สภาพที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอคำตากล้า เป็นหนึ่งในสิบแปดอำเภอของจังหวัดสกลนคร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดสกลนคร อยู่ห่างจากตัวจังหวัดสกลนครเป็นระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร โดยทางรถยนต์เป็นระยะทางประมาณ 760 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 402 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 251,250 ไร่ โดยมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอต่างๆ ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อเขตอำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ
ทิศตะวันออก ติดต่อเขตอำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร
ทิศใต้ ติดต่อเขตอำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร
ทิศตะวันตก ติดต่อเขตอำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร
คำขวัญประจำอำเภอ
“ดินดำน้ำชุ่ม ปลาชุมข้าวงาม น้ำสงครามยิ่งใหญ่ สาวภูไทสุดสวย เลอล้ำด้วยวัฒนธรรม ถิ่นน้อมนำหลักธรรมะ”
อำเภอคำตากล้าประกอบไปด้วย 4 ตำบลดังนี้
1. ตำบลคำตากล้า
2. ตำบลหนองบัวสิม
3. ตำบลนาแต้
4. ตำบลแพด
ประวัติและความเป็นมาอําเภอกุดบาก
ชนที่อพยพเข้ามาอยู่ใกล้แม่น้ำสงคราม และใกล้หนองคำมีหลายกลุ่ม คือ กลุ่มนามสกุล “ศรีสุราช” “อุประ” “บุตรละคร” “หงษ์คละ” “โคตรชมภู” “หล้าหิบ”
ทั้งหมด เป็นชนเผ่า”ผู้ไท” ที่มาจากเมืองบก เมืองวัง อั่งค่ำ ประเทศลาวบริเวณแขวงคำเกิดคำม่วนหรือเมืองบ่อในปัจจุบันนี้ อพยพมาเนื่องจากความแห้งแล้ง ต่างก็ข้ามแม่น้ำโขงมาขึ้นฝั่งที่ จังหวัด นครพนม คือ อำเภอเรณูนคร จังหวัดมุกดาหาร ที่อำเภอคำชะอี และอพยพ ไปกาฬสินธุ์ ที่อำเภอเขาวง
“ผู้ไท” อยู่คำตากล้า อพยพมาจาก หลายที่ดังนี้
จากเมืองเว (อำเภอเรณูนคร) คือกลุ่มนามสกุล ศรีสุราช
จากคำชะอี (อำเภอคำชะอี) คือกลุ่มนามสกุล อุประ
กลุ่มที่อพยพมาจากเมืองเวนับว่าเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดมีผู้นำและมีประวัติความเป็นมา และมีหลักฐานอ้างอิงได้ ชัดเจนดังนี้
เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2420 อยู่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5(ครองราชย์ พ.ศ. 2411-2453) ได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานรกรากอยู่เมืองเว แขวงไทรบุรี(อำเภอเรณูนคร จ.นครพนม) ซึ่งเป็นถิ่นของกลุ่มผู้ไทจากเมืองบกเมืองวังอพยพมาตั้งรกรากอยู่ก่อนแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2369 ตอนต้นรัชกาลที่ 3 และตั้งเป็นอำเภอเรณูนครอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2373
ขณะนั้นพี่ชายคนโตของกลุ่ม ชื่อ “ท้าวสีหราช” เป็นผู้มีความสามารถ มีปัญญาเฉียบแหลม จึงได้สมัครเป็นทหาร ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นจนมีความดีความชอบได้รับแต่งตั้งเป็น “หลวงคำมุงคุณอาณาเขต” เป็นกรมการเมืองเว ต่อมาเกิดศึกสงครามทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง หลวงคำมุงคุณอาณาเขต ได้รับคำสั่งให้นำกองทัพไปปราบ แต่ไปแพ้สงครามกลับมา สาเหตุที่แพ้สงครามนั้น เพราะเกิดหดหู่ใจ เนื่องจากในขณะที่ทำการรบนั้น ท่านได้ฆ่าฟันสตรี ซึ่งปกตินักรบโบราณจะไม่ให้คมดาบเปื้อนเลือดสตรีโดยไม่จำเป็น
ด้วยเหตุนี้ จำงทำให้เกิดท้อแท้ใจ พาทหารหนีกลับ ทางราชการถือว่ามีความผิด จึงมีคำสั่งปลดจากกรมการเมืองเว หลวงคำมุงคุณอาณาเขต เกิดความเสียใจอย่างยิ่ง หากขืนอยู่ไปก็อับอาย ลูกน้องบริวาร จึงได้พาญาติพี่น้องอพยพหนีให้ไกลจากถิ่นเดิม ญาติพี่น้องที่ติดตามกันมามีดังนี้
ท้าวสีหราช(หลวงคำมุงคุณอาณาเขต) ,ท้าวก่ำ,ท้าวเหล็ก,ท้างกาลู,ท้าวต้อ,ท้าวไต,ท้าวม้าว,นางแพง และนางจอม ในขณะที่อพยพมานั้น มีช้าง 7 เชือก ม้า 11 ตัว วัวต่าง 14 ตัว มาพักอยู่บริเวณอำเภอพรรณานิคม ชั่วระยะหนึ่ง แล้วได้อพยพต่อมา ทำไร่ทำนาอยู่ที่บ้านนาบัวนาเหลือง คือตำบลหนองแวงขณะนี้ ต่อมาการทำมาหากินอัตคัดฝืดเคือง เนื่องจากอยู่ห่างไกลลำน้ำ จึงได้อพยพมาอยู่ที่บ้านท่ากกแดง อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ขณะนี้ เมื่ออยู่ที่บ้านท่ากกแดง ไม่สะดวกในการทำนา จึงได้อพยพข้ามฝั่งน้ำสงครามมาตั้งเป็นหมู่บ้านคำตากล้า
เมื่อ พ.ศ. 2456 รัชกาลที่ 6 โปรดให้ตราพระราชบัญญัตินามสกุล จึงด้จดทะเบียนนามสกุล เมื่อ วันที่ 21 เดือนเมษายน พ.ศ. 2459 โดย อำมาตย์โทพระสุนทรศักดิ์ ข้าหลวงประจำจังหวัดสกลนคร เป็นผู้แต่งตั้งอาศัยนามต้นตระกูลสีหราช เปลี่ยนเป็น ศรีสุราช(ซึ่งแผลงมาจาก สีหราช ชื่อเดิมของหลวงคำมุงคุณอาณาเขต) เมื่อท้าวสีหราชถึงแก่กรรม ได้ตั้งให้ท้าวกาลูเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน โดยบ้านคำตากล้าขึ้นกับตำบลคูสะคาม อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนครเมื่อ พ.ศ. 2459 ได้แยกออกจากตำบลคูสะคาม เป็นตำบลคำตากล้า นายไกรษร ศรีสุราช บุตรคนที่ 4 ของหลวงคำมุงคุณอาณาเขต ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกำนันคนแรกของตำบลคำตากล้า มีบรรดาศักดิ์เป็น”ขุนศรีสุรเกษม”
วันที่ 1 ตุลาคม 2463 ตั้งโรงเรียนบ้านคำตากล้าทำการสอนที่วัดศรีบุญเรือง
การตั้งโรงเรียนครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2463 นั้นมี ขุนศรีสุรเกษม ( นายไกรษร ศรีสุราช ) กำนันตำบลคำตากล้าในสมัยนั้นเป็นผู้อุปการะโรงเรียน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2483 ได้ย้ายสถานที่เรียนจากศาลาการเปรียญวัดศรีบุญเรือง มาอยู่ที่อาคารเรียนใหม่ที่สร้างขึ้นในที่ดินของโรงเรียนเองและ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ โรงเรียนบ้านคำตากล้า (คำตากล้าราชประชานุกูล) ” ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2499 ทางราชการมีความประสงค์ที่จะให้โรงเรียนมีชื่อที่เหมาะสมกับกาลสมัย จึงได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น
“ โรงเรียนบ้านคำตากล้า ” ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนอนุบาลคำตากล้า"
ปีพ.ศ. 2517 ตำบลคำตากล้าได้รับการยกฐานะให้เป็นกิ่งอำเภอคำตากล้า และเป็นอำเภอคำตากล้าจนถึงปัจจุบันนี้