History of Jujutsu kaisen 0

อคคตสึ ยูตะในวัยเด็ก เป็นเด็กที่มีนิสัยเงียบ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่มีเพื่อน ชอบอยู่และเล่นคนเดียวเสมอ บ่อยครั้งมักจะถูก เด็กคนอื่นแกล้งอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งเขาได้รู้จักกับริกะ เด็กสาวที่ยอมเป็นเพื่อนเล่นกับเขา ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างมาก มักจะอยู่และเล่นด้วยกันอยู่บ่อยๆ จะบอกได้ว่าเมื่อเห็นยูตะที่ไหนก็ต้องเห็นริกะอยู่ข้างๆเสมอ

จนในวันเกิดของยูตะ ริกะได้มอบของขวัญวิเศษเป็นแหวนให้กับยูตะ พร้อมทั้งสัญญาด้วยกันว่า เมื่อทั้งคู่โตขึ้นจะแต่งงานกัน ซึ่งในคำสัญญานี้ยูตะก็ได้รับปาก สำหรับตัวเขา ริกะคือคนที่พิเศษที่สุด

แต่แล้ววันหนึ่ง เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ริกะได้รับอุบัติเหตุถูกรถชนเสียชีวิตต่อหน้ายูตะ การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของริกะนั้น ทำให้ยูตะเสียใจเป็นอย่างมาก จนทำให้เขาเผลอใช้พลังคำสาปของตัวเอง ไปแบบไม่ได้ตั้งใจ พลังคำสาปนี้ได้สาปวิญญาณริกะไว้ให้กลายเป็นคำสาปติดตัวเขา เพราะเขาไม่อยากที่จะสูญเสียริกะไป จึงทำให้วิญญาณของริกะกลายเป็นคำสาปตามติดตัวยูตะตลอดเวลา

ซึ่งในตอนแรกยูตะก็ไม่เข้าใจว่าทำไมวิญญาณของริกะถึงได้กลายเป็นเหมือนปีศาจที่น่ากลัว และยังตามเขาไปทุกที่ แต่ถึงจะดูหน้ากลัวยังไง ยูตะก็ยังมีความรู้สึกดีต่อริกะอยู่ เขายังคิดว่าเธอยังไม่ทิ้งเขาไปไหน แต่พอวันเวลาผ่านไปนานเข้า เขาก็พบว่าตัวเขาไม่สามารถสื่อสาร หรือ คุยกับริกะได้เลย แถมเมื่อใครก็ตามที่คิดไม่ดีหรือพยายามทำร้ายยูตะ ริกะที่กลายเป็นคำสาปจะออกมาจัดการคนนั้นทันที การกระทำของคำสาปริกะนั้น ถึงจะทำไปเพื่อปกป้องยูตะ แต่ก็ทำให้ยูตะรู้สึกแย่ เพราะพวกที่ถูกริกะจัดการ มักจะลงเอยด้วยความตายทั้งสิ้น

นานวันไปยูตะก็รู้สึกหดหู่ หน้าตาขอเขาก็อมทุกข์ ครอบตาคล้ำ เพราะเขาไม่สามารถนอนหลับแบบปกติได้เลย เมื่อเขาหลับก็จะเห็นแต่ริกะที่กลายเป็นคำสาปและเห็นสิ่งที่ริกะทำกับคนที่กลั่นแกล้งตน ก็ยิ่งตอกย้ำว่าเป็นเพราะเขาที่ทำให้คนอื่นๆต้องตายและตัวเขาทำให้ริกะเป็นอย่างนี้ ยูตะได้พยายามฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว เพราะคำสาปริกะได้เขามาช่วยเขาไว้ทุกครั้ง

จนกระทั่ง วันหนึ่งเขาได้ถูกเพื่อนในโรงเรียนรุมกลั่นแกล้งเขา ถึงเขาจะบอกให้พวกนั้นหยุด เพราะพวกนั้นจะถูกริกะฆ่า แต่พวกนักเรียนหัวโจกก็ไม่ยอมหยุด จนในที่สุดพวกนั้นก็ถูกคำสาปริกะฆ่าไปในที่สุด ถึงแม้ยูตะจะพยายามห้ามริกะยังไงเขาก็ไม่สามารถสั่ง หรือ ห้ามริกะไว้ได้เลย

หลังจากเหตุการณ์นั้น ทางด้านจูจุทสึโตเกียว จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่จูจุทสึ ที่ชำนาญเข้ามาตรวจสอบ และพบว่าเหตุการณ์นี้มีความเกี่ยวข้องกับตัวเด็กนักเรียนที่ชื่อว่า ยูตะ และพบว่ายูตะนั่นมีพลังคำสาปอยู่ในร่างเป็นปริมาณมาก พร้อมทั้งมีวิญญาณคำสาประดับพิเศษติดตัวอีก จึงได้ทำการจับกุมและนำตัวเขาส่งไปให้ทางสมาคมจูจุทสึ ตัดสินอีกที ด้วยพลังที่มีอยู่มากของยูตะ ต้องใช้อาคมขั้นสูงในการปิดผนึกพลังเขาไว้ด้วยกันหลายชั้น จึงจะสามารถควบคุมตัวเขาเอาไว้ได้

เมื่อสรุปผลถึงเหตุการณ์และพลังคำสาปของยูตะแล้ว ทางเบื้องบนก็ได้มีคำตัดสินให้ประหารเขาทันที เพราะยูตะเป็นตัวอันตรายเป็นเหมือนภาชนะที่มีคำสาประดับพิเศษสิงสู่อยู่ แต่คำตัดสินนี้ได้ถูกคัดค้านด้วยฝีมือของ โกะโจ ซาโตรุ อาจารย์ที่สอนในโรงเรียนจูจึทสึ(โตเกียว) ที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลกจูจุทสึ ได้เสนอให้โอกาสเขาได้เรียนในโรงเรียนเพื่อควบคุมพลังของตน เพราะถ้าเขาสามารถควบคุมพลังได้แล้วเขาจะเป็นบุคคลากรชั้นดีให้แก่กลุ่มจูจุทสึ ต่อไปในอนาคต

ยูตะจึงรอดพ้นจากโทษประหาร และ เข้าเป็นหนึ่งในนักเรียนของโรงเรียนจูจุทสึ(โตเกียว) ถึงแม้ว่าในทีแรกเขาจะไม่เห็นด้วยที่จะเข้ามาเป็นนักเรียน เพราะเขากลัวว่าเขาจะพลาดทำร้ายคนอื่นได้ แต่ด้วยการที่โกะโจยืนกรานแล้วว่าเขาจะต้องเข้าเรียน พร้อมทั้งบอกให้เขาหาวิธีควบคุมพลังและช่วยเหลือริกะให้ได้ ก็ทำให้ยูตะตัดสินใจเข้าเรียนในโรงเรียนจูจุทสึ(โตเกียว) เพื่อที่จะได้ควบคุมพลังและหาวิธีช่วยเหลือริกะนั่นเอง

หลังจากที่รอดจากการตัดสินประหารมาได้ ยูตะได้เขาเป็นหนึ่งในนักเรียนชั้นปีที่1ในโรงเรียนจูจุทสึ(โตเกียว) ในวันแรกที่เขาเข้าไปห้องเรียนนั้น เขาก็ได้ถูกเพื่อนร่วมชั้นทั้ง3คน เตรียมเข้าโจมตีเขาในทันที เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงคำสาปที่ติดตัวยูตะมาว่ามีพลังและความอันตรายเป็นอย่างมาก จึงทำให้ทั้ง 3 เตรียมตัวจู่โจมยูตะในทันที แต่ก็ได้ถูกอาจารย์โกะโจเข้ามาห้าม และบอกว่ายูตะจะเข้าเรียนที่นี่ ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน เพราะฉะนั้นทุกคนก็ควรจะสนิทกันเข้าไว้

ถึงอาจารย์โกะโจ จะพูดอย่างไหร่ทั้ง 3 ก็ยังไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ เพราะยูตะก็เหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ แต่ถึงยังงั้น เมื่อได้เป็นเพื่อนร่วมห้องกันแล้วก็ต้องแนะนำตัวให้รู้จักกัน ทั้ง3จึงแนะนำตัว เพื่อนร่วมห้องของยูตะก็คือ เซนอิน มากิ , อินุมาคิ โทเกะ และ แพนด้า นั่นเอง

เพื่อที่จะทำให้พวกเขาสนิทกันมากขึ้น โกะโจจึงให้พวกเขาฝึกและเรียนการควบคุมคำสาปด้วยกัน โดยภารกิจแรกที่ยูตะได้ทำ เป็นการไปทำลายคำสาปในโรงเรียนแห่งหนึ่งกับมากิ ภารกิจนี้ดูเหมือนจะง่ายเพราะคำสาปที่ตรวจสอบแล้วมีระดับที่ต่ำมาก(ระดับ4) ซึ่งคำสาปเหล่านี้แค่มากิคนเดียวก็สามารถจัดการได้หมดแล้ว แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อในโรงเรียนได้มีการรวมตัวกันของคำสาปเกิดขึ้น ทำให้ทั้งคู่ได้พลาดท่าโดนคำสาปกลืนกินลงไป และในเหตุการณ์นั้นก็ทำให้มากิได้ถูกพิษคำสาปเข้าเล่นงานจนเกือบจะแย่

ในเวลานั้นเองด้วยความที่ต้องการช่วยเพื่อน ยูตะจึงได้ใช้พลังคำสาปของตัวเองจนสามารถควบคุมและสั่งริกะ ให้กำจัดคำสาปที่กินพวกเขาได้สำเร็จ นับเป็นครั้งแรกที่ยูตะสามารถควบคุมริกะได้ ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ที่ยูตะได้ช่วยเหลือมากิออกมา ทำให้มากิเองเปิดใจและยอมรับยูตะ

ในเวลาต่อมา โกะโจ จึงมอบดาบให้แก่ยูตะเล่มหนึ่ง ไว้เป็นตัวช่วยในการใช้คำสาปให้ยูตะใช้คำสาปในการต่อสู้ได้ง่ายขึ้น

หลังจากนั้นมากิเองได้เป็นคนฝึกและสอนการใช้ดาบนี้ให้แก่ ยูตะมาตลอด จนนานวันเข้าฝีมือการใช้ดาบและคำสาปของเขาก็เริ่มสูงขึ้น จนสามารถที่จะไล่ต้อนในการดวลกับมากิได้เป็นอย่างดี มากิเองก็ยอมรับในฝีมือของยูตะว่าเขามีพรสวรรค์ในการต่อสู้เหมือนกัน

จนเขาได้รับภารกิจที่สองในการตรวจสอบและกำจัดคำสาป ในย่านตลาด ซึ่งภารกิจนี้เขาได้จับคู่กับโทเกะ ในทีแรกยูตะก็รู้สึกแปลกๆที่เขาต้องทำภารกิจคู่กับโทเกะ เพราะโทเกะออกจะแปลกๆไม่ค่อยพูด เอาแต่จ้องเขาเป็นอย่างเดียว บ่อยครั้งทำให้เขารู้สึกอึดอัด ในภารกิจนี้ พวกเขาต้องสู้กับคำสาปที่ออกมาอย่างมากมาย จนโทเกะเกือบจะพลาดท่าถูกเล่นงาน แต่ได้รับความช่วยเหลือจากยูตะ จนทั้งคู่สามารถร่วมมือกันทำลายคำสาปพิเศษที่แข็งแกร่งลงได้ในที่สุด จากเหตุการณ์นี้จึงทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันเป็นอย่างมาก(ส่วนแพนด้านั้น เขาได้สนิทกับยูตะตั้งแต่เข้ามาแรกๆเลย ด้วยนิสัยที่เข้ากับคนอื่นง่ายของแพนด้านั่นเอง)

หลังจากนั้น พวกเขาทั้งหมดก็ได้เรียน และฝึกวิชาการใช้คำสาป จนทั้ง4ในตอนนี้สนิทสนมกันเป็นอย่างมาก ยูตะเองก็ไม่เคยคิดว่านอกจากริกะแล้ว เขาจะเรียกคนอื่นว่าเพื่อนได้อีกครั้ง อย่างสนิทใจ จนการปรากฎตัวของเกะโท สุกุรุ ที่ออกมาและประกาศว่าเขาจะสร้างโลกที่จะมีเพียงแต่เหล่าผู้ใช้คุณไสยเท่านั้น พร้อมทั้งเอ่ยปากชวนเหล่าเด็กๆในโรงเรียนจูจุทสึ เข้าร่วมและทำความฝันไปพร้อมกับเขา แน่นอนไม่มีใครเข้าร่วม

หลังจากนั้นเกะโทก็จากไป พร้อมทั้งประกาศสงครามว่าเขาจะบุกโจมตีมนุษย์ธรรมดาที่ชินจูกุ พอถึงวันนั้นตามที่เกะโทประกาศ อาจารย์และจูจุทสึฝีมือดีที่ถูกเลือกมา ต่างไปประจำที่ชินจูกุ หนึ่งในนั้นก็มีโกะโจและอาจารย์ใหญ่เข้าร่วม การต่อสู้ของพวกเขาในชินจูกุก็ได้เริ่มขึ้น ในขณะที่ทุกคนกำลังสู้กันในชินจูกุนั้น เกะโทไม่ได้ไปที่ชินจูกุ แต่เขากับมาที่โรงเรียนจูจุทสึ(โตเกียว)แทน จึงทำให้เกะโทต้องต่อสู้กับนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียน นั่นคือ มากิ โทเกะ และ แพนด้า ทั้ง3คนต่างสู้เกะโท อย่างสุดความสามารถแต่ด้วยพลังและประสบการณ์การต่อสู้ที่ต่างกันมาก ทำให้ทั้ง 3 คนต่างถูกจัดการลงอย่างง่ายดาย เมื่อทั้งสามถูกจัดการก็ไม่มีใครมาขวางทางของเขาได้อีก

เมื่อยูตะได้กลับมาและพบว่าเพื่อน ๆ ของเขาถูกทำร้าย ก็ทำให้เขาโมโหและโกรธเป็นอย่างมาก จนทำให้เขาได้ระเบิดพลังคำสาปออกมาอย่างมากมาย ในเวลานั้นยูตะสามารถที่จะควบคุมพลังคำสาป และสามารถสั่งริกะได้อย่างสมบูรณ์ เขาจึงทุ่มพลังทั้งหมด เพื่อเข้าสู้กับเกะโท

การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ในขณะที่ยูตะกำลังจะพลาดท่า เขาก็ได้บังเอิญปลดลิมิตพลังของเขากับริกะได้ในทันที โดยในเวลานั้นเขาได้รู้แล้วว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาปฎิเสธที่จะยอมรับในตัวริกะ ที่เป็นคำสาปมากแค่ไหน จนกระทั่งตอนนี้เขาได้ยอมรับและบอกรักริกะที่เป็นคำสาปพร้อมทั้งจูบ การกระทำแบบนี้เองที่ช่วยปลดพลังคำสาปทำให้พลังคำสาปของริกะเพิ่มขึ้น จนเขาสามารถจัดการและทำให้เกะโทบาทเจ็บสาหัส จนต้องล่าถอยหนีไป

หลังจาก เกะโทหนีไปแล้ว ยูตะได้เข้าไปช่วยเหลือเพื่อนๆ จนทุกคนฟื้นคืนสติ ทันใดนั้นคำสาปที่สาปริกะไว้ก็ถูกคลายออก ริกะได้กับไปเป็นร่างเด็กในความทรงจำของยูตะอีกครั้ง พร้อมทั้งอาจารย์โกะโจที่ได้เข้ามาและอธิบายว่า ตอนนี้พันธะที่ผูกไว้ระหว่างผู้ใช้ และคำสาป ในตัวริกะได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ที่ริกะเป็นแบบนั้น เพราะในตอนที่ริกะกำลังจะตาย ยูตะได้บังเอิญไปใช้พลังคำสาปเหนี่ยวรั้งวิญญาณริกะเอาไว้ไม่ให้ไปไหน ริกะเลยกลายเป็นคำสาปติดตัวยูตะตลอด

เมื่อฟังเช่นนั้น ยูตะก็เสียใจที่ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ริกะกลายเป็นแบบนั้น พร้อมทั้งขอโทษริกะ แต่ริกะกับบอกว่าไม่เป็นไร เธอดีใจที่ได้อยู่และช่วยเหลือยูตะตลอดมา หลังจากคุยกันซักพัก ริกะก็ได้เป็นอิสระและหายไป(สู่สุขคติ) ถึงจะเศร้า แต่ยูตะก็ดีใจ ที่ริกะได้เป็นอิสระจากพันธนาการนี้เสียที…….