เกมไพ่ อูโน่ (Uno)

อูโน่ (อังกฤษ: Uno, /ˈuːnoʊ/; จากภาษาอิตาลีกับสเปน แปลว่า 'หนึ่ง'; เขียนตามตราเป็น UNO) เป็นเกมไพ่ชนิดหนึ่งของอเมริกัน ที่เล่นด้วยไพ่สำรับที่พิมพ์แบบพิเศษ slotxo หลักการทั่วไปของเกมจะอยู่ใน Crazy Eights ครอบครัวของเกมไพ่ เกมนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1971 (พ.ศ. 2514) โดย เมิร์ล ร็อบบินส์ (Merle Robbins)ในซินซินแนติซึ่งเป็นย่านชานเมืองในรัฐโอไฮโอ เป็นแบรนด์ Mattel ตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 (พ.ศ. 2535)

เมื่อครอบครัวและเพื่อนๆของเขาเริ่มเล่นกันมากขึ้นเรื่อยๆ เขาใช้เงินไป 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ (253,599.46 บาท) เพื่อมีเกมทำเองจำนวน 5,000 ชุด เขาขายมันที่ร้านตัดผมของเขาในตอนแรก และนักธุรกิจในท้องถิ่นก็เริ่มขายสินค้าด้วยเช่นกัน ต่อมาร็อบบินส์ได้ขายลิขสิทธิ์ของอูโน่ให้กับกลุ่มเพื่อนที่นำโดย โรเบิร์ต เทเซก (Robert Tezak) เจ้าของสถานที่จัดงานศพในเมืองโจเลียตในรัฐอิลลินอยส์และได้รับสิทธิพิเศษ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (1,584,996.65 บาท) รวมค่าลิขสิทธิ์ 10 เซ็นต์ (3.17 บาท) ต่อเกม เทเซกก่อตั้ง International Games, Inc. เพื่อทำการตลาดกับอูโน่ โดยมีสำนักงานอยู่หลังห้องรับแขกของเขา เกมนี้ผลิตโดย ลูวิส ซอลท์ซแมน (Lewis Saltzman) จากบริษัท Saltzman Printers ในเมืองเมย์วูด รัฐอิลลินอยส์ในปีค.ศ.1992 (พ.ศ. 2535) เกม International Games กลายเป็นส่วนหนึ่งของ บริษัท Mattel

จุดมุ่งหมายของเกมคือการเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำแต้มได้ 500 คะแนนได้สำเร็จ (การเล่นมักจะต้องผ่านหลายรอบ) โดยผู้เล่นจะทิ้งบัตรทั้งหมดและได้รับคะแนนที่ค่าของคะแนนจะเป็นค่าตัวเลขรวมของใบที่ยังถืออยู่โดยผู้เล่นคนอื่นๆ

ไพ่ 1 สำรับ ประกอบด้วยการ์ดทั้งหมด 108 ใบ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 สี (สีแดง, สีเขียว, สีน้ำเงิน และ สีเหลือง) ซึ่งแต่ละสีจะมีสีละ 25 ใบ แต่ละสีจะมีไพ่ตัวเลข เลขละ 2 ใบ ยกเว้นเลข 0 ที่มีแค่ 1 ใบ โดยแต่สีจะมีเลข 0 ถีง 9 "Skip", "Draw Two", และ "Reverse" (ไพ่สามใบนี้จะเรียกว่า "action cards") นอกจากนี้ในสำรับยังมี "Wild" และ "Wild Draw Four" อย่างละ 4 ใบ

การเริ่มต้นเล่น ให้เอาไพ่เจ็ดใบแจกให้กับผู้เล่นแต่ละคน สับไพ่ด้านบนของสำรับพลิกและวางไว้เพื่อเริ่มต้น ผู้เล่นจะเล่นไปทางด้านซ้ายของคนที่เริ่มเล่นคนแรก (ตามเข็มนาฬิกา) ยกเว้นไพ่ใบแรกจะเป็นไพ่ action หรือไพ่ Wild (ดูด้านล่าง) เมื่อถึงตาผู้เล่นต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

• วางไพ่ให้ตรงกับสี, ตัวเลข และสัญลักษณ์

• วางไพ่ Wild หรือไพ่ Wild Draw Four ที่สามารถเล่นได้ (ดูข้อจำกัดด้านล่าง)

• จั่วไพ่ 1 ใบบนสำรับ

แจกคนละ 7 ใบ (5 ใบก็เร็วดี เพราะเกมนี้เล่นกันหลายครั้งกว่าจะได้ผู้ชนะ แต่แจกแค่ 5 ใบทำให้คนมักจะไม่ลืมพูดว่า Uno)

หงายไพ่หนึ่งใบตรงกลาง เป็นไพ่เริ่มต้นของกอง (discard pile)

ลงไพ่ที่เลขเดียวกัน, สีเหมือนกัน, หรือสัญลักษณ์เดียวกันกับไพ่ใบบนสุดของกอง

ถ้าลงไม่ได้ ให้จั่ว ถ้าใบที่จั่วมาสามารถลงได้ ก็อาจจะลงใบนั้นได้ทันที

Action Card

+2 (Draw Two Cards) คนถัดไปต้องจั่ว 2 ใบทันที ถึงแม้คนถัดไปจะมี Draw Two ก็ตาม (กฏบ้านอาจจะให้วางซ้อนกันได้ เพื่อสะสมโทษ และสนุกดี แต่ถ้าใช้กฎบ้านแบบนี้ แล้วเราต้องไม่สน effect ของ action card อื่นๆด้วย เช่น ลง reverse, skip ซ้อนกันได้) คนที่โดนแอ็คชั่นนี้จะไม่ได้เล่น

+4 (Wild, Draw Four Cards) ผู้ที่เล่นใบนี้จะเลือกสี และคนถัดไปต้องจั่ว 4 ใบ ใบนี้เจ็บมากแต่ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่ในมือเราไม่มีไพ่สีเดียวกับใบบนสุดของกองเท่านั้น ถ้าคนถัดไปคิดว่าเราเล่นผิดกติกา เขาสามารถ challenge ได้ ถ้าการ challenge เป็นผล เราจะต้องจั่ว 4 ด้วย (และใบ +4 อยู่บนกองเหมือนเดิม สีตามที่คนเล่นใบนี้เลือกไว้) แต่ถ้าไม่เป็นผล ผู้ challenge ต้องจั่วเพิ่มอีก 2

Wild Card สามารถลงซ้อนกับอะไรก็ได้ ผู้ที่เล่นใบนี้จะเลือกสี (เลือกสีเดิมก็ได้)

การทำโทษ เป็นปัจจัยฮาของเกมนี้

คนที่เหลือไพ่ 1 ใบ แต่ไม่พูดว่า Uno (อูโนแปลว่าหนึ่งในภาษาสเปนและอิตาลี) จะโดนทำโทษให้จั่ว 2 ใบ แต่ถ้าไม่มีใครท้วงก่อนที่เขานึกได้และพูด Uno, เขาก็จะไม่โดนทำโทษ

ต้องพูด Uno ก่อนที่ไพ่ใบรองสุดท้ายจะแตะกอง (พอแตะแล้ว คนอื่นสามารถท้วงได้ทันที)

คนที่ให้คำแนะนำ จะโดนปรับให้จั่ว 2

ลงผิด ให้นำไพ่ที่ลงผิดขึ้นมือ และจั่ว 2 ใบ จากนั้นผู้เล่นคนถัดได้เล่นเลย

กฎบ้าน : เล่นแนวจับผิดก็สนุกดี คือ ถ้าใครลงช้า หรือผิดพลาดในการพยายามจับผิด โดนปรับให้จั่ว 2

การนับคะแนน

ถ้าใบสุดท้ายที่ลงเป็นไพ่ +2 หรือ +4 คนถัดไปต้องจั่ว

ผู้ที่แพ้ ต้องมอบคะแนนให้ผู้ชนะ โดยดูจากไพ่ในมือ (ควรมีเครื่องคิดเลขช่วย)

• ไพ่ที่เป็นตัวเลข คะแนนตามเลขในไพ่

• draw two, reverse, skip ใบละ 20

• wild และ wild+4 ใบละ 50 เพราะไม่อยากให้สะสมอาวุธ

ใครได้ >= 500 ก่อน เป็นผู้ชนะ

หรืออาจจะให้แต่ละคนนับคะแนนของตน ผู้ชนะเกมนั้นได้ 0 ผู้แพ้ก็คิดตามไพ่ เมื่อมีใครคนหนึ่ง >= 500 ก็ให้คนที่ได้น้อยสุดเป็นผู้ชนะ