7. เหตุใดโรงเรียนจึงต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โรงเรียนมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ท่านสมัครเรียน สมัครสอบ เข้าร่วมกิจกรรม หรือระหว่างนักเรียนศึกษาในโรงเรียน เนื่องจาก โรงเรียนต้องใช้ข้อมูลเพื่อประกอบการปฏิบัติหน้าที่ของโรงเรียนตามสัญญา และต้องส่งข้อมูลให้หน่วยงานของรัฐเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาของนักเรียน โดยหากนักเรียนและผู้ปกครองไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่โรงเรียน อาจมีผลกระทบต่อหน้าที่ของโรงเรียนตามกฎหมาย หรืออาจทำให้โรงเรียนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้อย่างถูกต้อง และ/หรือ อาจทำให้มีข้อขัดข้อง ไม่สมบูรณ์ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อตกลงเงื่อนไขในสัญญาระหว่างโรงเรียนกับท่านได้ หรือในบางกรณีโรงเรียนอาจไม่สามารถอนุญาตให้ท่านลงทะเบียนเรียนได้ ซึ่งในกรณีดังกล่าวโรงเรียนอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการลงทะเบียนเรียน หรือแจ้งข้อจำกัดบางประการอันอาจเกิดจากการไม่ได้รับข้อมูลจากนักเรียนและผู้ปกครอง (แล้วแต่กรณี)
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่โรงเรียนขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีความเป็นอิสระในการให้ความยินยอม โดยโรงเรียนจะไม่กำหนดเงื่อนไขในการให้ความยินยอม มาเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติหน้าที่ของโรงเรียนตามสัญญา ซึ่งท่านสามารถมั่นใจได้ว่าโรงเรียนจะใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่โรงเรียนกำหนด หรือที่ได้รับความยินยอมจากท่านเท่านั้น โดยในกรณีที่โรงเรียนจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือ วัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับที่กำหนด โรงเรียนจะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และประกาศให้ท่านทราบทางเว็ปไซต์หรือมีหนังสือไปยังท่านทางอีเมลเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว
8. โรงเรียนแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือไม่
โรงเรียนจะแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลตามความยินยอมที่ท่านให้ไว้ และตามวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลอื่น โรงเรียนจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยโรงเรียนจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการที่ปลอดภัยและเป็นความลับ และจะไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่โรงเรียนได้กำหนดไว้ ซึ่งโรงเรียนอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคล หรือองค์กร ดังต่อไปนี้
1. ผู้ให้บริการและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงเรียน มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่โรงเรียน ในการให้บริการต่าง ๆ รวมถึงผู้ที่ทำหน้าที่ในนามโรงเรียน หรือร่วมกับโรงเรียน เพื่อดำเนินวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ และมีความจำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น แพลตฟอร์มการทดสอบความรู้ และ/หรือองค์ที่เป็นผู้พิจารณาออกใบอนุญาต หรือใบรับรอง การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบไอทีต่าง ๆ บริการบันทึก เก็บข้อมูล บริการชำระเงิน การตรวจสอบทางบัญชี หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสารลูกค้า ผู้ให้บริการการสำรวจความพึงพอใจ ผู้ให้บริการการพิมพ์ การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบ หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจและ/หรือเอกชนที่จัดพิมพ์เอกสาร ตลอดจนผู้ให้บริการออกใบกำกับภาษีทั้งในรูปแบบกระดาษและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของโรงเรียน ซึ่งมีความจำเป็นอย่างสมเหตุสมผลที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของโรงเรียน
2. หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย เป็นต้น
9. โรงเรียนส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศหรือไม่
9.1 โรงเรียนอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างโรงเรียน กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่านเอง หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
9.2 โรงเรียนอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์และรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล แต่โรงเรียนจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
9.3 ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ โรงเรียนจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึงโรงเรียนจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
10. โรงเรียนทำงานร่วมกับผู้ให้บริการทางการศึกษาอื่นอย่างไร
โรงเรียนได้ร่วมกับผู้ให้บริการทางการศึกษาอื่นๆ หรืออาจจัดโครงการพัฒนาทักษะด้านวิชาการ ตลอดจนหลักสูตรเฉพาะที่จะสามารถพัฒนานักเรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ กับผู้ให้บริการการศึกษา เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อออกแบบแผนการเรียนตามเป้าหมายการเรียนรายบุคคล และเพื่อผลักดันนักเรียนทุกคนอยู่ในระบบการศึกษาที่ดี การเชื่อมต่อการเรียนการสอนกับกับบัญชีหรือแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษา เป้าหมาย และกลยุทธ์ที่โรงเรียนประกาศกำหนด ซึ่งข้อมูลที่โรงเรียนแบ่งปันกับบุคคลภายนอกตามวัตถุประสงค์ข้างต้นจะถูกนำไปใช้และแบ่งปันตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายฉบับนี้เท่านั้น
ในกรณีที่บริการของผู้ให้บริการอื่นๆ หรือบริการที่โรงเรียนร่วมกับผู้ให้บริการอื่นนั้น มีลิงค์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก โรงเรียนขอให้นักเรียนและผู้ปกครองตรวจสอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและการขอความยินยอมด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากการที่บุคคลภายนอกเหล่านั้นเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเองโดยตรง โดยโรงเรียนไม่สามารถรับผิดชอบในความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใด ๆ ที่เก็บรวบรวมโดยเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกดังกล่าว นักเรียนและผู้ปกครองควรตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นให้ละเอียดก่อนการใช้บริการเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก
11. โรงเรียนเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าไหร่
โรงเรียนจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบาย แบ่งได้ดังนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปที่ได้จากการขอความยินยอม เช่น ความยินยอมในการส่งข้อมูล ข่าวสาร โรงเรียนจะเก็บไว้จนกว่าท่านจะขอเพิกถอนความยินยอม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรม Open house โรงเรียนจะเก็บข้อมูลไว้ 3 (สาม) ปี นับถัดจากปีที่เข้าร่วมกิจกรรมและโรงเรียนได้สิ้นสุดความสัมพันธ์
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากการสมัครสอบ การสมัครเรียนและการคัดเลือก ในกรณีไม่ผ่านการคัดเลือก โรงเรียนจะเก็บข้อมูลไว้ 1 (หนึ่ง) ปี นับถัดจากปีที่ได้รับข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผลในระหว่างการศึกษา โรงเรียนจะเก็บข้อมูลไว้ 5 (ห้า) ปี นับถัดจากปีที่นักเรียนพ้นสภาพ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคะแนนสอบ โรงเรียนจะเก็บข้อมูลไว้ 5 (ห้า) ปี นับถัดจากปีที่นักเรียนพ้นสภาพ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บโดยใช้ฐานภารกิจของรัฐ โรงเรียนจะจัดเก็บถาวร ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
โรงเรียนจะลบข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลสุขภาพ เมื่อพ้น 3 (สาม) เดือน นับถัดจากเดือนที่นักเรียนพ้นสภาพ
ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน โรงเรียนจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามตามมาตรฐานความจำเป็นของการเก็บรวบรวม และตามที่กฎหมายกำหนด โดยหากโรงเรียนไม่มีสิทธิ์หรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้แล้ว โรงเรียนจะดำเนินการลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม โรงเรียนจะเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้ต่อไป หากจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐ หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจผู้เกี่ยวข้อง หรือเพื่อให้บริการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือโดยชอบตามกฎหมาย
12. ท่านมีสิทธิ์ใดบ้างตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โรงเรียนเคารพสิทธิส่วนบุคคลของท่าน และเปิดโอกาสให้ท่านสามารถใช้สิทธิ์ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังต่อไปนี้
1) สิทธิ์ขอเพิกถอนความยินยอม: หากท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิ์ที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโรงเรียน โดยการเพิกถอนความยินยอมไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แล้วโดยชอบ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิ์นั้นโดยกฎหมาย หรือโดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ หรือมีสัญญาระหว่างท่านกับโรงเรียนที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ หรืออาจส่งผลให้โรงเรียนไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ได้
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่าน จากการใช้บริการต่าง ๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับทราบการประชาสัมพันธ์ ข่าวสาร ของโรงเรียน เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนใช้สิทธิ์ขอถอนความยินยอม
2) สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิ์ขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของโรงเรียน และขอให้โรงเรียนทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้โรงเรียนแบ่งปันว่าโรงเรียนได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร เว้นแต่กรณีที่โรงเรียนมีสิทธิ์ปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมาย หรือคำสั่งของศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
3) สิทธิ์ในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิ์ขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่โรงเรียนได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิ์ขอให้โรงเรียนส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิ์ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงเรียนส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
4) สิทธิ์ขอคัดค้าน: ท่านมีสิทธิ์ขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของโรงเรียน หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
หากท่านยื่นคัดค้าน โรงเรียนจะยังคงดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป เฉพาะที่โรงเรียนสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
5) สิทธิ์ขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิ์ขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกประมวลผลโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าเป็นกรณีที่โรงเรียนหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อโรงเรียนเห็นว่าสามารถปฏิบัติตามที่ท่านได้ใช้สิทธิ์ขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิ์ขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
6) สิทธิ์ขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิ์ขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่โรงเรียนอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิ์ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใด ที่โรงเรียนหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้โรงเรียนระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทน
7) สิทธิ์ขอให้แก้ไขข้อมูล: หากท่านเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง ท่านสามารถแจ้งโรงเรียนเพื่อให้แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ให้เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
ทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะขอแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับภาพ โรงเรียนจะทำการแก้ไขเฉพาะรายการข้อมูลที่เกี่ยวกับภาพของท่านเพื่อให้ถูกต้อง ตามความจำเป็นของโรงเรียนที่ชอบด้วยกฎหมาย และในกรณีที่การดำเนินการตามคำขอก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายโรงเรียนอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายดังกล่าว โดยในกรณีโรงเรียนมีเหตุให้ปฏิเสธคำร้องขอของท่าน โรงเรียนจะจัดทำบันทึกการปฏิเสธคำขอ พร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหลักฐานด้วย
8) สิทธิ์ร้องเรียน: ท่านมีสิทธิ์ร้องเรียนต่อโรงเรียนผ่านฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน หากท่านเชื่อว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
13. ท่านจะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างไร
13.1 ในกรณีที่ท่านประสงค์จะจัดการถอนความยินยอมที่ท่านให้ไว้ หรือในกรณีที่ท่านจะใช้สิทธิ์อื่นๆ ตามที่ระบุในข้อ 12 ท่านสามารถกรอกท่านสามารถติดต่อผ่านฝ่ายบุคคลไซต์ของโรงเรียน โดยโรงเรียนจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่โรงเรียนได้รับคำร้องขอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม โรงเรียนสามารถปฏิเสธการใช้สิทธิ์ของท่านได้ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ หากโรงเรียนไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ โรงเรียนจะทำการบันทึกการปฏิเสธคำขอพร้อมด้วยเหตุผลไว้
13.2 โรงเรียนจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ใช้งานรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอเนื่องมาจากเหตุทางเทคนิค
13.3 ในบางสถานการณ์โรงเรียนอาจขอให้ท่านพิสูจน์ตัวตนของท่านก่อนการใช้สิทธิ์เพื่อความปลอดภัยของท่านเอง โดยบางครั้งอาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิ์ของท่านบางประการหรืออาจเกิดค่าใช้จ่าย ซึ่งโรงเรียนจะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิ์ของท่านได้ หรือจะแจ้งให้ท่านทราบ หากโรงเรียนจำเป็นต้องเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินการตามที่ท่านร้องขอ
14. โรงเรียนดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัยอย่างไร
โรงเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โรงเรียนจึงกำหนดให้มีมาตรการอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงกำหนดนโยบาย ระเบียบ แนวปฏิบัติ และขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
1) กำหนดนโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อจัดการข้อมูลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดอย่างปลอดภัย
2) ไม่จำหน่ายหรือขายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ว่ากรณีใด และจะไม่โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของโรงเรียน
3) จำกัดสิทธิลูกจ้าง ครู บุคลากรของโรงเรียน ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และกำหนดสิทธิในการเข้าถึง หรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล
4) ป้องกันการเข้าถึงนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจัดให้มีการเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบตัวตนและเทคโนโลยีการตรวจจับไวรัส ตามความจำเป็น
5) ตรวจสอบสถานะบุคคลภายนอก ผู้ให้บริการแก่โรงเรียน กำหนดให้บุคคลเหล่านั้น ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกำหนดข้อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
6) ติดตามตรวจสอบเว็บไซต์และระบบของโรงเรียน ผ่านหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
7) กำหนดให้ลูกจ้าง ครู บุคลากรของโรงเรียน เข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
8) ประเมินผลแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การจัดการข้อมูล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลทางเทคนิค ทางกายภาพ และทางธุรการที่เหมาะสม รวมถึง ทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น หรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป
9) จัดให้มีระบบการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
10) จัดให้มีระบบการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 72 ชั่งโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่จะสามารถกระทำได้ เว้นแต่การละเมิดดังกล่าวไม่มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
15. ท่านจะติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้อย่างไร
โรงเรียนได้แต่งตั้งให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer) เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของโรงเรียน ในกรณีที่ท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ไม่เป็นไปตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ 2562 หรือมีข้อเสนอแนะ ข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอใช้สิทธิ์ตามประกาศฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อสอบถาม หรือร้องเรียนได้ผ่านช่องทาง ดังนี้
กรณีสอบถามข้อมูลทั่วไปติดต่อ โรงเรียนบ้านคำด้วง
16. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือไม่
โรงเรียนจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โรงเรียนจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการ update ข้อมูลลงในเว็ปไซต์ของโรงเรียนโดยเร็วที่สุด ดังนั้น โรงเรียนจึงขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทุกครั้งที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ของโรงเรียน
นโยบายฉบับนี้ ประกาศใช้เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566