รับทำป้ายไวนิล และสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด
ป้ายไวนิล / สติ๊กเกอร์ / สติ๊กเกอร์ ซีทรู / อะคริลิค / พลาสวูด / โฟมบอร์ด / ฟิวเจอร์บอร์ด
ธงญี่ปุ่น / Roll up / นามบัตร / X stand / ฉลากสินค้า / โบรชัวร์ / แผ่นพับ / ใบปลิว
สำหรับนักการตลาด และแบรนด์ที่ทำเว็บไซต์ด้วยตัวเองคงเคยได้ยินคำว่า SEO กันมาบ้าง หรือบางท่านอาจจะรู้จักเป็นอย่างดี ซึ่ง SEO นี้มีผลต่อการขาย การรับรู้แบรนด์ในตลาดออนไลน์ และ อีกหลาย ๆ ปัจจัย หากมีคนเห็นคอนเทนต์ของเว็บไซต์เรามากขึ้นบน Search Engine หรือช่องทางการค้นหามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เว็บไซต์ของเราเป็นที่รู้จัก และเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งภาษาการตลาดเราก็จะเรียกว่าการเพิ่ม Traffic เข้ามายังหน้าเว็บไซต์นั่นเอง
SEO หรือ Search Engine Optimization การติดอันดับแบบธรรมชาติ
SEO คือ การเพิ่มประสิทธิภาพปรับแต่งโครงสร้างเนื้อหาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพมากขึ้น มีเนื้อหาและคีย์เวิร์ดที่ไปในทิศทางเดียวกัน ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของคุณ และการทำ SEO ที่ดียังช่วยดันให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับหน้าแรกๆ บน Google ได้ ซึ่งการทำ SEO นิยมผสมผสานไปกับการทำ Content สร้างสรรค์ด้านเนื้อหาที่สามารถตอบโจทย์และความต้องการของคนอ่าน หากเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ขายสินค้า ก็จะใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับการขายสินค้าประเภทนั้น นำมาสอดแทรกไปกับ Content การขายบนเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาประทับใจกับเว็บไซต์ การทำ SEO ใช้ระยะเวลานานกว่า Google Ads SEO ใช้ระยะเวลาอยู่ที่ 6 เดือนอย่างต่ำ แต่ ! เมื่อเว็บไซต์ของคุณติดลมบนแล้ว จะอยู่บนหน้า Google แบบระยะยาว ไม่หายไปเหมือนกับการทำ Google Ads ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความขยันการอัปเดตเว็บไซต์ของคุณด้วย
ข้อดีในการทำ SEO
ยอดคนที่กดเข้ามาเว็บไซต์เรา จะเป็นแบบธรรมชาติ (Organic List) หมายความว่า เป็นกลุ่มคนจริง ๆ ที่กดเข้ามา มีการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งก็จะเพิ่มโอกาสที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยที่ไม่เสียค่าบริการ เมื่อติดอันดับแล้วผลลัพธ์ก็จะมั่นคงและยาวนานหากดูแลอัปเดตเว็บไซต์อยู่เสมอ
Google Ads คือบริการ จาก Google ที่เป็น Search Engine อันดับ 1 ของโลก เป็นการโฆษณาโปรโมทเว็บไซต์บนหน้า Google ที่เห็นผลไว ที่ช่วยให้อันดับของเว็บไซต์ขึ้นมาอยู่หน้าต้น ๆ ได้ทันที
แต่ ! ต้องเสียเงินทำโฆษณาเรียกว่า PPC (Pay Per Click) ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง คุณจะเสียเงินเมื่อมีคนคลิกเข้ามาที่โฆษณาคุณ เมื่อหยุดทำ Google Ads เว็บไซต์ของคุณก็จะหายไปจากหน้า Google
ข้อดีในการทำ Google Ads
อย่างที่กล่าวไปว่า Google Ads เป็น Search Engine อันดับ 1 ของโลก ทำให้หลาย ๆ เว็บไซต์เลือกใช้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถขึ้นอันดับบน Google ได้อย่างรวดเร็ว ทันเทรนด์ ทันกระแสในขณะนั้น และถ้าหากคุณเลือกใช้ Keyword ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยเพิ่มโอกาสการมองเห็น และส่งผลให้มีคนคลิกเข้ามาถึงสินค้ามากขึ้น ทำให้เงินที่คุณเสียไปกับค่าคลิกไม่เปล่าประโยชน์ แถมทำให้โฆษณาของคุณเกิดประสิทธิภาพ ดังนั้นการทำ Google Ads จึงเป็นช่องทางการตลาดอีกหนึ่งช่องทางที่จะเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงธุรกิจของคุณได้ดีทีเดียว
ข้อเสียในการทำ Google Ads
ค่าใช้จ่ายสูงและไม่ได้การันตียอดขายถ้าเทียบกับเงินที่เสียไป คุณต้องจ่ายค่า Keyword ให้แพลตฟอร์ม Google ตามความจริง โดยคิดเงินเป็นต่อวัน เช่น วันนี้ตั้งงบประมาณไว้ 500 บาท มีคนคลิกเข้ามา 10 คน เงินของคุณก็จะหมด เมื่อใช้เงินจนหมดแล้วโฆษณาเว็บไซต์ของคุณก็จะหายไป
เปรียบเทียบกันให้ชัด ๆ SEO VS Google Ads
เปรียบเทียบด้านค่าใช้จ่าย
Google Ads : ค่าใช้จ่ายเป็นรูปธรรมมากกว่า คุณสามารถตั้งงบประมาณต่อวันได้ว่าต้องการใช้เงินลงไปกับการโฆษณามากน้อยแค่ไหนให้โฆษณาของคุณติดหน้าแรกของ Google ซึ่งเราสามารถคำนวณงบประมาณได้จาก Keyword ที่ต้องการใช้ ที่ผ่านการรีเสิร์ชแล้ว
SEO : อาจจะมีค่าใช้จ่ายแฝง เช่น หากคุณไม่เขียนบทความเอง ก็อาจจะต้องจ้าง SEO Specialist เข้ามาช่วยในส่วนนี้ ซึ่งราคาก็จะต่างกันออกไปในแต่ละทีม
เปรียบเทียบข้อดี – ข้อเสีย
Google Ads : Technical รวดเร็วเห็นผลไว หากทีมที่ทำมีความชำนาญและเชี่ยวชาญมากพอ เมื่อ Set ทุกอย่างเรียบร้อย รอไม่นาน เว็บไซต์ของคุณก็ปรากฎ บน Google ได้แบบรวดเร็ว
ข้อดี
เมื่อเริ่มกระบวนการการทำโฆษณาแล้ว ใช้เวลาไม่นานในการดันเว็บไซต์ของคุณให้ขึ้นหน้า Google
สามารถควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายได้
ข้อเสีย
เมื่อคุณหยุดการทำโฆษณา เว็บไซต์ของคุณจะหายไปจากหน้า Google ถ้าหากอยากให้เว็บไซต์ของคุณอยู่บนหน้า Google เสมอ คุณจำเป็นต้องเสียค่าบริการในการทำโฆษณาตลอด
มีค่าใช้จ่ายเยอะ เมื่อมีคนคลิกเข้ามาเว็บไซต์คุณ นั่นคือคุณเสียค่าบริการ (1 คลิก : 1 ครั้ง)
SEO : ใช้เวลานานกว่า Google Ads โดยเฉลี่ยแล้วจะ 3-6 เดือนขึ้นไป เนื่องจากการทำ SEO เป็นการเก็บ Traffic แบบธรรมชาตินับจากคนที่เข้ามาดูเว็บไซต์จริง ๆ และ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพ Google ก็จะรวบรวมคะแนนค่อย ๆ สะสมคะแนนเว็บไซต์ของคุณไปเรื่อย ๆ จึงจะเริ่มมีอันดับที่เปลี่ยนแปลง
ข้อดี
หากคุณทำเองได้จะประหยัดค่าใช้จ่ายมาก หรือหากคุณว่าจ้างผู้ชำนาญ (SEO Specialist) ค่าใช้จ่ายจะเป็นไปตามที่คุณตกลงกับทีม
เมื่อคุณติดอันดับแล้ว เว็บไซต์ของคุณจะติดระยะยาวแม้ไม่ทำโฆษณา แต่คุณต้องหมั่นอัปเดตเว็บไซต์ด้วยนะ
ข้อเสีย
ใช้ระยะเวลานาน 6 เดือนถึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง สินค้าที่จำหน่ายตามกระแสหากทำ SEO เว็บไซต์อาจจะไม่ทันเทรนด์
ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ และเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงเว็บไซต์
เพราะ SEO จะใช้เวลาที่ยาวนานกว่า Traffic จะขึ้น อย่างที่บอกว่าอย่างน้อยคือ 6 เดือน หากว่าคุณปล่อยเวลาไปเฉย ๆ ไม่ได้ทำการตลาดอื่น ๆ เลย รอแค่ SEO อย่างเดียว อาจจะปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป สินค้ากระแสอาจจะหมดเทรนด์ไปก่อน หากเป็นเช่นนั้นแล้วถ้าคุณทำการตลาดด้านอื่นควบคู่ไปด้วย อย่าง Google Ads ก็จะมี Traffic จาก Google Ads เข้ามาที่เว็บไซต์บ้าง
และเมื่อทิ้งระยะเวลาไปปล่อยให้ SEO ได้ทำงาน และมี Traffic ที่เป็น Organic เข้ามาบ้างแล้ว คุณอาจจะค่อยๆลดงบ Google Ads ลงไป แล้วไปเน้นการปรับปรุงเว็บไซต์เน้นการทำ SEO แบบนี้ได้เหมือนกันซึ่งก็จะเป็นผลดีกับเว็บไซต์คุณ
127 ซ.บุญวรรณโณ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110