About EOSCE

เริ่มแรก “ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางเคมีไฟฟ้าและแสง” ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2555 ในนาม “หน่วยปฏิบัติการวิจัยเชิงเคมีไฟฟ้าและแสง” (Electrochemistry and Optical Spectroscopy Research Unit; EOSRU) โดย ศาสตราจารย์ ดร.อรวรรณ ชัยลภากุล และสมาชิกบางท่าน ซึ่งในระยะแรกหน่วยปฏิบัติการฯ เป็นเพียงหน่วยวิจัยขนาดเล็ก แต่ต่อมาได้สร้างผลงานวิจัยซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการวิชาการ จนได้รับรางวัล “หน่วยปฏิบัติการวิจัยที่มีผลงานดีเด่นประจำปี 2557” อีกทั้งผลงานวิจัยของหน่วยฯ ยังได้รับรางวัล “ผลงานวิจัยที่ได้รับการอ้างอิงสูงสุด” สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพ จากกองทุนรัชดาภิเษกสโภช จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประจำปี 2557 และ 2559 อย่างต่อเนื่อง นอกจากการผลิตผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ หน่วยปฏิบัติการวิจัยเชิงเคมีไฟฟ้าและแสง ยังส่งเสริมพัฒนากำลังคน โดยผลิตนิสิตระดับบัณฑิตศึกษาทั้งปริญญาโท และปริญญาเอก ซึ่งจากผลงานทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้หน่วยปฏิบัติการฯ ได้รับการยกระดับเป็น “ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางเคมีไฟฟ้าและแสง” (Electrochemistry and Optical Spectroscopy Center of Excellence; EOSCE) ในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เพื่อเป็นศูนย์ฯ ในการผลิตผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวัดด้วยเทคนิคทางเคมีไฟฟ้าและแสง จากผลงานวิจัยตีพิมพ์ที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ทำให้ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางฯ ได้รับการสนับสนุนทุนอุดหนุนการวิจัยจำนวนมากจากทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน อาทิเช่น กองทุนรัชดาภิเษกสมโภช คลัสเตอร์วัสดุขั้นสูง และคลัสเตอร์สุขภาพ (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นต้น จากระยะเวลาเพียง 5 ปี ศูนย์ฯ ได้ผลิตงานวิจัยที่มีคุณภาพสูงที่สามารถตีพิมพ์ในระดับสูงสุด 10 เปอร์เซนต์ (Tier 1) ได้จำนวน 77 ฉบับ ระดับสูงสุด 25 เปอร์เซนต์ (Q1) จำนวน 58 ฉบับ และอนุสิทธิบัตรจำนวน 10 ฉบับ อีกทั้งได้รับรางวัล “นวัตกรรมดีเด่น” ระดับเหรียญทองและเงิน จากหน่วยงานระดับชาติ และนานาชาติ โดยศูนย์จะยังคงมีเป้าหมายเพื่อช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการพัฒนานวัตกรรมการวิจัยเชิงเคมีไฟฟ้าและแสง ทางด้านการแพทย์ อาหาร และสิ่งแวดล้อม ให้มีความยั่งยืนต่อไป

เป็นศูนย์กลางการพัฒนานวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่เพื่อการตรวจวัด โดยมุ่งเน้นการตรวจวัดเชิงเคมีไฟฟ้าและแสง โดยองค์ความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นจากงานวิจัยสามารถนำไปประยุกต์ใช้หรือต่อยอดเป็นแนวทางในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และสร้างความร่วมมือทางวิชาการทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมุ่งเน้นการอุทิศตนเพื่อฝึกอบรมทางวิชาการและสร้างโอกาสการทำวิจัย เพื่อการพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพให้แก่นิสิตและนักวิจัยรุ่นใหม่ รวมถึงผลักดันการพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทั้งเชิงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์

เป็นแหล่งอ้างอิงด้านวิชาการในระดับชาติและนานาชาติด้านวิธีการตรวจวัดและอุปกรณ์ตรวจวัดเชิงเคมีไฟฟ้าและเชิงแสงสำหรับการประยุกต์ใช้ในด้านอาหาร สิ่งแวดล้อม และการแพทย์ รวมทั้งสามารถพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์และองค์ความรู้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทั้งเชิงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ และสร้างนักวิจัยใหม่และพัฒนาบัณฑิตศึกษาให้มีความเชี่ยวชาญในด้านเชิงเคมีไฟฟ้าและเชิงแสง