เหตุการณ์สำคัญ

เหตุการณ์ : ลูกเรือเสียชีวิต 6 ราย เหตุภาวะขาดวิตามินบี 1 

มื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนอง ได้รับแจ้งว่ามีลูกเรือประมงเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ 4 ราย สงสัยเสียชีวิตจากภาวะขาดวิตามินบี 1  ผลการสอบสวน พบลูกเรือมีอาการป่วย 32 ราย (กัมพูชา 25 ราย ไทย 7 ราย) จากลูกเรือประมงทั้งสิ้น 115 คน บนเรือประมง 6 ลำ (อัตราป่วยร้อยละ 27.8) เป็นผู้ป่วยยืนยัน 24 ราย ผู้ป่วยเข้าข่าย 5 ราย และผู้ป่วยสงสัย 3 ราย มีเสียชีวิต 6 ราย ผู้ป่วยเป็นเพศชายทั้งหมด ผู้ป่วยมีอาการหายใจเหนื่อยในสัดส่วนสูงสุด ตามมาด้วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง แน่นหน้าอกหรือเจ็บหน้าอก ชา ปวดกล้ามเนื้อและบวม ผลการตรวจเลือดผู้ป่วย 24 ราย พบภาวะขาดวิตามินบี 1 ทั้งหมด ส่งตัวอย่างอาหารและน้ำ 25 ตัวอย่าง ตรวจสารโลหะหนักประเภทตะกั่ว สารหนู แคดเมียมและปรอทพบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่มีค่าไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน ยกเว้นยาเส้นมีสารแคดเมียมสูงกว่ามาตรฐาน การตรวจชันสูตรศพทางนิติเวช จำนวน 6 ราย แพทย์สรุปสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากลักษณะห้องหัวใจขยายตัวกว่าปกติซึ่งเข้าได้กับภาวะขาดวิตามินบี 1 จำนวน 5 ราย และจากกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ 1 ราย ผลการศึกษาบ่งชี้ว่า การป่วยและเสียชีวิตของลูกเรือประมงครั้งนี้ เกิดจากภาวะขาดวิตามินบี 1 โดยคาดว่าปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดการป่วย คือ การได้รับปริมาณอาหารไม่เพียงพอขณะอยู่กลางทะเลนานกว่า 9 เดือน โดยไม่ได้กลับเข้าฝั่ง พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีสารทำลายวิตามินบี 1 และการทำงานที่ใช้พละกำลังเป็นหลัก ทำให้ความต้องการวิตามินบี 1 มากกว่าปกติ ดังนั้น ในกลุ่มลูกเรือประมงที่ออกทะเลโดยไม่กลับเข้าฝั่งตั้งแต่ 30 วันขึ้นไป ควรมีการให้วิตามินบี 1 เสริมเพื่อป้องกัน 

เหตุการณ์ : ก๊าซแอมโมเนียโรงงานแปรรูปอาหารทะเล
                    เมืองระนองรั่ว 

วันที่ 22 กรกฎาคม 2555 เกิดเหตุที่ หมู่ที่ 5 ต.บางริ้น อ.เมือง ระนอง ซึ่งเป็นโรงงานผลิตกุ้งแช่แข็งส่งออก ได้เกิดเหตุท่อแก๊สแอมโมเนียสำหรับทำความเย็น และผลิตน้ำแข็งเกิดรั่วไหล ผู้ป่วยมีอาการช็อก ตัวเกร็งแขนเกร็ง ในรายที่สูดดมแก๊สแอมโมเนียเข้าไปมาก และให้ออกซิเจนเพิ่มเติม ส่วนที่ตาจะแสบและมีน้ำตาไหล ต้องล้างหน้าและน้ำผ้าชุบน้ำคอยเช็ดหน้า เบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 14 ราย ส่งเข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยภายใน 4 ราย และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ จำนวน 10 ราย ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบภายในโรงงานมีกลิ่นแก๊สแอมโมเนียลอยฟุ้งกระจายอยู่ภายในอาคารซึ่งมีพนักงานทำงานอยู่ประมาณ 30 คน หลังจากได้รับกลิ่นแก๊สพิษ ต่างก็ชุลมุนวิ่งออกมาหน้าโรงงาน และพบว่า มีคนงานได้รับสารพิษบริเวณตา ปาก และจมูก ขณะเกิดเหตุ แก๊สแอมโมเนียเกิดการรั่วไหลออกจากท่อลำเลียงแก๊ส มีกลิ่นฟุ้งกระจายเข้าไปในห้องทำงานของพนักงานภายในโรงงาน พนักงานของบริษัทได้เข้าไปทำการปิดวาล์วจนสามารถควบคุมการรั่วไหลของแก๊สแอมโมเนียได้ ด้านสาธารณสุข ผู้บาดเจ็บที่สูดดมเอาแก๊สแอมโมเนียเข้าไปจะมีผลต่อระบบหายใจ มีการมึนเวียนศีรษะ และอาจจะเป็นลมได้ แต่ยังไม่มีผู้ป่วยที่อาการหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้นอนรอดูอาการภายในห้องฉุกเฉินว่าหายใจเองได้หรือไม่ ส่วนคนที่รับแก๊สแอมโมเนียเข้าไปในปริมาณมาก อาจจะไปทำลายเนื้อเยื่อระบบหายใจ ผู้บาดเจ็บทั้งหมดที่เข้ามารักษามีทั้งสิ้น จำนวน 14 ราย รับไว้เป็นผู้ป่วยภายใน 4 ราย ส่วนที่เหลือ 10 ราย แพทย์อนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน