และ ด้านส่วนตัวและสังคม ซึ่งการจัดกิจกรรมแต่ละด้านจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ดังนี้
๑.ด้านการศึกษา ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองในด้านการเรียนอย่างเต็มตามศักยภาพ รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีวิธีการเรียนรู้ และสามารถวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างเหมาะสม
๒. ด้านอาชีพ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักตนเองในทุกด้าน รู้และเข้าใจโลกของงานอาชีพอย่างหลากหลาย มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจริต มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพื่อประกอบอาชีพตามที่ตนเองมีความถนัดและสนใจ
๓. ด้านส่วนตัวและสังคม ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนอง รักและเห็นคุณค่าของตนองและผู้อื่น มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีทักษะชีวิต และสามารถปรับตัว ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
ดังนั้น การจัดกิจกกรมแนะแนวจึงจำเป็นต้องจัดให้กับนักเรียนทุกคนอย่างต่อเนื่อง ในทุกระดับชั้น และมีการดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
เรียนรู้อะไรในกิจกรรมแนะแนว
กิจกรรมแนะแนวเป็นกิจกรรมการเรียนรู้มี่ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา อาชีพ ส่วนตัวและสังคม เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และส่งเสริมผู้เรียนให้มีสมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยกำหนดสาระสำคัญในการแนะแนว ดังนี้
1. การรู้จัก เข้าใจ รัก และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น
๑.๑ การรู้จัก เข้าใจ รัก และเห็นคุณค่าในตนเอง ประกอบด้วย การยอมรับและเห็นคุณค่าในรูปลักษณ์ของตนเอง ความภาคภูมิใจในความสามารถของตนเอง การเห็นคุณค่าในความสามารถของ ตนเองที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น การยอมรับคุณลักษณะของตนการรู้จักและเข้าใจค่านิยมในการดำเนินชีวิตของตนเอง การรู้จัก การเข้าใจ เห็นคุณค่าในตนเองและพัฒนาตนเองไปสู่เปาหมายชีวิต
๑.๒ การรู้จัก เข้าใจ และเห็นคุณค่าผู้อื่น ประกอบด้วย การเห็นคุณค่าของบุคคลอื่นละสิ่งต่างๆ ที่มีส่วนเกื้อกุลต่อชีวิตคน ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสิ่งรอบตัว การยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล ความเข้าใจเรื่องความต้องการพื้นฐานทางจิตใจของมนุษย์ ความสำคัญของคนในครอบครัวที่มีส่วนเกื้อกูลต่อชีวิตตน ตลอดจนความสำคัญและคุณค่าของความเป็นไทยที่เกื้อกูลต่อชีวิต
2. การวางแผนด้านการศึกษา อาชีพ และสังคม
2.1 การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจแก้ปัญหา และวางแผนด้านการศึกษา ประกอบด้วยการเรียนรู้คุณค่าของการเรียน และคุณค่ารายวิชาในหลักสูตร การสำรวจจุกเด่น จุดด้อย และระดับความสามารถทางการเรียน การพัฒนาทักษะการเรียนที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาการเรียนและการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการเรียน ตลอดจนการเรียนรู้โลกกว้างการศึกษาต่อและการวางแผนเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายทางการเรียน
2.2.การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจแก้ปัญหา และวางแผนด้านการอาชีพ ประกอบด้วยการเรียนรู้คุณค่าของการประกอบอาชีพสุจริต คุณค่าและความสัมพันธ์ของอาชีพต่างๆในสังคมความสนใจและบุคลิกภาพทางอาชีพของตน การวางแผนเข้าสู่อาชีพที่สอดคล้องกับความสนใจการรู้จักอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน การวางแผนพัฒนาตนเพื่อความสำเร็จในการประกอบอาชีพ ค่านิยมในงานอาชีพ และการวางแผนเข้าสู่อาชีพเป้าหมายในอนาคต
2.3การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจแก้ปัญหา และวางแผนด้านชีวิตและสังคม ประกอบด้วย การรู้จัก การเข้าใจและยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต การฝึกทักษะการแก้ไขปัญหา การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตของตนเอง การร่วมคิดวิเคราะห์ และปัญหาในโรงเรียน ตลอดจนการร่วมคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาในชุมชน และสังคม
3. การปรับตัวและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเหมาะสม และมีความสุข
3.1 ทักษะการจัดการกับอารมณ์แลความเครียด ประกอบด้วยการรู้เท่าทันอารมณ์บวก และลบที่เกิดขึ้นทั้งของตนเองและผู้อื่น การจัดการอารมณ์และการแสดงออกอย่างเหมาะสมการฝึกคิดทางบวกในสถานการณ์ที่เป็นทุกข์หรือไม่พึงพอใจ การจัดการกับความเครียด การจัดลำดับความสำคัญของปัญหา และการมองปัญหาอย่างรอบด้าน
3.2. ทักษะการสื่อสารและสร้างสัมพันธภาพ ประกอบด้วยความสำคัญของการสื่อสารแบบใช้ภาษาและท่าทาง การสื่อสารสองทางเพื่อสร้างสัมพันธภาพและการนำไปใช้ การปฏิเสธและการยืนยันการปฏิเสธในสถานการณ์ที่ไม่ต้องการหรือเป็นภัยต่อชีวิต การฟังทั้งเนื้อหาและความรู้สึก การแสดงออกอย่างเหมาะสม และการสื่อสารเพื่อสร้างสัมพันธภาพตามแนวคิด TA
3.3 ทักษะการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมและปลอดภัยในเรื่องเพศ ประกอบด้วยการเรียนรู้ ความแตกต่างทางเพศและการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างอย่างกัลยาณมิตร โอกาสเสี่ยงเพศและการหลีกเลี่ยงผลกระทบของการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่พร้อมและปลอดภัย การรู้เท่าทัน อารมณ์ ความคิดและความรู้สึกของเพศตรงข้าม ผลกระทบของการมีคู่รักต่อการดำเนินชีวิต การจัดการปัญหาที่เกิดจากความรักอย่างเหมาะสม และการวางแผนการใช้ชีวิตครอบครัวในอนาคตอย่างอบอุ่นและเป็นสุข
3.4 ทักษะการดำรงชีวิตอย่างเป็นประโยชน์และปลอดภัย ประกอบด้วยการเรียนรู้เรื่อง คุณค่าแท้ คุณค่าเทียมของสิ่งต่างๆ การเลือกบริโภค และอุปโภคอย่างพอเพียง หนทางแห่งความเสื่อมและลกระทบที่มีรต่อตนเองและสังคม การปฏิบัติตนตามแบบของคนสู้ชีวิต การบริหารการเงินและเวลาอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด การปฏิบัติตนเพื่อให้ปลอดภัยจากภัยสังคม ตลอดจนการวางวางแผนพัฒนาตนเพื่อการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขและเป็นประโยชน์