วันคริสต์มาส (Christmas) เป็นหนึ่งในวันสำคัญทางศาสนาคริสต์และวันเฉลิมฉลองที่มีความหมายลึกซึ้งทั้งในด้านศาสนาและวัฒนธรรมทั่วโลก เป็นวันที่ระลึกถึง การประสูติของพระเยซูคริสต์ ผู้ที่คริสต์ศาสนิกชนเชื่อว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของมนุษยชาติ
การเฉลิมฉลองการมาของพระเยซู:
วันคริสต์มาสแสดงถึงความรักของพระเจ้าที่ส่งพระเยซูมาเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากบาป
พระเยซูทรงถือกำเนิดในลักษณะที่เรียบง่ายและต่ำต้อยในคอกสัตว์ในเมืองเบธเลเฮม เป็นสัญลักษณ์ของความถ่อมตนและความหวัง
การแบ่งปันความสุขและความรัก:
เป็นโอกาสสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูงในการรวมตัวกัน
การให้ของขวัญ การร้องเพลงคริสต์มาส และการแสดงน้ำใจต่อกันเป็นธรรมเนียมที่ได้รับการสืบทอดมายาวนาน
สัญลักษณ์ของแสงสว่างในความมืด:
วันคริสต์มาสยังเปรียบได้กับการมาของแสงสว่างที่นำความหวังมาสู่โลก
ความหมายทางประวัติศาสตร์:
ไม่มีการบันทึกวันประสูติที่แน่นอนของพระเยซูในพระคัมภีร์ไบเบิล
วันที่ 25 ธันวาคมถูกกำหนดขึ้นในศตวรรษที่ 4 โดยคริสตจักรในกรุงโรม เพื่อแทนที่เทศกาลฤดูหนาวของชาวโรมัน (Saturnalia) และการบูชาดวงอาทิตย์ (Sol Invictus)
การแพร่ขยายของเทศกาล:
วันคริสต์มาสแพร่ขยายจากยุโรปไปทั่วโลก พร้อมทั้งประเพณีต่าง ๆ เช่น การประดับต้นคริสต์มาส การตกแต่งบ้านด้วยไฟ และการร้องเพลงสรรเสริญ (Caroling)
องค์ประกอบทางศาสนาและวัฒนธรรม:
ชาวคริสต์นิกายต่าง ๆ เช่น คาทอลิกและโปรเตสแตนต์จัดพิธีมิสซาในโบสถ์เพื่อรำลึกถึงการประสูติของพระเยซู
ในบางประเทศ วันคริสต์มาสยังรวมเอาธรรมเนียมพื้นบ้าน เช่น ซานตาคลอส (Saint Nicholas) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลอง
ต้นคริสต์มาส: สัญลักษณ์ของชีวิตนิรันดร์และความหวัง
ดาว: สื่อถึงดาวเบธเลเฮมที่นำทางโหราจารย์ไปหาพระเยซู
ซานตาคลอส: ตัวแทนของการให้และความใจดี
ของขวัญ: สื่อถึงของที่โหราจารย์นำมามอบแด่พระเยซู (ทองคำ กำยาน และมดยอบ)
วันคริสต์มาส จึงเป็นทั้งการเฉลิมฉลองในมิติของความเชื่อทางศาสนาและการแสดงความรักต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง.