ชื่อ-สกุล นางสาวพรทิพย์ คำเพราะ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ยังไม่มีวิทยฐานะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
โรงเรียนนำปลีกศึกษา จังหวัดอำนาจเจริญ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ
รับเงินเดือนใน อันดับ คศ.1
อัตราเงินเดือน 24,500 บาท
ประเด็นท้าทาย เรื่อง"การพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้แบบฝึกทักษะและเทคนิคการสอนคิดวิเคราะห์
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
ในปัจจุบัน การพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษา เนื่องจากเป็นทักษะที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างลึกซึ้ง รวมถึงสามารถแยกแยะข้อมูลที่ถูกต้องจากข้อมูลที่มีอคติหรือคลาดเคลื่อนได้ ด้วยปริมาณข้อมูลที่หลั่งไหลในยุคดิจิทัล ผู้เรียนจึงจำเป็นต้องมีทักษะในการคิดเชิงวิจารณญาณเพื่อให้สามารถนำข้อมูลมาใช้ในการเรียนรู้และแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้เรียนเริ่มพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง จึงควรมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหาหรือสาระสำคัญของบทความ ข้อเขียน และวรรณกรรมได้อย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาทักษะดังกล่าวยังคงเป็นความท้าทายในการจัดการเรียนการสอน เนื่องจากการอ่านเชิงวิจารณญาณต้องอาศัยกระบวนการฝึกฝนที่ชัดเจนและมีระบบ การนำแบบฝึกทักษะเข้ามาใช้ในกระบวนการเรียนการสอนอาจช่วยให้ผู้เรียนได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสมและเป็นระบบ เพื่อให้สามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นการศึกษาผลของการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณต่อการพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย และพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และวิจารณญาณให้กับผู้เรียนในระดับชั้นนี้
เพื่อให้กิจกรรมมีความหลากหลาย ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนฝึกฝนทักษะได้ทุกเวลาจากเทคโนโลยีซึ่งทำให้กิจกรรมน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
การพัฒนาแบบฝึกทักษะ: สร้างแบบฝึกทักษะที่เน้นพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ โดยเน้นการ
ฝึกการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง การตั้งคำถาม การพิจารณาข้อมูลและแหล่งที่มาของข้อมูล รวมถึงการคิดเชิงเหตุผลในการตีความเนื้อหาที่อ่าน
ตรวจสอบความเที่ยงตรงและความเหมาะสมของแบบฝึกทักษะ: นำแบบฝึกทักษะไปให้ผู้เชี่ยวชาญ
ประเมินและปรับปรุง เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องมือมีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิจารณญาณ
พัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่องการอ่านให้เกิดวิจารณญาณ ด้วยการให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้วยการฝึกทักษะการอ่าน ในรายวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน ครูผู้สอนติดตามความก้าวหน้าจากการทำแบบฝึกทักษะ โดยพิจารณาจากทักษะการแก้ปัญหาการอ่านให้ถูกต้อง และในระหว่างการพัฒนา ครูผู้สอนนำปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้บริหาร ครูผู้สอนต่างกลุ่มสาระการเรียนรู้เพื่อที่จะหาแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้
1. จัดเก็บข้อมูลสารสนเทศผู้เรียน เพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหา
2. จัดทำแผนการสอน ที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด
3. ออกแบบ แบบฝึกทักษะ
4. นักเรียนศึกษาใบกิจกรรมจากแบบฝึกทักษะที่ครูสร้างขึ้น
5. ทบทวนความรู้เดิม และเพิ่มเติมความรู้ใหม่
6. สร้างการเรียนรู้ร่วมกันด้วยการแบ่งกลุ่ม (แบบสุ่ม) และกระตุ้นความสนใจด้วยการจัดการแข่งขัน
7. ฝึกปฏิบัติกิจกรรม ทำแบบทดสอบหลังเรียนจากแบบฝึกทักษะ
8. สังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ในกิจกรรมในชั้นเรียน
9. นักเรียนทำแบบประเมินความพึงพอใจ
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนน้ำปลีกศึกษา จำนวน 76 คน ร้อยละ 75 ที่เรียนในรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน มีผลการพัฒนาทักษะการอ่านที่สูงขึ้นและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 (เกรด 3) เป็นไปตามเป้าหมายของโรงเรียน
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนน้ำปลีกศึกษา มีความรู้ ความสามารถและมีทักษะการอ่านที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่ผู้เรียน ที่จะนำไปต่อยอดการเรียนรู้ในรายวิชาอื่น ๆ ตลอดจนประโยชน์ในการทำแบบทดสอบและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป
แผนภูมิแสดงผลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนน้ำปลีกศึกษา จำนวน 76 คน ที่ใช้การพัฒนาทักษะด้านการอ่านวิชาภาษาไทย เรื่องการอ่านให้เกิดวิจารณญาณสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป และเทคนิคการสอนแบบคิดวิเคราะห์ ผลปรากฏว่า มีจำนวนนักเรียนที่ผ่านการประเมินจำนวน 63 คน คิดเป็นร้อยละ 82.89 และนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 17.11 เป็นไปตามข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน นักเรียนร้อยละ 75 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 (เกรด 3)
สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘