“ขนมดอกดิน"
ขนมดอกดิน เป็นขนมไทยโบราณพื้นบ้านที่หาทานได้ยาก มักมีให้รับประทานเพียงปีละครั้งในช่วงฤดูฝน (ประมาณเดือนสิงหาคม–ตุลาคม) เนื่องจากต้องรอให้ "ดอกดิน" ซึ่งเป็นพืชกาฝากป่าบานก่อนจึงจะเก็บมาทำได้
ลักษณะเด่น
สีสัน: ขนมมีสีน้ำเงินเข้มเกือบดำหรือสีม่วงคล้ำ ซึ่งได้จากสีธรรมชาติของดอกดิน (สาร Aucubin) เมื่อถูกอากาศจะเปลี่ยนเป็นสีเข้ม
รสชาติ: มีรสหวานมัน หอมกลิ่นดอกดินและกะทิ เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มหนึบหนับคล้ายขนมกล้วยหรือขนมน้ำดอกไม้
วัตถุดิบหลัก: ดอกดินสดหรือตากแห้ง, แป้งข้าวเหนียว, แป้งมัน, กะทิ, น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ และมะพร้าวทึนทึกขูดสำหรับโรยหน้า
วิธีการทำโดยสังเขป
เตรียมดอกดิน: นำดอกดินสดมาล้างสะอาด โขลกหรือปั่นให้ละเอียดแล้วกรองเอาแต่น้ำ (หรือผสมทั้งกากดอกดินในแป้งตามสูตร)
ผสมแป้ง: นวดแป้งข้าวเหนียวและแป้งมันกับน้ำดอกดิน ค่อยๆ เติมกะทิและน้ำตาล นวดจนเข้ากันเป็นเนื้อเนียน
การนึ่ง: หยอดส่วนผสมลงในถ้วยตะไลหรือถาด โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูดผสมเกลือ แล้วนำไปนึ่งจนสุก แป้งจะเปลี่ยนเป็นสีเข้มใส
ประโยชน์และสรรพคุณ
นอกจากนำมาทำขนมแล้ว ดอกดินยังมีสรรพคุณทางยาในตำรับโบราณ เช่น ช่วยขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้เจ็บคอ และมีการศึกษาวิจัยพบว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
ปัจจุบันขนมชนิดนี้ยังพอหาทานได้ในแถบจังหวัดภาคกลางตอนบนและภาคเหนือตอนล่าง เช่น สุโขทัย, พิจิตร, กำแพงเพชร และพิษณุโลก ซึ่งเป็นแหล่งที่มีดอกดินขึ้นตามธรรมชาติบนเขาหรือใต้ต้นไผ่
ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นางสาวเหมือนฝัน มีสวัสดิ์
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นางสาวเหมือนฝัน มีสวัสดิ์