1. พันธุ์ศรีสะเกษ 60-1
พัฒนาสายพันธุ์ขึ้นโดยศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ มีลักษณะเด่น คือ ทรงพุ่มแน่นทึบ ออกดอกเร็วในช่วงเดือนพฤศจิกายน อายุเก็บผลผลิต 90-95 วัน หลังจากดอกบาน ผลเทียมค่อนข้างป้อม และรี เปลือกผลมีสีแดงเข้ม ส่วนเมล็ดมีสีเทา น้ำหนักเมล็ดรวมเปลือกประมาณ 158 เมล็ด/กิโลกรัม หากเริ่มเก็บผลตั้งแต่ 3 ปี แรกหลังปลูก และเก็บผลนาน 8 ปี สามารถให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 12.25 กิโลกรัม/ต้น/ปี เมล็ดดีให้เนื้อเมล็ดหลังกะเทาะเปลือก ประมาณ 27 % มีปริมาณเมล็ดเสียประมาณ 11 % เมล็ดส่วนมากจัดอยู่ในเกรด 3 ของมาตรฐาน ทั้งนี้ จัดเป็นพันธุ์ที่ทนต่อโรคได้ดี
2. พันธุ์ศรีสะเกษ 60-2
เป็นพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นโดยศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษเช่นกัน มีลักษณะเด่น คือ ลำต้นมีทรงพุ่มค่อนข้างโปร่ง อายุเก็บผลผลิต 100 –110 วัน หลังจากดอกบาน ผลเทียมมีลักษณะรียาว เปลือกผลมีสีชมพูอมเหลือง เมล็ดแท้มีสีน้ำตาลอมแดง น้ำหนักเมล็ดรวมเปลือกประมาณ 138 เมล็ด/กิโลกรัม หากเริ่มเก็บผลตั้งแต่ 3 ปี แรกหลังปลูก และเก็บผลนาน 8 ปี สามารถให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 12.25 กิโลกรัม/ต้น/ปี สามารถให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 9.4 กิโลกรัม/ต้น/ปี เมล็ดดีให้เนื้อเมล็ดหลังกะเทาะเปลือก ประมาณ 25% มีปริมาณเมล็ดเสียประมาณ 25% เมล็ดส่วนมากจัดอยู่ในเกรด 3 ของมาตรฐาน พันธุ์นี้ จัดเป็นพันธุ์ที่ทนต่อโรคได้ดี และจะออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม
3. พันธุ์ศิริชัย 25
เป็นพันธุ์ที่ค้นพบโดย บริษัท มาบุญครองศิริชัยมะม่วงหิมพานต์ จำกัด ในปี 2525 บริเวณจังหวัดจันทบุรี และได้เพิ่มปริมาณการปลูกมากขึ้นในช่วงปี 2528-2533 มีลักษณะเด่น คือ ลำต้นมีทรงพุ่มครึ่งวงกลมหรือรูปร่ม ผลเทียมมีสีแดงเข้ม เมล็ดมีขนาดใหญ่ น้ำหนักเมล็ดรวมเปลือกประมาณ 154 เมล็ด/กิโลกรัม เมล็ดดีให้เนื้อเมล็ดหลังกะเทาะเปลือกค่อนข้างสูง ประมาณ 34%
4. พันธุ์เกาะพยาม
เป็นพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ในจังหวัดระนอง พบปลูกมากที่ ต. เกาะพยาม มีลักษณะเด่น คือ ผลเทียมมีสีเหลือง และอมแดงจางๆ เมล็ดแท้มีสีน้ำตาลอมเทา รูปร่างเมล็ดอวบใหญ่ ขนาดเมล็ดใหญ่ น้ำหนักเมล็ดรวมเปลือกประมาณ 100-110 เมล็ด/กิโลกรัม เมล็ดดีให้เนื้อเมล็ดหลังกะเทาะเปลือก ประมาณ 25% ปริมาณผลผลิตเฉลี่ย 5 ปี ประมาณ 4 กิโลกรัม/ต้น/ปี