วันพฤหัสบดี ที่16 มิถุนายน พุทธศักราช 2565 คาบที่6-7
สมาชิกกลุ่ม
1.เรษนรินทวี ผ่องโอสถ เลขที่ 16 ม. 4/2
2.โชติกา อุ่นพานิชย์ เลขที่ 25 ม. 4/2
สรุปเนื้อหาหน่วยที่ 1 เรื่อง ระบบทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อน
สอบวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม 2565
ระบบทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อน คือ ระบบทางเทคโนโลยีที่ประกอบด้วยระบบย่อย (subsystem) มากกว่า 1 ระบบ ที่ทางานสัมพันธ์กัน หากระบบย่อยส่วนใดทางานผิดพลาดจะส่งผลทาให้ระบบย่อยอื่นหรือระบบ ใหญ่ไม่สามารถท างานได้ตามวัตถุประสงค์ เช่น ในระบบของตู้เย็นถ้าระบบการควบคุมความเย็นในห้องแช่แข็งไม่ ทางานก็จะทาให้ตู้เย็นเครื่องนั้นทางานได้ ...
เทคโนโลยีมีการเปลียนแปลงตลอดเวลา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลายด้าน เช่น ปัญหา ความต้องการ ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ เศรษฐกิจ สังคม
สาเหตุหรือปัจจัยของการเปลี่ยนทางเทคโนโลยี มี 5 ปัจจัย ดังนี้
1. แก้ปัญหาสนองความต้องการและเพิ่มความสามารถของมนุษย์
2. ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะวิทยาศตร์และคณิตศาสตร์
3. เศรษฐกิจหรือฐานะทางการเงิน
4. สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
5. สังคมและวัฒนธรรมความนิยมแพร่หลาย
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อมนุษย์และสังคม
ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์ ...
ช่วยทำให้การผลิตในอุตสาหกรรมดีขึ้น ...
ช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้นคว้าวิจัยสิ่งใหม่ ...
ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ...
ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์ ...
ช่วยให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน ...
ช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย
วัสดุมีอยู่หลายประเภท ทั้งจากธรรมชาติ และมนุษย์สร้างขึ้นหรือที่เรียกว่า "วัสดุสังเคราะห์"วัสดุบางประเภทอาจนำมาใช้ได้ทันทีโดยไม่มีการแปรรูป หรือมีการแปรรูปให้เหมาะสมต่อการนำไปใช้งานโดยกระบวนการในการแปรรูปจะแตกต่างกันตามเหมาะสมของสมบัติวัสดุ และความต้องการในการใช้งาน ในอดีตวัสดุประเภทต่างๆ ยังมีไม่มาก มนุษย์จึงใช้วัสุดที่มาจากธรรมชาติ เช่น ดิน หิน ทราย เขาสัตว์ หนังสัตว์ ใบไม้ นำมาสร้างเป็นสิ่งของเครื่องใช้ ต่อมาได้มีการนำวัสดุมาพัฒนาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น เช่น โลหะ ไม้ เซรามิก คอมโพสิต และวัสดุใหม่
กลไก หมายถึง ส่วนของอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ส่งผ่านการเคลื่อนที่ ทำให้มีการเปลี่ยนตำแหน่งจากต้นทางไปยังปลายทางของการเคลื่อนที่ หรือทำหน้าที่เปลี่ยนทิศทาง ความเร็ว ลักษณะการเคลื่อนที่ นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนแรงให้ทำงานได้ง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การทำงานของกลไกนั้นต้องอาศัยอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนเป็นตัวทำให้เกิดการทำงานในลักษณะต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์แต่ละประเภทจะมีหน้าที่แตกต่างกันไป และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องควบคุมการทำงานให้เป็นไปตามความต้องการ ในบทเรียนนี้จะขอยกตัวอย่างล้อและเพลา ซึ่งเป็นกลไกอย่างง่ายและสามารถพบเห็นได้โดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเป็นขั้นตอนที่นำมาใช้ในดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการซึ่งกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมจะเริ่มโดยการระบุปัญหาที่พบแล้วกำหนดเป็นปัญหาที่ต้องการแก้ไข จากนั้นจึงค้นหาแนวคิดที่เกี่ยวข้องและวิเคราะห์เพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมสำหรับการแก้ไข เมื่อได้วิธีการที่เหมาะสมแล้วจึงทำการวางแผนและพัฒนาสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการเมื่อได้สร้างขึ้นงานหรือวิธีการเรียบร้อยแล้วจึงนำไปทดสอบถ้ามีข้อบกพร่องให้ทำการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้สิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการนั้นสามารถใช้แก้ไขปัญหาหรือสนองความต้องการได้ และในตอนท้ายจะประเมินผลว่าสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการนั้นสามารถใช้แก้ปัญหาหรือสนองความต้องการได้ตามที่กำ
การเเก้ปัญหาหรือพัฒนางานตามกระบวนการออกเเบบเชิงวิศสะกรรมช่วยให้มีการทำงานได้อย่างเป็นระบบ มีการวางเเผนการทำงา่นอย่างเป็นขั้นตอน สามารถย้อนกลับไปเเก้ไขได้ง่ายขึ้นเมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือปรับปรุงงานให้มีคุณภาพมากขึ้นซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการเเก้ปัญหาหรือพัฒนางานตามกระบวนการออกเเบบเชิงวิศวะกรรมอาจเป็นได้ทั้งชิ้นงานหรือวิธีการขึ้นกับบริบทของสถานการณ์์ปัญหา