วัฒนธรรมเป็นมรดกของสังคม เป้นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยภูมิปัญญา เพื่อเป็นวิถีชีวิตของคนในสังคม เป็นกฎระเบียบหรือมาตรฐานของพฤติกรรมที่คนในสังคมยอมรับ โดยเป็นตัวกำหนดขับเกลา สร้างสรรค์มนุษย์ให้มีชีวิตที่ดีงาม
ผู้หญิงต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนเพียงอย่างเดียวจึงทำให้ผู้หญิงต้องถูกกดขี่ข่มเหงด้วยความไม่เสมอภาคทางเพศ
ผู้ชายมักเป็นใหญ่ในบ้าน และมีอำนาจในการตัดสินใจทุกอย่าง ส่วนผู้หญิงมีหน้าที่เพียงแค่ดูแลบ้านและบุตรเท่านั้น
การนัดพบกัน ในอดีตสามารถพบกันได้โดยการแนะนำจากผู้ใหญ่หรือพบกันตามวัดในเทศกาลต่างๆ ไม่มีโอกาสได้มาพบกันในสถานที่สาธารณะอย่างเช่นในปัจจุบัน
ผู้หญิงต้องไม่แสดงกิริยายั่วยวน ปสดงท่าทีเชื้อเชิญ หรือให้โอกาสผู้ชายได้เข้ามาใกล้ชิด
การถูกควบคุมจากผู้ใหญ่่ในเรื่องของการเลือกคนรัก การแต่งงาน ที่เรียกว่า "คลุมถุงชน" โดยให้เหตุผลถึงความคู่ควร เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าจะนึกถึงความรักระหว่างบุคคล ทั้งนี้มักจะอ้างว่าใช้บรรทัดฐานทางครอบครัวและสังคมเป็นเครื่องตัดสินใจให้เเต่งงาน
1.ผู้หญิงต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
2.ผู้หญิงต้องได้รับการศึกษาในระดับที่สูงๆ
3.ผู้หญิงมีสิทธิ์ที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นและโต้แย้งในกรณีต่างๆได้ เนื่องจากได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน
4.มีโอกาสมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องเพศ เช่น การเลือกฝ่ายชายที่จะมาเป็นคู่ครอง การขอหย่า ถ้าแต่งงานไปแล้วไม่มีความสุข การเป็นผู้นำครอบครัว เป็นต้น
1.2 สภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมในอดีตกับปัจจุบันแตกต่างกันมาก ในปัจจุบันมีสิ่งยั่วยุ สถานที่บันเทิงเริงรมย์ต่างๆ ศุนย์การค้า ปัญหาสารเสพติด และความรุนแรง ส่งผลให้วัยรุ่นอาจจะใช้ชีวิตที่หลงผิด จนอาจก่อให้เกิดเป็นปัยหาอาชญากรรมทางสังคมได้ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี ยากจน ไม่มีโอกาสศึกษาต่อ ต้องหาเลี้ยงชีพดดยไม่สุจริต ก่อให้ค่านิยมทางเพศที่ผิดๆ เช่น การมีความคิดว่า การขายบริการทางเพศเป็นสิ่งที่หารายได้ให้แก่ตนเองได้อย่างรวดเร็ว เป็นต้น
1.3 สื่อเทคโนโลยี ความก้าวหน้าและรวดเร็วของสื่อเทคโนโลยี อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้วัยรุ่นสามารถติดต่อหรือคบเพื่อนต่างเพศที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้ง่าย เพียงแต่โทรศัพท์หรือใช้อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อในการติดต่อสื่อสาร หากใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมหรือคุยกับบุคคลที่ไม่หวังดีด้วย อาจก่อให้เกิดปัญหาการถูกล่อลวงหรือปัญหาในทางไม่ดีอื่นๆ ตามมา
วัฒนธรรมไทยให้ความสำคัญในเรื่องความถูกต้องดีงามในเรื่องเพศ ซึ่งเป้นสิ่งที่สมาชิกในสังคมไทยยึดถือปฎิบัติรวมทั้งการอบรมสั่งสอน ถ่ายทอดความเชื่อและค่านิยมสืบต่อกันมาทางสถาบันครอบครัวโดยมีพ่อแม่เป็นผู้คอยสั่งสอน อบรมชี้แนะลูกให้ยึดถือเป็นแนวปฎิบัติในการดำรงชีวิต