นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PrivacyPolicy) 

 

      โรงเรียนบ้านคำด้วง เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิ์ความเป็นส่วนตัว และมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียนและผู้ปกครอง  โดยโรงเรียนตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้มอบให้แก่โรงเรียนด้วยความไว้วางใจ โรงเรียนจึงได้จัดทำนโยบายฉบับนี้ขึ้น เพื่อชี้แจงให้ท่านมั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมอบให้แก่โรงเรียนจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของท่าน ถูกต้องตามกฎหมาย และรักษาให้ปลอดภัยตามมาตรฐานสากลในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 

1. โรงเรียนเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้าง

โรงเรียนจะเก็บรวบรวม ใช้ เผยแพร่ ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นจะต้องใช้เพื่อการจัดการเรียนการสอนให้แก่นักเรียน ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยอาจให้นักเรียนหรือผู้ปกครองกรอกข้อมูลลงในเอกสาร หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่โรงเรียนได้กำหนด ซึ่งได้แก่ข้อมูล ดังนี้  

1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของนักเรียนและผู้ปกครอง เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล ชื่อเล่น เพศ วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน สัญชาติ รูปถ่ายนักเรียน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น

1.2 ข้อมูลบัญชีไลน์ไอดี ของนักเรียนและผู้ปกครอง 

1.3 ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาของนักเรียน เช่น โรงเรียนเดิมที่เคยศึกษาอยู่ ระดับชั้น ประวัติการศึกษา ผลการศึกษาเกรดเฉลี่ย  แผนการเรียน ใบรับรองคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ระบุในใบสมัคร และคุณสมบัติ ความสำเร็จ และความสามารถอื่น ๆ ความสนใจ งานอดิเรก เป็นต้น

1.4 ข้อมูลการสัมภาษณ์ของนักเรียนและผู้ปกครอง เช่น วีดีโอการแนะนำตัว ข้อมูลที่นักเรียนหรือผู้ปกครองแจ้งแก่โรงเรียนในระหว่างการสัมภาษณ์  เป็นต้น

1.5 ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานการสมัครเข้าเรียนหรือการรับทุน เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเกรดเฉลี่ย (Transcript) หนังสือรับรอง ประกาศณียบัตร (Certificate) ระเบียนแสดงผลการเรียน ปพ.1 ใบรับรองการเป็นนักเรียน ปพ.7 ใบรับรองแพทย์  เป็นต้น

1.6 ข้อมูลผู้ปกครองที่สมัครใจให้ไว้ในการลงทะเบียนประวัตินักเรียนในระบบของโรงเรียน เช่น รายได้ ตำแหน่ง สถานที่ทำงาน ลักษณะงานที่ทำ โทรศัพท์ที่ทำงาน จำนวนปีที่ประกอบอาชีพปัจจุบัน ประวัติการศึกษา (กรณีสมัครรับทุน ภาระ ค่าใช้จ่าย หนี้สินของครอบครัว) สถานภาพการอยู่ร่วมกันของผู้ปกครอง จำนวนบุตร  เป็นต้น

1.7 ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น ข้อมูลที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน เป็นต้น

1.8 ข้อมูลทางทะเบียนที่ได้รับในระหว่างการศึกษา เช่น ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรม เป้าหมายในอนาคต ข้อมูลการตอบคำถาม ข้อมูลการเข้าเรียน ข้อมูลการสอบ ข้อมูลรายวิชาที่เลือกเรียน ข้อมูลคะแนนสอบ ประวัติการอบรม ผลการอบรม ใบรับรองการอบรม  การประเมินผลการเรียน พฤติกรรม ผลงานและ/หรือรางวัลที่ได้รับ ข้อมูลการลงโทษ เอกสารอื่นใดที่โรงเรียนออกให้ เป็นต้น

1.9 ข้อมูลที่กรอกบนระบบโรงเรียน และข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรม เช่น การลงทะเบียนเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ การทำแบบสำรวจ แบบสอบถาม แบบประเมินความพึงพอใจ ข้อเสนอแนะ และข้อมูลการสำรวจความคิดเห็น 

1.10ข้อมูลการโต้ตอบ และข้อมูลการสื่อสาร ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)  ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว ความคิดเห็นของท่าน ตลอดระยะเวลาการศึกษา 

1.11 ข้อมูลที่ได้จากการบันทึกภาพ (CCTV)  ได้แก่ บุคคลที่เดินผ่าน หรือบุคคลที่เข้ามาในพื้นที่โรงเรียน รวมถึงบุคคลที่อยู่ในบริเวณที่กล้องวงจรปิดกำลังทำงาน 

2. โรงเรียนเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวหรือไม่

2.1 โรงเรียนจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน ตามแบบฟอร์มการขอความยินยอมสำหรับการประมวลผลข้อมูลอ่อนไหว ซึ่งโรงเรียนจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ เพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ทั้งนี้ โรงเรียนจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าว เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ และตามวัตถุประสงค์ที่โรงเรียนแจ้งไว้ ในกรณีดังต่อไปนี้

     1. ข้อมูลสุขภาพ เช่น ความพิการ โรคประจำตัว ตาบอดสี ผลการตรวจร่างกาย หมู่โลหิต ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการแพ้ต่าง ๆ  เพื่อประกอบการทำประกัน และดูแลนักเรียนในขณะอยู่ภายในโรงเรียนอย่างเหมาะสม

2. ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาของนักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรมที่เหมาะสม รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลนักเรียน

3. ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ และเพื่อเป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน เพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

2.2 หากท่านไม่มีความประสงค์ให้โรงเรียนจัดเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ท่านสามารถปฏิเสธการประมวลผลได้ในการระบุในแบบฟอร์มการขอความยินยอมในครั้งนั้นๆ  หรือแจ้งถอนความยินยอมในภายหลังได้ตลอดเวลาโดยติดต่อ ได้ที่ฝ่ายทะเบียนของโรงเรียน  

ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์ให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ตามที่ระบุในข้อ 2.1 แต่ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อโรงเรียน เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลหมู่โลหิต หรือข้อมูลศาสนา และท่านได้ทำการส่งมอบข้อมูลใด ๆ ซึ่งปรากฏข้อมูลที่มีลักษณะเช่นว่านี้ให้แก่โรงเรียนไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบข้อมูลในลักษณะเป็นเอกสาร หรือสื่ออื่นใด โรงเรียนแนะนำให้ท่านเป็นผู้ปกปิดข้อมูลอ่อนไหวเหล่านี้ ด้วยตัวท่านเอง โดยวิธีการขีดฆ่าข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลด้วยตัวท่านเอง โรงเรียนถือว่าท่านได้อนุญาตโดยชัดแจ้งให้โรงเรียนทำการปกปิดข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ท่าน และให้ถือว่าข้อมูลที่ท่านส่งมอบมานี้ ซึ่งโรงเรียนได้จัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวให้แก่ท่านแล้วเป็นเอกสารที่สมบูรณ์ ใช้บังคับได้ตามกฎหมายทุกประการ และให้โรงเรียนสามารถนำไปประมวลผลได้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่โรงเรียนไม่สามารถจัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวแก่ท่านได้เนื่องด้วยปัญหาเชิงเทคนิค หรือปัญหาอื่นใด โรงเรียนจะทำการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น

3. โรงเรียนได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากช่องทางไหน

โรงเรียนเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

     1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับโรงเรียนโดยตรง จากตอนที่ท่านสมัครเรียน สมัครสอบ เข้าทำสัญญา หรือส่งมอบเอกสารต่าง ๆ และเมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรม งานอีเว้นท์ ที่โรงเรียนจัดขึ้น โดยรวมถึงขั้นตอนที่ท่านดำเนินการยื่นความประสงค์ กรอกแบบฟอร์ม คำขอ คำร้องขอใช้สิทธิต่างๆ กับโรงเรียน หรือเมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม ไม่ว่าจะเป็นอยู่ในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือวาจา ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โทรศัพท์ อีเมล ไปรษณีย์ การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด

2. โรงเรียนอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียนมาจากบุคคลที่สาม เช่น โรงเรียน สถาบันการศึกษา องค์กรหรือหน่วยงานอื่นใดที่มีสิทธิ หน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลนักเรียน  

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงเรียน เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้

4. วิธีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับนักเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี  

ในกรณีที่นักเรียนเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง (แล้วแต่กรณี) โรงเรียนจะขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองนั้นโดยตรง โดยในขั้นตอนการสมัครเรียน โรงเรียนกำหนดให้บุคคลผู้มีอำนาจปกครองเหล่านั้นเป็นผู้สมัครเรียนแทนนักเรียนเท่านั้น  ซึ่งโรงเรียนเชื่อโดยสุจริตว่าข้อมูลที่โรงเรียนได้รับจากบุคคลเหล่านั้น เป็นข้อมูลที่โรงเรียนมีสิทธิ์ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และบุคคลเหล่านั้นมีสิทธิ์เปิดเผยให้แก่โรงเรียนได้ 

5. วิธีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับนักเรียนที่อายุ 10 – 18 ปี 

ในกรณีที่นักเรียนเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุตั้งแต่ 10 - 18 ปี โรงเรียนอาจประมวลผลข้อมูลของท่านโดยคำนึงถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสูงสุด ซึ่งนักเรียนสามารถดำเนินการให้ข้อมูล ให้ความยินยอมได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เฉพาะกิจกรรมที่โรงเรียนพิจารณาแล้วว่า เป็นกรณีสมแก่ฐานานุรูป เหมาะสมกับวัย และการพัฒนาความรู้ของนักเรียนและเป็นประโยชน์แก่นักเรียนอย่างแท้จริง 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่โรงเรียนประสงค์จะขอประมวลผลนักเรียนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านการศึกษา หรือใช้ข้อมูลนักเรียนในกิจกรรมที่ต้องได้รับความยินยอม โรงเรียนจะขอความยินยอมจากผู้ปกครองโดยตรง เช่น การขอใช้ภาพถ่าย เพื่อประชาสัมพันธ์กิจการของโรงเรียน เป็นต้น

6. โรงเรียนใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียนและผู้ปกครองเพื่อวัตถุประสงค์อะไร

โรงเรียนจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของโรงเรียน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้