ตอนเช้าเวลา 6:45 น. นาฬิกาปลุกในโทรศัพท์มือถือส่งเสียงปลุกผม ผมหยิบมือถือเดินไปห้องครัวด้วยความกระตือรือร้นที่จะเริ่มต้นวันใหม่พร้อมกับอ่านอีเมลและข้อความแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊กไปด้วย เครื่องรับสัญญาณจีพีเอสในมือถือกับระบบไวไฟตรวจจับการเคลื่อนตำแหน่งได้ จึงบันทึกการเคลื่อนที่สองสามเมตรไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของผม ขณะรินกาแฟแล้วเริ่มตื่นอย่างเต็มที่ มาตรความเร่ง (accelerometer) ในโทรศัพท์มือถือก็คอยตรวจจับความเร็วในการเดินของผม ส่วนมาตรวัดความดันบรรยากาศก็สามารถตรวจจับได้ว่าผมเดินขึ้นไปอยู่ชั้นบนแล้ว ด้วยแอปมากมายของกูเกิล (Google) ที่ติดตั้งในโทรศัพท์มือถือ กูเกิลจึงมีบันทึกของข้อมูลทั้งหมดนี้
เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จ ผมก็พร้อมที่จะเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด บริษัทผู้ให้บริการไฟฟ้าได้ติดตั้งมิเตอร์แบบ “สมาร์ต” เอาไว้ในบ้านผม ซึ่งมันจะตรวจจับการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงเมื่อผมปิดไฟและถอดสายอุปกรณ์มือถือ พอเปิดประตูโรงรถปุ๊บ มิเตอร์ก็ตรวจจับการใช้ไฟอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะนั้นอีก ดังนั้นเมื่อถึงตอนที่ผมถอยรถออกสู่ถนน ผู้ให้บริการไฟฟ้าก็มีข้อมูลเพียงพอที่จะรู้ว่าผมออกจากบ้านแล้ว แล้วพอสัญญาณมือถือของผมถูกเปลี่ยนไปยังเสาสัญญาณต้นใหม่ ทีนี้ผู้ให้บริการโทรศัพท์ก็รู้ไปด้วยอีกราย
กล้องตัวหนึ่งที่ติดตั้งไว้ตรงหัวมุมถนนถ่ายป้ายทะเบียนรถของผมไว้ เผื่อว่าผมจะขับฝ่าไฟแดงอะไรอย่างนี้ แต่โชคดีที่วันนั้นผมทำตัวดี มันจึงไม่มีใบสั่งไปรอผมอยู่ในตู้รับจดหมายที่บ้าน อย่างไรก็ดี ในขณะที่ผมขับรถไปเรื่อยๆ ป้ายทะเบียนของผมก็ถูกถ่ายภาพครั้งแล้วครั้งเล่า โดยกล้องบางตัวเป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่บางตัวก็เป็นของบริษัทเอกชนที่จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุรูปแบบการจราจร...แล้วนำไปขายให้กรมตำรวจ ผู้พัฒนาที่ดิน รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่สนใจ
เมื่อถึงมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ผมจ่ายค่าจอดรถด้วยแอปอีซีพาร์ก(EasyPark) ในโทรศัพท์มือถือ เงินถูกตัดจากบัญชีธนาคารโดยอัตโนมัติ ทีมงานที่ดูแลลานจอดรถของมหาวิทยาลัยจะได้รับแจ้งว่าผมจ่ายเงินแล้ว ทีนี้ทั้งมหาวิทยาลัยและธนาคารต่างก็รู้กันหมดว่าผมมาถึงวิทยาเขตตอน 9:03 น. พอโทรศัพท์ของผมหยุดเคลื่อนที่ไปพร้อมกับรถยนต์ กูเกิลก็อนุมานว่านี่คือจุดที่ผมจอดรถแล้วทำการบันทึกตำแหน่ง เผื่อว่าถ้าผมหารถไม่เจอในภายหลัง ผมจะได้เปิดมือถือขึ้นมาดูได้ว่ารถอยู่ตรงไหน ถึงเวลาตรวจสอบแอปเมโทรไมล์ (Metromile) ของบริษัทประกันแล้ว แอปนี้จะดึงข้อมูลการขับขี่ของผมจากระบบวิเคราะห์การเดินทางที่ติดตั้งมากับตัวรถมันช่วยให้ผมเห็นทันทีว่าประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของผมลดต่ำลงในวันนี้...คือสิบเก้าไมล์ต่อหนึ่งแกลลอน...เท่ากับผมเสียค่าน้ำมันไป 2.05 เหรียญในการเดินทางเช้านี้
หลังเลิกงานที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ผมมีแผนว่าจะไปพบเพื่อนใหม่คนหนึ่งที่เมืองซานฟรานซิสโก ก่อนหน้านี้เราได้พบกัน “แบบเสมือน” ตอนไปร่วมตอบคอมเมนต์ในโพสต์เฟซบุ๊กของเพื่อนที่รู้จักร่วมกัน และต่างชื่นชอบความคิดเห็นของอีกฝ่าย ปรากฏว่าเราสองคนมีเพื่อนที่รู้จักร่วมกันบนเฟซบุ๊กมากกว่าสามสิบคน เป็นเหตุผลอันเกินพอให้เราสองคนนัดพบกัน
กูเกิลแมปส์ (Google Maps) พยากรณ์ว่าผมจะไปถึงบ้านของเพื่อนใหม่คนนี้เวลา 19:12 น. ซึ่งการพยากรณ์นี้ก็ถูกต้องเช่นเคย โดยมีความคลาดเคลื่อนเพียงสองหรือสามนาที ปรากฏว่าเพื่อนผมคนนี้อาศัยอยู่ชั้นบนของร้านที่ขายผลิตภัณฑ์ยาสูบ รวมถึงของกระจุกกระจิกที่ใช้สำหรับการสูบกัญชา เครื่องรับสัญญาณจีพีเอสในสมาร์ตโฟนของผมไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างส่วนอยู่อาศัยชั้นบนกับร้านค้าชั้นล่าง เท่าที่ผู้ให้บริการมือถือและกูเกิลทราบว่า ผมใช้เวลาช่วงท้ายของวันไปกับการเดินซื้อของในร้านใบยาสูบ...และที่ผมรู้อย่างนี้ก็เพราะดูจากโฆษณาที่กูเกิลเลือกมาแสดงให้ผมเห็นในขณะที่ผมเปิดดูพยากรณ์อากาศก่อนเข้านอน