วาฬฟินพบได้ในทะเลเปิดและมหาสมุทรเขตร้อนและเขตอบอุ่นทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง[4] และมีหลักฐานที่พบเพียงตัวอย่างเดียว เป็นซากโครงกระดูกขุดพบเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2538 ที่หมู่บ้านวิจิตราธานี กิโลเมตรที่ 36 จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นซากโครงกระดูกที่มีขนาดตัวยาวประมาณ 22 เมตร ถูกฝังอยู่ในโคลนนานมากจนบางส่วนเป็นฟอสซิลแล้ว ประมาณจากช่วงอายุที่สามารถเกิดเป็นฟอสซิลได้อยู่ในราวเกือบ 1,000 ปี ส่วนหัวยาว 5 เมตร ซากถูกฝังอยู่ในพื้นที่ของโครงการวิจิตราธานี ซึ่งอยู่ห่างจากปากแม่น้ำไม่น้อยกว่า 3 กิโลเมตร ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ จึงเชื่อแน่ว่าบริเวณนี้เคยเป็นแนวฝั่งทะเลมาก่อน และจะนำโครงกระดูกไปหาอายุโดยวิธีวิเคราะห์สารคาร์บอน 14 ต่อไป ปัจจุบันซากถูกเก็บรักษาไว้ที่โครงการวิจิตราธานี[3]
วาฬฟินพบได้ในทะเลเปิดและมหาสมุทรเขตร้อนและเขตอบอุ่นทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง[4] และมีหลักฐานที่พบเพียงตัวอย่างเดียว เป็นซากโครงกระดูกขุดพบเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2538 ที่หมู่บ้านวิจิตราธานี กิโลเมตรที่ 36 จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นซากโครงกระดูกที่มีขนาดตัวยาวประมาณ 22 เมตร ถูกฝังอยู่ในโคลนนานมากจนบางส่วนเป็นฟอสซิลแล้ว ประมาณจากช่วงอายุที่สามารถเกิดเป็นฟอสซิลได้อยู่ในราวเกือบ 1,000 ปี ส่วนหัวยาว 5 เมตร ซากถูกฝังอยู่ในพื้นที่ของโครงการวิจิตราธานี ซึ่งอยู่ห่างจากปากแม่น้ำไม่น้อยกว่า 3 กิโลเมตร ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ จึงเชื่อแน่ว่าบริเวณนี้เคยเป็นแนวฝั่งทะเลมาก่อน และจะนำโครงกระดูกไปหาอายุโดยวิธีวิเคราะห์สารคาร์บอน 14 ต่อไป ปัจจุบันซากถูกเก็บรักษาไว้ที่โครงการวิจิตราธานี[3]